หัวใจ เป็นอวัยวะสำคัญมีหน้าที่ในการสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากหัวใจผิดปกติจะส่งผลต่อร่างกายของเราในระบบต่าง ๆ และการเจ็บป่วย
วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” นำความรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจขาดเลือดมาให้ท่านผู้อ่านได้ตระหนักถึงความสำคัญของหัวใจกันค่ะ
โรคหัวใจขาดเลือด
โรคหัวใจขาดเลือด คือ อาการที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่สมดุลระหว่างเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจ อาจเกิดในภาวะที่ความดัน โลหิตต่ำมาก ๆ เช่น ในภาวะ Shock หรือเกิดในภาวะขาดอากาศ กับเลือดที่หัวใจต้องการใช้งาน ซึ่งอาจเป็นผลจากกล้ามเนื้อหัวใจที่หนาตัวขึ้น หรือในภาวะที่หัวใจเต้นด้วยความเร็วมากกว่าปกติ เป็นผลให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนเกิดขึ้นได้ไม่เต็มที่ ความไม่สมดุลนี้ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดออกซิเจน รวมถึง สารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็น และนอกจากนี้ การขับของเสียออกจากกล้ามเนื้อหัวใจยังเกิดขึ้นได้ไม่ดี อีกด้วย กว่า 90% ของผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนี้ เป็นผลมาจากโรคของหลอดเลือดเลี้ยงหัวใจอุดตัน เนื่องจากไขมัน
ดังนั้น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจึงมักจะถูกเรียกว่า “โรคหลอดเลือดหัวใจ” ซึ่งการดำเนินโรค ของหลอดเลือดหัวใจนี้ใช้เวลานาน ดังนั้น โรคหัวใจขาดเลือดจึงเป็นผลในระยะท้าย ๆ ของโรคหลอดเลือดหัวใจ
สาเหตุของโรคหัวใจขาดเลือด
- เกิดจากผนังหลอดเลือดแดงโคโรนารีแข็งและตีบแคบลง ซึ่งเกิดจากมีคราบไขมัน คราบไขมันนี้จะค่อย ๆ พอกที่ผนังด้านในของหลอดเลือดแดงโคโรนารี
- กรรมพันธุ์ อายุ 40 ปีขึ้นไป เชื้อชาติ
- สิ่งแวดล้อม
- เกิดจากการสูบบุหรี่
- โรคเบาหวาน ไขมันคอเลสเตอรอลสูง ความดันเลือดสูง
- อาหารที่อุดมด้วยไขมัน
- การไม่ออกกำลังกาย
- ภาวะอ้วน
- การติดเชื้อ Chlamydia pneumonia
- มีภาวะเครียด
อาการของโรคหัวใจขาดเลือด
- เจ็บบริเวณหัวใจ โดยมีความรู้สึกเจ็บเหมือนถูกบีบรัดบริเวณหน้าอก
- มีอาการเจ็บหนัก ๆ อาจรู้สึกเหมือนมีแก๊สจุกบริเวณยอดอก ตำแหน่งที่เจ็บจะอยู่ลึกใต้กระดูกค่อนไปข้างซ้าย มักจะร้าวไปตามไหล่ซ้ายและต้นแขน หรืออาจร้าวไปตามแขนซ้าย ถึงข้อศอก ข้อมือ นิ้วก้อย และนิ้วนาง รวมทั้งต้นคอ กราม
- ระยะเวลาปวดมักจะสั้น ๆ มีอาการอยู่ไม่เกิน 5 นาที ถ้ามีอาการภายหลังรับประทานอาหารมื้อหลักหรือโกรธจัด อาจมีอาการอยู่นานถึง 15-20 นาที ถ้าทำกิจกรรมต่อไปอาการเจ็บหน้าอกจะรุนแรงขึ้น
- จะหายใจลำบาก หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน เมื่อยล้า เหงื่อออก ซีด อ่อนเพลีย เป็นลม หรือมีความรู้สึกกลัวตาย
การรักษา
- รักษาโดยปรับพฤติกรรมสุขภาพเกี่ยวกับการรับประทานอาหาร โดยรับประทานอาหารที่มีกากใย ลดอาหารไขมันชนิดอิ่มตัวและน้ำตาล
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- มีการควบคุมคอเลสเตอรอลโดยรวม และไตรกลีเซอไรด์ให้ต่ำกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ควบคุม LDL คอเลสเตอรอลให้ต่ำกว่า 100-130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ส่วน HDL ให้มาก ๆ ไว้ คือ สูงกว่า 35 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ควบคุมความดันโลหิตไม่ให้เกิน 130/85 มม.ปรอท
- เลิกสูบบุหรี่ เพราะ นิโคตินจากบุหรี่ทำให้หลอดเลือดตีบลง หัวใจต้องออกแรงสูบฉีดมากขึ้น คาร์บอนนอนไซด์ที่อยู่ในควันบุหรี่จะออกฤทธิ์ลดระดับออกซิเจนในเลือด และทำอันตรายต่อผนังหลอดเลือด
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานต้องรักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลไม่ให้สูงเกินไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- อย่าดื่มกาแฟหรือแอลกอฮอล์มากเกินไป
- ทำสมาธิด้วยวิธีต่าง ๆ
- ใช้ยาลดระดับไขมัน ตามคำแนะนำของแพทย์
สรุป
โรคหัวใจขาดเลือด หากปล่อยไว้เรื้อรังอาจทำให้เสียชีวิตได้ เราควรจะสังเกตอาการของตัวเอง เพื่อที่จะเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที และควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพ เพราะหัวใจพัง ไม่มีเปลี่ยนต้องซ่อมแซมด้วยตัวเรา
เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
ร่วมแสดงความคิดเห็น