“หนีฝุ่น ไปชมถ้ำ” 6 ถ้ำธรรมชาติ จังหวัดเชียงใหม่

จังหวัดเชียงใหม่ทางภาคเหนือของประเทศไทย มีธรรมชาติ วิวทิวทัศน์ที่สวยงามและภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยป่าเขตร้อนที่เขียวขจี ลักษณะเป็นเทือกเขาขนาดใหญ่สลับซับซ้อน จึงเกิดถ้ำที่สวยงามหลายแห่ง

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” ขอนำเสนอ ถ้ำในจังหวัดเชียงใหม่ที่สวยงาม เช่น ถ้ำบริจินดา ถ้ำเชียงดาว ถ้ำหลวงแม่สาบ ถ้ำเมืองออน ถ้ำตับเตาและถ้ำตอง

มาทำความรู้จัก 6 ถ้ำในจังหวัดเชียงใหม่

1. ถ้ำบริจินดา
สถานที่ตั้ง : อำเภอจอมทอง
ถ้ำบริจินดา เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาดอยอ่างกา หรือ ดอยอินทนนท์ ใกล้น้ำตกแม่กลาง อำเภอจอมทอง ภายในถ้ำมีความลึกหลายกิโลเมตร เพดานถ้ำมีหินงอก หินย้อยหรือชาวเหนือเรียกว่า “นมผา” มีความสวยงามมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย นอกจากนั้นยังมีธารหิน เมื่อมีแสงสว่างมากระทบจะเกิดประกายระยิบระยับสะท้องแสงงามอย่างมาก ลักษณะของถ้ำเป็นถ้ำทะลุสามารถมองเห็นภายในได้ถนัด เพราะมีอุโมงค์ซึ่งแสงสว่างลอดเข้ามาก่อนจะถึงปากถ้ำจะมีป้ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่อธิบายถึงประวัติของการค้นพบถ้ำแห่งนี้

การเดินทาง
ถ้ำบริจินดาอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 67 กิโลเมตร จากเชียงใหม่เดินทางตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 (ถนนเชียงใหม่ – ฮอด) จนถึงจอมทองระยะทาง 58 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าไปยังน้ำตกแม่กลางอีก 8 กิโลเมตร จะถึงทางแยกขวามือขึ้นดอยอินทนนท์อีก 1 กิโลเมตร จะเห็นทางแยกขวามือจะมีป้ายบอกทางไปถ้ำบริจินดา
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง
เปิดให้เข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 16:00 น.
สอบถามข้อมูล โทร. 0 5328 6730

2. ถ้ำเชียงดาว
สถานที่ตั้ง : อำเภอเชียงดาว
ถ้ำเชียงดาว ถ้ำเชียงดาวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ ตัวถ้ำตั้งอยู่ในเขตอําเภอเชียงดาวเมื่อไปถึงหน้าถ้ำจะเห็นบริเวณ กว้างขวางสําหรับจอดรถ มีศาลานั่งพักหลังใหญ่ ส่วนทางเข้าถ้ำเป็นบันไดไต่สู่ตัวถ้ำ ภายในแต่ละถ้ำต่างมีความงามจากการเสกสรรปั้นแต่งของธรรมชาติ ชวนให้ตื่นตาตื่นใจกับปรากฏการณ์ของหินงอกหินย้อยที่ก่อให้เกิดรูปร่างต่างๆ มีชื่อเรียกตามลักษณะรูปทรง เช่น หินดอกบัวบาน หินดอกบัวพันชั้น หินมือยักษ์ หินโคมไฟเทวดาโดยเฉพาะภายในถ้ำแก้วมีธารหินเมื่อยามกระทบแสงสว่างนั้นดูงดงามตระการตาเพราะจะเห็นเป็นแสงระยิบระยับคล้ายประกายของเพชร บริเวณหน้าถ้ำมีธารน้ำไหลผ่านเต็มไปด้วยปลาหลายชนิด ด้านขวามือตรงกลางสระเป็นเรือสําเภาหิน หรือหากนักท่องเที่ยวต้องการชมบริเวณถ้ำทั้งหมดก็สามารถติดต่อคนนําทางได้บริเวณหน้าถ้ำ ถ้ำหลวงเชียงดาวเป็นโบราณสถานที่ผู้คนมากมายเลื่อมใสศรัทธา อาจเป็นเพราะได้รู้เรื่องราวอัศจรรย์จากตำนานาที่เล่าสืบต่อกันมาจนกลายมาเป็นความเชื่อความศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของถ้ำหลวงเชียงดาวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

การเดินทาง
จากเชียงใหม่เดินทางตามทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่ – ฝาง) ไปยังอำเภอเชียงดาว ระยะทาง 72 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปจนถึงถ้ำอีก 5 กิโลเมตร ถนนเป็นถนนราดยางอย่างดีจนถึงบริเวณถ้ำ
เปิดให้เข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 16:00 น.
อัตราค่าเข้าชม 10 บาท (ราคานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ)

