ต่างเผ่า อย่าเหมารวม! ความต่างของลาวพุงขาว – ลาวพุงดำ

ในอดีต คนไทยในภาคกลางเหมารวมเรียกกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ทางเหนือว่า “ลาว” ไม่ว่าจะอยู่ในเขตหัวเมืองทางภาคเหนือหรือทางตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น เชียงใหม่-เชียงราย, หลวงพระบาง, เวียงจันทน์, จำปาศักดิ์ จนกระทั่งถึงสิบสองจุไทส่วนที่ต่อกับเวียดนามตอนเหนือ, จีน และลาวที่เป็นกลุ่มไทดำ และหัวเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นกลุ่มที่พูดภาษาไต-ลาวทั้งสิ้น

และในวันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” ก็ได้มานำเสนอข้อมูลเพื่อคลายความสงสัยในเรื่องของ “ลาวพุงดำ” และ “ลาวพุงขาว” ให้กระจ่างแจ้งแก่ผู้อ่านที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงดังต่อไปนี้

ลาวพุงดำ

“ชาวยวน” หรือ “ลาวพุงดำ” ในมุมมองของชาวฝรั่งเศสที่อยู่ในเมืองลาวเมื่อประมาณ 113 ปีที่ผ่านมา “ยวน” หมายถึงชาวลาวที่อาศัยอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขง บริเวณต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งประกอบด้วยเมืองเชียงราย, เชียงของ และเชียงแสน นอกจากนี้ยังมีชาวยวนที่อาศัยร่วมกับชาวลาวในดินแดนลาวฝรั่งเศสอีกด้วย

ยวนแตกต่างจากลาวและแยกแยะได้ด้วยรอยสัก เพราะชาวลาวนั้นไม่สักบริเวณกลางลำตัว ชาวยวนนิยมสักตั้งแต่พุง (ใต้อก) เรื่อยไปจรดน่องหรือข้อเท้า ชาวยวนที่อาศัยอยู่ฝั่งขวา (แม่น้ำโขง) จึงมีอีกชื่อว่า “ลาวพุงดำ” ส่วนลาวทางฝั่งซ้าย(แม่น้ำโขง) มีชื่อว่า “ลาวพุงขาว”

ชายชาวลาวพุงดำที่นิยมสักตั้งแต่ช่วงพุงลงมาถึงเข่า

ชายชาวลาวนิยมสักและโพกศีรษะเหมือนกันซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากชาวพม่า ส่วนหญิงชาวยวนนุ่งผ้าซิ่นยาวทอเป็นริ้วลายขวาง ขมวดไว้ใต้ราวนม ใส่เสื้อคล้ายเสื้อกั๊กหรือเสื้อยกทรง ซิ่นของหญิงชาวยวนนั้นมีหลากสี ทอด้วยฝ้ายและไหม ผมยาวเกล้าเป็นมวยอยู่เหนือท้ายทอย ทั้งสองเพศเจาะหูแล้วสอดม้วนโลหะ (ลานหู) ไว้เหมือนกับชาวลื้อ และนิยมเครื่องประดับที่ทำด้วยเงิน

หญิงและชายชาวยวนเคี้ยวหมากและอมเมี่ยง นอกจากนี้ยังสูบบุหรี่โดยใช้ใบตองแห้งมวนยาเส้น ชาวยวนทำไร่ทำนาเป็นหลัก อีกทั้งเลี้ยงวัวเพื่อบรรทุกสัมภาระและใช้งาน เท่าที่สังเกตภาษาของชาวยวนนั้นใกล้เคียงกับภาษาลาว และอักษรก็มีรูปร่างกลมเป็นขดม้วนคล้ายกัน

ลาวพุงขาว

าวพุงขาว” เป็นคำเรียกกลุ่มคนที่ทำการสักขาตั้งแต่ใต้เข่าหรือเหนือเข่าขึ้นไปถึงต้นขาหรือขาส่วนบน แต่ไม่สักเลยขึ้นมาถึงพุงหรือเอว จึงยังคงมองเห็นผิวส่วนพุงเป็นเนื้อขาวอยู่เพราะไม่มีรอยสัก เป็นวัฒนธรรมการสักของคนลาวล้านช้างที่อยู่ 2 ฝั่งตามลำน้ำโขง

