ชุมชนบ้านแม่กี๊ ร่วมกันทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่า สองแผ่นดิน ระหว่างประเทศไทยกับพม่า กว่า 25 กม. โดยไม่รับงบสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐฯ

ชุมชนบ้านแม่กี๊ อ.ขุนยวม แม่ฮ่องสอน หมู่บ้านพึ่งตัวเอง ประชาชนกว่า 300 คน ร่วมกันทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่า สองแผ่นดิน ระหว่างประเทศไทยกับพม่า กว่า 25 กม. โดยไม่รับงบสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐฯแต่อย่างใด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 20 มี.ค. 62 นายสุขใจ วิชาญพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านแม่กี๊ หมู่ที่ 1 ต.แม่กี๊ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่กี๊ กำนันผู้ใหญ่บ้าน เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าดอยเวียงหล้า นักเรียนนักศึกษา พี่น้องประชาชนในชุมชนจำนวนกว่า 300 คน พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์การทำแนวกัน ซึ่งทำจากไม้ไผ่ ที่มีอยู่ในชุมชน ร่วมกันทำแนวกันไฟ หลังดอยแม่กี๊ ซึ่งห่างจากหมู่บ้านไปทางชายแดนเขตติดต่อ ประเทศเมียนมา ความยาวของแนวกันไฟดังกล่าวมีความกว้าง 8 เมตร ยาวถึง 25 กม .และใช้เวลาประมาณ 5 ชม.

นายสุขใจ วิชาญพันธ์ เปิดเผยว่า การทำแนวกันไฟของ บ้านแม่กี๊นั้น ผู้นำในชุมชนและชาวบ้านได้ทำกันเช่นนี้มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นวัฒนธรรมและประเพณี ของชาวกะเหรี่ยง หรือ ปกาเกอะญอ นอกจากนั้น ชุมชนได้มีการจัดตั้งกฎระเบียบของหมู่บ้านอย่างเคร่งครัด เช่น การแบ่งพื้นที่ป่าออกเป็น โซน ๆ อาทิ ป่าชุมชน หรือป่าอนุรักษ์ ป่าใช้สร้อย หมายไว้ใช้สำหรับตัดไม้ไผ่เพื่อนำมาซ้อมแซมบ้านเรือ หรือ ทำกระท่อมไร่นาเป็นต้น โดยประชาชนในหมู่ต่างสำนึกที่จะช่วยกันอนุรักษ์ป่าและรักษาป่า ซึ่งอยู่ในจิตรใจของแต่คนกันอยู่แล้ว ดังนั้นการทำแนวกันไฟแต่ละปีนั้น พวกเราไม่ได้รบกวนงบประมาณจากหน่วยงานของรัฐฯแต่อย่างใด ชาวบ้านทุกต่างทำกับข้าวคนละอย่างสองเพื่อแบ่งกันกินกันแบบฉันพี่น้องเช่นนี้มาโดยตลอด

อนึ่ง สำหรับพื้นที่ป่าที่ชุมชนได้อนุรักษ์ไว้เหล่านี้ ได้มีพันธุ์ไม้นานาชนิดแพร่พันธุ์อย่างมากมาย ปัจจุบันกลายเป็นป่าดงดิบ มีทั้งไม้สมุนไพร ผลหมากรากไม้ที่เป็นยาจำนนวนมาก นอกจากนี้แล้ว ยังสัตว์ หลากหลายสายพันธุ์ มาเป็นที่พักอาศัยอยู่จำนวนมา ไม่ว่าเสือ หมี เก้ง วัวป่า กวาง นกกก ลิงลม ฯลฯ เนื่องจากเป็นเขตห่วงห้ามไม่ให้ผู้ใดไปล่าสัตว์หรือรบกวน จึงสัตว์เหล่านี้ และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ อีกทั้งเป็นเชิงนิเวศที่อุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยไปแล้ว

ร่วมแสดงความคิดเห็น