3. ถ้ำหลวงแม่สาบ
สถานที่ตั้ง : อำเภอสะเมิง
ถ้ำหลวงแม่สาบ ถ้ำหลวงแม่สาบตั้งอยู่ในอำเภอสะเมิง ซึ่งนอกจากจะมีความหลากลหายทางด้านวัฒธรรมแล้วยังมีความหลากหลายทางด้านภูมิศาสตร์เกิดความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและสวยงามอีกแห่งหนึ่งก็คือถ้ำหลวงแม่สาบ เป็นถ้ำขนาดกลาง มีสองชั้นหลายคูหา ชั้นบนเป็นปล่องโพรงทะลุมองเห็นท้องฟ้า คล้ายปล่องภูเขาไฟ ชั้นล่างลึกประมาณ 150 เมตร ความงดงามภายในถ้ำยังถือว่ามีความสมบรูณ์อยู่มาก มีหินงอก หินย้อยอยู่มากมาย อากาศภายในถ้ำค่อนข้างเย็น โปร่งโล่งไม่อึดอัด อากาศถ่ายเทได้สะดวก บริเวณถ้ำมีลานจอดรถกว้างขวางและสภาพแวดวล้อมร่มรื่นจัดภูมิทัศน์ไว้อย่างสวยงาม

การเดินทาง
จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่ – ฝาง) ผ่านอำเภอแม่ริมจากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข 1096 จนถึงอำเภอสะเมิง จากตัวอำเภอสะเมิงใช้เส้นทางบ่อแก้ว – สะเมิง ทางหลวงหมายเลข 1349 ไปทางทิศเหนือห่างออกจากตัวอำเภอสะเมิงไปประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะเจอป้ายทางเข้าซ้ายมือเข้าตัวถ้ำอย่างชัดเจน
จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่ – ฮอด) ผ่านอำเภอหางดงจากนั้นไปตามทางหลวงหมายเลข 1269 จนถึง อำเภอสะเมิง จากอำเภอสะเมิงไปตามทาง รพช. สายสะเมิง – บ้านวัดจันทร์ เส้นทางนี้มีทิวทัศน์ธรรมชาติสวยงามมาก โดยเฉพาะช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติขุนขาน อำเภอสะเมิง
เปิดให้เข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 16:00 น.
สอบถามข้อมูล โทร. 08 1883 3800

4. ถ้ำเมืองออน
สถานที่ตั้ง : อำเภอแม่ออน
ถ้ำเมืองออน ถ้ำเมืองออนเป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่บนเทือกเขา บริเวณใกล้เคียงมีภูเขาเรียงรายอยู่หลายลูก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเป็นเวลาสะสมมาเนินนานจนเกิดมีรูปร่างต่างๆ ทางเข้าถ้ำเป็นบันไดลึกลงสู่เบื้องล่างมีโถงถ้ำขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม ตรงกลางโถงถ้ำเป็นหินงอก “พระธาตุนมผา” เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำถ้ำ ผนังถ้ำเป็นหินงอกหินย้อย สดใสแวววาวเมื่อยามกระทบแสงสว่างนั้นดูงดงามตระการตาเพราะจะเห็นเป็นแสงระยิบระยับคล้ายประกายของเพชร นอกจากสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติแล้วภายในถ้ำยังมีสิ่งที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น เพื่อเคารพบูชาตามความเชื่อของศาสนาพุทธ ซึ่งจะพบเห็นได้ตามจุดต่างๆ ตามเส้นทางเดินภายในถ้ำ ส่วนมากจะเป็นพระพุทธรูปทั้งองค์เล็กและใหญ่ ภายในถ้ำแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ของครูบาศรีวิชัย และบริเวณปากถ้ำมีรูปปั้นครูบาศรีวิชัย และสถูปอัฏฐิของท่าน รวมทั้งมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้วย

การเดินทาง
โดยรถยนต์ – จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหมายเลข 1006 (เชียงใหม่ – สันกำแพง) จากนั้นไปจนสุดระยะทางจะพบทางแยกตัดผ่านเส้นทางหมายเลข 1317 เข้าสู่อำเภอสันกำแพง เลี้ยวซ้ายไปตามเส้นทางหมาเลข 1317 เป็นระยะทางอีกประมาณ 7 สังเกตบ้านถ้ำเมืองออนทางด้านซ้ายมือ จากนั้นเลี้ยวซ่ายเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร
โดยรถประจำทาง – หากนักท่องเที่ยวประสงค์จะเดินทางไปโดยรถประจำทางก็สามารถทำได้โดยขึ้นรถจากสถานีขนส่งช้างเผือกไปยังอำเภอสันกำแพง และเช่าเหมารถสองแถวจากอำเภอสันกำแพงไปยังถ้ำเมืองออน
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ อำเภอสันกำแพง
เปิดให้เข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 16:00 น.
อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท (ราคานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบ)
สอบถามข้อมูล โทร. 0 5381 8348