ชายชาวลาวพุงขาวนิวยมการสักตั้งแต่ส่วนขาท่อนบน ไม่สูงขึ้นไปถึงพุง

ลาวพุงขาว มีอีกชื่อว่า “ไทหล่ม” ซึ่งส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากลาวหลวงพระบาง ผู้ชายบรรพบุรุษของไทหล่มจึงนิยมสักขาแค่ส่วนขาท่อนบน ไม่สูงขึ้นไปถึงพุงและเอว อย่างที่คนสยามเรียกคนกลุ่มที่สักแบบนี้ว่า ลาวพุงขาว ต่างจากคนแถบล้านนา แพร่, น่าน ที่นิยมสักเลยสูงขึ้นไปถึงพุงและเอว ที่คนสยามเรียกว่า “ลาวพุงดำ” จึงอาจกล่าวได้ว่าเมืองหล่มเป็นพื้นที่ที่ลาวพุงขาวอยู่อาศัยมาแต่ดั้งเดิม ส่วนที่อาจจะมีผู้พบเห็นลาวพุงดำในเขตเมืองหล่มบ้างนั้น สันนิฐานว่า อาจเป็นการอพยพเข้ามาอยู่ในภายหลัง ซึ่งเป็นไปตามรายบุคคลหรือรายครอบครัว แต่ไม่ได้อยู่มาแต่ดั้งเดิมอย่างลาวพุงขาว

การสักขาลายของผู้ชายคนลาวสมัยก่อน มีวัตถุประสงค์นอกจากจะเป็นเครื่องรางของขลังแล้ว ก็ยังเพื่อต้องการอวดความเป็นชาย เป็นคนกล้า อวดความแข็งแรงให้ผู้หญิงเห็น ว่าตนเป็นผู้ที่มีความอดทน แข็งแกร่ง สามารถเป็นผู้นำครอบครัวในการทำมาหากินได้ ดังคำวลีผญาโบราณในภาษาลาวที่ว่า

“คันว่าขาลายแล้ว แอวบ่ลายมันบ่ค่อง คันว่าสักนกน้อยงอยแก้มจั่งค่อยงาม” “ถ้าบ่สักขา ผู้สาวสิบ่ยอมให้อาบน้ำฮ่วมวัง” “ขาบ่มีลาย ผู้สาวบ่ให้ก่าย” “ขาบ่ลาย อยากอายผู้สาว” ..

เล่ากันว่า ผู้ชายในสมัยโบราณใครที่มีรอยสัก เวลาไปจีบสาวจะต้องถลกโสร่งขึ้นสูงเพื่อให้สาว ๆ เห็นรอยสักอย่างเด่นชัด และผู้ชายที่ไม่ได้สักขาลาย ผู้หญิงจะไม่ให้อาบน้ำร่วมท่าด้วยเพราะถือว่าไม่ได้เป็นชายชาตรีอย่างเต็มตัว ผู้หญิงสมัยก่อนจะดูการสักขาของผู้ชาย ถ้ายิ่งสักมาก ลวดลายละเอียดมาก และยิ่งสักสูงขึ้นไปถึงเนื้ออ่อน ๆ ตรงขาหนีบ แสดงว่าผู้ชายคนนั้นยิ่งมีความแข็งแกร่ง มีความอดทนสูงมาก

ลาวพุงขาวจะสักทั้ง 2 ขา เป็นลายรูปสัตว์ตามความเชื่อในเทพนิยาย เช่น ตัวมอม, ลิงลม, นกร้าย ซึ่งมีความเชื่อว่า สักตัวมอมจะทำให้มีพลังมีความแข็งแรง สักลิงลมจะทำให้แคล่วคล่องว่องไว สักนกร้ายจะทำให้เก่งกล้าสามารถ ส่วนลักษณะการสักนั้น จะมีการสักขาเป็น 2 แบบคือ สักตั้งแต่ใต้เข่า คลุมเข่าขึ้นมาถึงขาส่วนบน เรียกว่า สักขายาว ส่วนอีกแบบหนึ่งคือ การสักเพียงแค่เหนือเข่าขึ้นมาจนถึงขาส่วนบน เรียกการสักแบบนี้ว่า สักขาก้อม

กล่าวโดยสรุปแล้ว “ลาวพุงดำ” หรือ “ชาวยวน” คือชาวลาวที่อาศัยอยู่ฝั่งขวาแม่น้ำโขง บริเวณต้นแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งประกอบด้วยเมืองเชียงราย, เชียงของ และเชียงแสน ส่วน “ลาวพุงขาว” มีอีกชื่อว่า “ไทหล่ม” ซึ่งส่วนใหญ่สืบเชื้อสายมาจากลาวหลวงพระบาง และตั้งถิ่นฐานที่เมืองหล่ม ซึ่งทั้งสองเผ่านั้นมีจุดสังเกตเพื่อแยกแยะ คือ ผู้ชาย “ลาวพุงขาว” บรรพบุรุษของไทหล่มนั้นนิยมสักขาแค่ส่วนขาท่อนบน ไม่สูงขึ้นไปถึงพุงและเอว ต่างจากคนแถบล้านนา แพร่, น่าน ที่นิยมสักเลยสูงขึ้นไปถึงพุงและเอว ที่คนสยามเรียกว่า “ลาวพุงดำ” นั่นเอง

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
ข้อมูลจาก : วลัยลักษณ์ ทรงศิริ, ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์, Kruchanvit.com
ภาพจาก : www.websta.org, wisonk.wordpress.com, http://www.reurnthai.com

ร่วมแสดงความคิดเห็น