ท้าชิม! “ข้าวหลามบัวคำ โป่งกุ่ม” ของดีรสเด็ด อ.ดอยสะเก็ด ทำขายไม่ต่ำกว่า 1,000 กระบอก ต่อวัน

ท้าชิม! “ข้าวหลามบัวคำ โป่งกุ่ม” ของดีรสเด็ดประจำ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ทำสดใหม่ไม่ต่ำกว่า 1,000 กระบอก ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน

รายงานจาก จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ที่บ้านโป่งกุ่มสามัคคี ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนดอยสะเก็ด ที่บรรดานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ชื่นชอบการไปพักผ่อนแช่น้ำร้อนจากแหล่งธรรมชาติ เพื่อคลายความเหนื่อยเมื่อยล้าของของร่างกาย ท่ามกลางขุนเขาที่ล้อมรอบแล้ว ที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังเป็นแหล่งผลิตและขายข้าวหลาม ที่ลูกค้ารายใดได้ลิ้มลองแล้ว ต่างต้องยกนิ้วให้ชื่นชมในรสชาดความอร่อย โดยข้าวหลามมีชื่อว่า “ข้าวหลามบัวคำ@โป่งกุ่ม” ของนางสิรินทร์ญา ทาอินทร์ อายุ 47 ปี ซึ่งเปิดพื้นที่หน้าบ้านเป็นสถานที่ผลิต ทั้งปรุงส่วนผสมและเผา แล้ววางขายข้าวหลาม ที่จะทำขายไปตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึงช่วงค่ำของทุกวัน ตั้งแต่ในช่วงเดือน ต.ค.-เม.ย.ของทุกปีเท่านั้น

นางสิรินทร์ญา เปิดเผยว่า ข้าวหลามบัวคำ เปิดขายมานานเกือบ 20 ปี ตั้งแต่ปี 2543 โดยสูตรที่คิดค้นและพัฒนาปรับปรุงขึ้นจากข้าวหลามแบบดั้งเดิม ที่ปกติชาวบ้านจะทำกินกันอยู่แล้ว จนมีรสชาดกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทั้งข้าวหลามกะทิ,ข้าวหลามข้าวเหนียวดำ,ข้าวหลามงาขี้ม่อน,ข้าวหลามกะทิถั่วดำ และข้าวหลามผสมถั่วดำกับงาขี้ม่อน ทั้งนี้เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การคัดสรรวัตถุดิบอย่างดี ทั้งข้าวเหนียวที่เป็นข้าวใหม่ และกะทิจากมะพร้าวที่ผ่านการคัดสรรแล้วคั้นเองสดๆ จากนั้นนำส่วนผสมมาคลุกเคล้าให้เข้ากันเป็นอย่างดี ก่อนกรอกใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่สด ปิดปากกระบอกด้วยกาบมะพร้าวและใบเตย นำไปวางเรียงรายเผาบนเตาถ่านนานประมาณ 30 นาที เมื่อสุกแล้วปอกเปลือกกระบอกไม้ไผ่ให้บางลง พร้อมขายในราคากระ บอกละ 25 บาท

โดยจำนวนข้าวหลามที่ทำขายในแต่ละวันนั้น นางสิรินทร์ญา บอกว่า เฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 1,000 กระ บอก แต่ในบางช่วงอาจจะมากถึง 1,500 กระบอก ต้องใช้คนช่วยประมาณ 10 คน แบ่งหน้าที่ต่างๆ ทำกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งคนที่ช่วยงานนั้น ส่วนใหญ่เป็นเครือญาติ เพราะถือเป็นธุรกิจในครัวเรือน รวมทั้งมีการจ้างงานชาวบ้านในหมู่บ้านให้มาช่วยด้วย เท่ากับเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่ง ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่ จะเป็นนักท่องเที่ยวทั้งที่จะเดินทางมาเที่ยวในพื้นที่ และจะผ่านไปท่องเที่ยวทางบ้านแม่กำปอง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ หรือจะไป จ.เชียงราย เพราะที่ตั้งถือว่าอยู่ระหว่างเส้นทางท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งที่ซื้อกินเองและซื้อนำไปเป็นของฝาก

นอกจากข้าวหลามที่วางขายหน้าร้านแล้ว นางสิรินทร์ญา บอกว่า บางส่วนจะถูกส่งไปวางขายที่ตลาดหลายแห่งในเชียงใหม่ด้วย ซึ่งทุกวันจะต้องเริ่มทำกันตั้งแต่เช้ามืด และขายไปตลอดทั้งวันจนค่ำ และก็ขายหมดทุกวัน อย่างไรก็ตามข้าวหลามที่ตัวเองทำนั้น จะทำขายเฉพาะช่วงระหว่างเดือน ต.ค.- เม.ย. เท่านั้น เพราะเป็นช่วงที่วัตถุดิบพร้อมสรรพและคุณภาพดีที่สุด โดยในช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว ซึ่งหากผู้ที่มีโอกาสผ่านไป สามารถแวะเวียนไปอุดหนุนและลิ้มชิมรสท้าพิสูจน์กันได้ หรือสอบถามรายข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทาง เฟซบุ๊ก “บัวคำ ข้าวหลามกะทิ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น