วันที่ 19 มี.ค.62 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ขณะนี้ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกโซเชียล เกี่ยวกับที่ได้มีสมาชิกเฟซบุ๊กรายหนึ่ง (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) ได้มีการโพสต์ข้อความตำหนิการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งทางเจ้าของโพสต์ดังกล่าวระบุว่า “สวัสดีค่ะ ผู้รักษากฎหมาย #ถ้าผู้รักษากฎหมายทำผิดกฎหมายซะเอง ทำร้ายร่างกายประชาชน มีพยานและหลักฐานที่ชัดเจน แต่ผู้รักษากฎหมายกลับไม่รับแจ้งความ ให้ลงเพียงบันทึกประจำวัน พูดจาใช้อารมณ์ #เหมือนตั้งใจจะเอาพวกพ้องไว้ ลักษณะแบบนี้ผู้เสียหายสามารถไปขอความเป็นธรรมได้ไหมคะ ..แต่คงไม่ไปร้องที่ สภ.แม่แตง นะคะ #ไม่ไหวจะ เคลีย เสียความรู้สึก นี่เป็นคนนึงที่ชื่นชมพวกท่านตลอด เวลามีใครมาเม้นด่า ยังเคยแก้ต่างให้แต่พอมาเจอเหตุการณ์กับตัว หมดจริงๆ ค่ะ #หมดศรัทธา #ทำร้ายประชาชน” ซึ่งเรื่องราวดังกล่าว หลังมีผู้พบเห็นโพสต์ก็ต่างเกิดความเข้าใจผิด และต่างต่อว่ารวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ขณะที่ล่าสุด เกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว ทางด้านเพจเฟซบุ๊กของ “สถานีตำรวจภูธรแม่แตง จ.เชียงใหม่” ได้ออกมาชี้แจงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว โดยได้มีการระบุข้อความว่า “จากรายละเอียดที่เกิดขึ้น บุตรหลานของท่านได้แข่งรถกันมาในทาง ขับขี่ในลักษณะประมาทหวาดเสียว อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุและความเดือดร้อนกับประชาชน อีกทั้งรถดังกล่าวไม่มีหลักฐานเอกสาร และการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบและตักเตือน แต่อาจในลักษณะอาจเกินกว่าเหตุนั้น (ใช้ฝ่ามือตบที่ศีรษะ)”
“ในวันนี้เวลาประมาณ 12.00 น.ผู้ปกครองได้เดินทางมาสอบถามทางผู้บังคับบัญชา ว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ทาง รอง ผกก. ได้ตอบว่าจะสั่งลงโทษทางวินัยผู้เกี่ยวข้องตามความผิด โดยบอกกล่าวแก่กลุ่มผู้ปกครองดังกล่าวว่าจะลงโทษ กักยามเป็นเวลา 3 วัน ต่อมาทางผู้ปกครอง ซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ปกครองของกลุ่มผู้เสียหาย ต้องการให้สั่งกักยามเป็นเวลา 5 วัน (ปีดังกล่าวไม่สามารถได้รับขั้นเงินเดือนได้) ซึ่งทาง รอง ผกก. ได้ตอบตกลงไปแล้ว ตามที่ผู้ปกครองได้ร้องขอ เพื่อความสบายใจของกลุ่มผู้ปกครอง และต่อมาได้สั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ตาม ปจว.ข้อ 10 เวลา 13.00 น. ของวันนี้( 19/3/62) ตามที่ผู้ปก ครองผู้เสียหายร้องขอ และได้นัดหมายกันอีกครั้ง วันนี้ตอน 16.00 น. จะมาพบตำรวจที่กระทำเกินกว่าเหตุ เพื่อขอคำขอโทษ ซึ่งทาง รอง ผกก. ได้นัดหมายไว้แล้ว และผู้ปกครองเองต้องการมาดูว่าตำรวจได้ลงโทษจริงหรือไม่”
“แต่ทางผู้ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนผู้ปกครองไม่มาตามนัด เมื่อท่าน รอง ผกก. โทรไปหา ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าเป็นแค่สัญญาปากเปล่า ไม่รับรู้รับทราบอะไร ซึ่งท่าน รอง ผกก. แสดงความสนใจในเรื่อง แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจากท่าน และเรื่องภาพกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ทำหนังสือของหน่วยงาน ไปขอภาพจากร้านสะดวกซื้อตามกระบวนการแล้ว ตามที่ผู้เสียหายร้องขอ การที่ท่านมาบิดเบือนข้อเท็จจริงนั้น ทำให้คนโดยทั่วไปที่ได้เข้ามาอ่าน จะเกิดภาพ อคติที่ไม่ดี เสียหายต่อหน่วยงานตำรวจ หากไม่มีการดำเนินการลงโทษ หรือปกปิดช่วยเหลืออย่างนี้ ท่านสามารถนำไปโพสต์ได้ แต่นี้ทางผู้บังคับบัญชาได้ดำเนินการไปแล้ว (ตามที่ร้องขอด้วย) การกระทำดังกล่าวเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทางท่านรอง ผกก.ที่รับผิดชอบได้แจ้งมาว่า จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ต่อไป เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ที่ชอบโพสต์บิดเบือนข้อเท็จจริง”
ร่วมแสดงความคิดเห็น