ชาวเน็ตขุดประวัติสาวขโมยมือถือในห้างดัง เมืองเชียงใหม่ พบเป็นถึงเน็ตไอดอล ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ขณะที่ความคืบหน้าคดียังอยู่ในระหว่างการสืบสวนของตำรวจ

วันที่ 22 มี.ค.62 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ทางเพจเฟซบุ๊กชื่อว่า “แม่วังสื่อสาร” ได้มีการโพสต์คลิปและภาพเหตุการณ์กรณีที่มีคนร้ายเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง ได้เข้ามาก่อเหตุ ขโมยโทรศัพท์มือถือ I Phone X มูลค่าประมาณ 38,000 บาท โดยได้ทำทีเข้ามาดูสินค้าภายในร้าน ได้แอบนำเครื่องปลอมมาสับเปลี่ยนแล้วเอาเครื่องจริงออกไปจากร้าน ก่อนจะหลบหนีไปลอยนวล แต่กล้องวงจรปิดของทางร้านสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะหญิงสาวคนดังกล่าวก่อเหตุได้อย่างชัดเจน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ภายในร้านแม่วังสื่อสาร สาขากาดสวนแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 มี.ค.62 และในเวลาต่อมาได้มีการนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ขณะที่จาการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าหญิงสาวที่ก่อเหตุนั้นเป็นชาว จ.ลำพูน อายุประมาณ 33 ปี ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลไปแล้วนั้น

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะเดียวกันหลังจากที่ทางเจ้าของเพจดังกล่าวได้มีการโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ออกไป ได้มีชาวเน็ตที่เห็นโพสต์ต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้มีการขุดค้นประวัติของหญิงสาวที่มีลักษณะคล้ายกับคนที่ปรากฏภายในคลิป โดยบางรายนำภาพของหญิงสาวลักษณะคล้ายกันนี้ ระบุว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง และมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจนเช่นกัน ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์ที่หญิงสาวรายนี้เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในร้าน และยังมีบางรายระบุว่าหญิงสาวคนดังกล่าวยังเคยเป็นถึงเน็ตไอดอล ที่เคยถ่ายแบบลงเพจต่างๆ ในเฟซบุ๊ก อย่างไรก็ตามจากากรตรวจสอบภายในคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นของชาวเน็ตที่เข้ามาแสเงความคิดเห็นในโพสต์ของเพจดังกล่าวก็มีบางรายที่ระบุว่า หญิงสาวที่ปรากฏในคลิปรายนี้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และคาดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลงมือก่อเหตุในลักษณะที่เกิดขึ้นนี้

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด จากการสอบถามไปยัง ร.ต.อ.อมรชัย ตรังวัชรกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าของคดีทราบว่า ขณะนี้การดำเนินการเกี่ยวกับคดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามตัวหญิงสาวที่ปรากฏภายในคลิปหลักฐานที่ทางผู้เสียหายได้นำมาแสดงให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่ขอระบุตัวตนที่ชัดเจนเนื่องจากยังจับกุมตัวผู้ต้องหาไม่ได้ ส่วนกรณีที่มีผู้แจ้งเบาะแสในโซเชียลว่าหญิงคนดังกล่าวมีอาการป่วยทางจิต หรือเรื่องที่ได้เคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งนั้น ก็ต้องมีการตรวจสอบกันอีกครั้งซึ่งต้องรอให้สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ก่อน จึงจะมีการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น