คืบหน้า! กรณีมีคลิปทีมงานหาเสียง ส.ส.เชียงใหม่ทำร้าย รปภ. ผู้สมัคร ส.ส.ยันไม่เกี่ยวข้อง

คืบหน้ากรณีแชร์ว่อนคลิปทีมงานหาเสียงผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ทำร้าย รปภ. ตำรวจเชิญตัวเข้าพบปิดห้องพูดคุยเจรจา โดยฝั่ง รปภ.ปิดปากเงียบ ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.ยันไม่เกี่ยวข้องเหตุทำร้าย แต่เข้าห้ามปราม

ความคืบหน้ากรณีเพจเฟซบุ๊คชื่อ“ล่า” โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หอพักแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ พร้อมระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทีมงานหาเสียงของผู้สมัคร ส.ส.รายหนึ่งทำร้ายร่าง รปภ.ที่ดูแลหอพักดังกล่าว เนื่องจากมีการนำรถหาเสียงของผู้สมัครไปจอดกีดขวางทางเข้าออกที่จอดรถจักรยานยนต์ โดยที่ผู้สมัคร ส.ส.คนดังกล่าว ซึ่งเป็นเจ้าของหอพักดังกล่าวอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่ไม่ได้ห้ามปรามและยังมีการต่อว่า รปภ.อย่างรุนแรงด้วย ทั้งนี้โพสต์ดังกล่าวมีการเผยแพร่และแชร์ออกไปเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว รวมทั้งมีผู้เข้าไปแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก

ช่วงเย็นวันนี้(21 มี.ค.62) ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นางอุดมพร ปรานมนตรี อายุ 57 ปี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 5 จังหวัดเชียงใหม่ พรรคเสรีรวมไทยและเป็นเจ้าของหอพักแห่งหนึ่งย่านช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และ รปภ.ในคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 50-60 ปี ที่ยอมเปิดเผยชื่อหรือให้ข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อทำการพูดคุยเจรจากันตามที่ได้รับการเชิญตัวหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าวออกไป โดยการพูดคุยกันในห้องและไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง

ทั้งนี้นางอุดมพร เปิดเผยหลังจากการพูดคุยกันนานนับชั่วโมงว่า ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำร้ายร่างกาย รปภ.คนดังกล่าว แต่เข้าไปช่วยห้ามปรามและยุติเหตุก่อนที่จะรุนแรงบานปลาย ซึ่งมาพบตำรวจเพื่อยืนยันในเรื่องนี้ และได้มีการพูดคุยกับทางบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ตัวเองว่าจ้างและเป็นนายจ้างของ รปภ.คนดังกล่าวแล้วเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยทางบริษัทรับว่าจะไปดำเนินการต่อไป

ส่วนกรณีการทำร้ายร่างกายนั้น เป็นเรื่องระหว่าง รปภ.และทีมงานที่ตัวเองจ้างมาช่วยหาเสียง ซึ่งตัวเองไม่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามจะพยายามเป็นคนกลางให้ทั้งสองฝ่าย สำหรับกรณีผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอและโพสต์ในโซเชียลมีเดียทำให้เกิดการเข้าใจผิดว่าตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมทำร้าย รปภ.ด้วยนั้น เบื้องต้นจะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายให้มารับผิดชอบการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนดังกล่าวจนทำให้ตัวเองถูกเข้าใจผิดและได้รับความเสียหาย

ด้าน รปภ.ในคลิปวิดีโอดังกล่าว ซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 50-60 ปี ยังคงไม่ยอมเปิดเผยชื่อหรือให้ข้อมูลใดๆ แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พูดขึ้นมาว่า “ถึงจะเมา แต่ไม่ได้ขับรถนะ”.

ร่วมแสดงความคิดเห็น