5. ถ้ำตับเตา
สถานที่ตั้ง : อำเภอไชยปราการ
ถ้ำตับเตา ถ้ำตับเตาเป็นถ้ำที่ความสวยงามภายในถ้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ถ้ำตับเต่านี้แยกออกเป็น 2 ถ้ำ คือถ้ำผาขาวและถ้ำปัญเจค จากการสำรวจด้านที่ติดกับเขามีลำห้วยไหลผ่านเข้าไปในเขตวัดน้ำใสสะอาดตลอดปีมีต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้นอยู่สภาพป่าบริเวณใกล้เคียงสมบูรณ์มาก การคมนาคมสะดวกทุกฤดูกาล ถ้ำตับเต่าเป็นชื่อที่เรียกเพี้ยนมาจากคำว่า “ดับเต้า” ซึ่งหมายถึงการดับขี้เถ้า ที่เกิดจากการเผาไหม้ของป่า ทั้งนี้เมื่อเรียกกันนานๆ เข้าก็เลยเพี้ยนมาเป็นตับเต่าหรือตับเตา หน้าถ้ำเป็นวัดป่าเก่าแก่ วัดถ้ำตับเต่าเป็นวัดที่ร้างมานานก่อนที่เจ้าหลวงมหาวงศ์จะสั่งให้บูรณะปฎิสังขรณ์สร้างวัดถ้ำตับเต่าขึ้นได้มีชาวนอร์เวย์ มาสำรวจธรรมชาติในล้านนาไทยเข้ามาพักที่เมืองฝางและได้บันทึกถึงความสำคัญของสถานที่นี้ไว้ว่า ถ้ำแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนามามากกว่าร้อยปี มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นพระนอน ก่อด้วยอิฐโบกปูนทาด้วยยางไม้และปิดทอง ชำรุดทรุดโทรม ยางไม้และทองหลุดร่อนลงเป็นแห่งรอบๆ พระนอนองค์ใหญ่นี้มีพระสาวกนั่งประนมมือประหนึ่งฟังคำสวดจากพระพุทธเจ้า

การเดินทาง
จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่ – ฝาง) ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 120 และ 121 แยกซ้ายมือเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติผาแดง อำเภอเชียงดาว
เปิดให้เข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 16:00 น.

6. ถ้ำตอง
สถานที่ตั้ง : อำเภอจอมทอง
ถ้ำตอง ถ้ำตองตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลบ้านแปะ อำเภอจอมทอง บนดอยผาเลียบซึ่งเป็นภูเขาหินแกรนิตและหินปูนที่มีรูปร่างเหมือนถูกผ่าครึ่งแล้วแยกกันอยู่คนละฝั่งลำน้ำแม่แปะ ซีกที่อยู่ทางฝั่งขวามีถ้ำลึกที่มีตำนานเล่าขานกันว่าถ้ำนี้เป็นอุโมงค์หินที่มีความยาวมากกล่าวว่าทะลุถึงดอยเชียงดาวทางเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณปากอุโมงค์เป็นคูหาขนาดประมาณ 5 คูณ 10 เมตร สูง 3 เมตร ลึกเข้าไป จากนั้นเป็นโพรงหินเล็กๆ ขนาดพอตัวคนคลานเข้าไปได้ สภาพภายในคูหาปากถ้ำถูกสกัดตกแต่งใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของสำนักวิปัสสนาถ้ำตอง โดยรอบในหุบเขาร่มรื่นครึ้มด้วยพันธุ์ไม้ป่าดงดิบที่มีขนาดใหญ่ๆ เช่น มะม่วงป่า ตะเคียนทอง มะหาด กระท้อน หน้าถ้ำมีธารน้ำแม่แปะไหลผ่าน ซึ่งต้นแม่น้ำแปะห่างจากถ้ำตองขึ้นไปประมาณ 1 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเล็กๆ

การเดินทาง
จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่ – จอมทอง – ฮอด) ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ 76 กิโลเมตร เลยอำเภอจอมทองไปประมาณ 23 กิโลเมตร ถ้ามาจากตัวเมืองเชียงใหม่ ทางเข้าถ้ำจะอยู่ด้านขวามือประมาณกิโลเมตรที่ 82 – 83 ถนนสายเชียงใหม่ – ฮอด
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติออบหลวง อำเภอฮอด
เปิดให้เข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00 – 16:00 น.

เรียบเรียงโดย “เชียงใหม่นิวส์”
ภาพจาก : http://www.thaiticketmajor.com (ถ้ำบริจินดา)
ภาพจาก : http://www.painaidii.com (ถ้ำเชียงดาว)
ภาพจาก : http://modlatte.blogspot.com (ถ้ำตอง)
อ้างอิงข้อมูลจาก : http://www.sawadee.co.th

ร่วมแสดงความคิดเห็น