“บิ๊กตู่” เยือนเชียงราย คนรอรับกว่า 20,000 เขต 1 เชียงราย คาดพลังประชารัฐได้นั่ง ส.ส.

วันที่ 16 มี.ค.62 พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการพื้นที่ จ.เชียงราย โดยช่วงเช้า ได้ไปนมัสการอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช บริเวณห้าแยกพ่อขุน เขตเทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีส่วนราชการและประชาชนพากันไปต้อนรับ จากนั้นเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยวัยที่ 3 ชุมชนน้ำลัด โดยมี นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วย นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยวัยที่ 3 ให้การต้อนรับ

ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมชมสะพานถนนเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันตกในเขต อ.เมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างสายทางเลี่ยงเมืองเชียงราย ที่กรมทางหลวงอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ให้เชื่อมระหว่างฝั่งตะวันตกของถนนพหลโยธินด้านหน้าท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ ไปยังสะพานข้ามแม่น้ำกก ต.ดอยฮาง อ.เมือง ระยะทางประมาณ 21 กม.

โดยระหว่างเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยที่สาม นครเชียงราย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒ นาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอความร่วมมือทุกคน ช่วยกันทำให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป อย่าให้ 5 ปี ที่ทำมาต้องสูญเปล่า ไม่งั้นตนเองคงเสียใจตาย ด้วยคนไทยมีหัวใจนักสู้ทุกคน เราอดทนกันมานาน ขอให้อดทนกับตนเองอีกหน่อย ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ขอให้สัญญาจะทำอนาคตให้กับทุกคน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะใช้โอกาสในการพบปะกับ นางอองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ สหภาพเมียนมา เพื่อขอความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 อันสืบเนื่องจากการเผาทำลายป่า ในโอกาสที่จะร่วมกันเปิดสะพาน มิตรภาพไทย- เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย-ตองยิน แห่งที่ 2 ที่ จ.ตาก รวมทั้งจะขอความร่วมมือกับคนไทยในพื้นที่ ลดการเผาป่าเพื่อล่าหนู ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่คุ้มค่า

หลังเสร็จสิ้นภารกิจ มหาวิทยาลัยวัยที่ 3 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เดินทางต่อไปยังศาลากลาง จ.เชียงราย ติดตามการดำเนินงาน เรื่อง ไม้มีค่า ป่าชุมชน คนอยู่กับป่า พร้อมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน ให้แก่ผู้แทนป่าชุมชน พร้อมกล่าวกับประชาชนที่มารอให้การต้อนรับ ประมาณ 2 หมื่นคน โดยนายกรัฐมนตรี อู้คำเมือง อ้อนชาวเชียงราย ถึงแม้ไม่ใช่คนแรกในหัวใจ แต่ความรู้สึกที่ให้ไปก็ไม่แพ้ใคร ทั้งยังรักและคิดถึงมากเหมือนเดิม ก่อนมอบนโยบายอย่างดุดัน เปรียบหัวหน้ารัฐบาลก็เหมือนหัวหน้าครอบครัว มีรัฐมนตรีและข้าราชการเป็นเครือญาติ ต้องดูแลคนในบ้านกว่า 60 ล้านคน จึงต้องร่วมมือกันทำให้ครอบครัวมีความสุขอย่างยั่งยืน

การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ว่าจะต้องพิจารณารอบคอบ จะขึ้นเฉพาะคนไทยไม่ได้ ต้องขึ้นให้กับแรงงานต่างประเทศที่ทำในไทยด้วย ไม่เช่นนั้นจะผิดกติกาสากล ซึ่งการพิจารณาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มีคณะกรรมการ 3 ฝ่ายพิจารณาอยู่ จาก 300 บาทเป็น 330 บาท ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยันไม่ต้องการให้ใครมารักตนเอง โดยใช้วิธีการที่ไม่ถูกต้อง ระบุหากจะรักลูกก็ต้องรักลูกให้ถูกวิธี เปรียบอย่าสร้างปราสาททรายที่สวยงาม แต่ท้ายที่สุดต้องล้มไปทั้งหมด ประเทศชาติไม่ใช่บริษัทอย่ามาเรียกค่าต๋ง

เรื่องการรักษาพยาบาล นายกรัฐมนตรี ย้ำของเดิมที่ทำไว้ รัฐบาลนี้ก็สานต่อ ส่วนที่มีการหาเสียงระบุว่า จะสร้างโรงพยาบาลตำบลทั่วประเทศนั้น ข้อเท็จจริงแล้ว โรงพยาบาลตำบลมีครบทั้งประเทศแล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมา ไม่มีการจัดสรรงบประมาณเข้าไปสนับสนุน ดังนั้น ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นผู้นำต่อไป ก็ขอให้ทำตามในสิ่งที่รัฐบาลนี้ได้วางไว้ ก่อนทิ้งท้าย ชาติบ้านเมืองจะเข้มแข็งได้ ต้องมีการเมืองที่มีเสถียรภาพ อย่าให้ใครมาชักชวนให้ไปร่วมชุมนุมสร้างความขัดแย้งที่กรุงเทพฯอีก ย้ำคนชั่วยังมีอยู่ โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถยนต์หมายเลขทะเบียน กค 4 เชียงราย ก่อนจะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.แพร่

สำหรับในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของ จ.เชียงราย ที่มี 2 พรรคการเมืองใหญ่ อย่าง พรรคเพื่อไทย กับ พรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งตัวเก็งลงประชันกัน ระหว่าง นายสามารถ แก้วมีชัย สังกัดพรรคเพื่อไทย กับ นางรัตนา จงสุท ธานามณี ที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่ง ณ เวลานี้ คาดว่าคะแนนเสียงเทมาอยู่ทางฝั่งพลังประชารัฐ ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนจากฐานเสียงเดิมของนายรัตนา ที่เคยเป็นอดีตนายก อบจ.เชียงราย และยังเป็นที่ปรึกษานายก ทน.เชียงราย รวมไปถึงการเคลื่อนไหวทางสังคมอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทำให้ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของเชียงรายนี้ น่าจะฟันธงได้ว่าเข้าวินอย่างแน่นอน

ร่วมแสดงความคิดเห็น