ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ประกาศปิดป่าสงวนแห่งชาติ เหตุสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควัน ทวีความรุนแรง

นายประจวบ อาจารพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ออกประกาศจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรื่อง ปิดป่าสงวนแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน แบบมีเงื่อนไข

ตามที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดตั้งศูนย์อํานวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันทั้งในระดับจังหวัด และระดับอําเภอ ขึ้น เพื่อควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ โดยเฉพาะการควบคุมปริมาณฝุ่นละอองเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) และฝุ่นละอองฝุ่นละอองเล็กไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ให้อยู่ในสภาวะปกติตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2562 แต่ผลปรากฏว่า สถานการณ์ ในปัจจุบัน ทั้งในส่วนของจุดความร้อนสะสมและหมอกควัน ยังไม่ลดลงตามเป้าหมายที่กําหนด กลับมีสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นนั้น

ดังนั้น เพื่อควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ว่าราชการ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ประกอบประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม และรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ออกประกาศ ดังต่อไปนี้

1.ห้ามมิให้บุคคลใดเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 30 เมษายน 2562

2. สําหรับพื้นที่หมู่บ้านที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ การสัญจรติดต่อระหว่างกันให้ใช้เส้นทาง ที่มีอยู่โดยปกติ เป็นเส้นทางติดต่อระหว่างหมู่บ้าน ตําบล

3.หากมีความจําเป็นต้องออกนอกเหนือเส้นทาง และเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติใด ให้แจ้งเหตุผลความจําเป็นต่อเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม หรือหน่วยป้องกันรักษาป่า หรือนายอําเภอ หรือกํานัน หรือ ผู้ใหญ่บ้าน ในท้องที่นั้นๆ

4.ให้กํานันหรือผู้ใหญ่บ้าน แต่ละหมู่บ้านในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จัดทําบัญชีและบันทึก ภาพถ่ายผู้ที่เดินทางเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติในเขตรับผิดชอบของตน กรณีที่มีความจําเป็น

5.ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ให้ถือปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกันกับ ป่าสงวนแห่งชาติ โดยยึดถือประกาศของอุทยานแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในท้องที่เป็นหลัก

6.หากพบผู้เข้าไปในพื้นที่ป่ามีอุปกรณ์อันก่อให้เกิดผลกระทบ หรือสิ่งที่ทําให้เสื่อมสภาพ ต่อป่าสงวนแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่สอบถามความจําเป็นและเหตุผล พร้อมบันทึกรายละเอียดไว้ทุกครั้ง

7.หากพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใด ขอความร่วมมือให้ช่วยกันดับไฟโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ไฟขยาย เป็นวงกว้าง หากไฟไหม้รุนแรงไม่สามารถดับได้ ขอให้แจ้งประสานงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหา ไฟป่าและหมอกควันอําเภอท้องที่ หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่า หน่วยป้องกันรักษาป่า สถานีควบคุมไฟป่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่ไฟไหม้ป่า เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดําเนินการดับไฟได้ทันเหตุการณ์


ร่วมแสดงความคิดเห็น