ชวนประชาชน ตอบแบบสอบถาม”หมอกควันภาคเหนือ: ปัญหา ผลกระทบ และแนวทางแก้ไข ปี 2562”

ประชาชน เห็นว่าปัญหาหมอกควันภาคเหนือกระทบกลุ่มเสี่ยงที่มีในครอบครัว เป็น ผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัว 60.7% เด็ก 39.1% และ 97.8% เห็นว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ป้องกันตนเอง เพิ่มขึ้น

ดร.กรวรรณ สังขกร รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยทำแบบสอบถาม เรื่อง “หมอกควันภาคเหนือ: ปัญหา ผลกระทบ และแนวทางแก้ไข ปี 2562” เพื่อรวบรวมปัญหา ผลกระทบ และแนวทางแก้ไข เพื่อให้ทราบถึงปัญหา และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และนำเสนอเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อรักษาสิทธิขั้นพื้นฐานของพวกเราทุกคนที่จะมีสุขภาพที่ดีในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย

สำหรับผลการตอบแบบสอบถามเบื้องต้น หมอกควันภาคเหนือ : ปัญหา ผลกระทบ และแนวทางแก้ไข ปี 2562 ข้อมูล ณ วันที่ 26/03/2562 เวลา 16.00 น. ถึง 28/03/2562 เวลา 17.00 น. (49 ชั่วโมง) จำนวนผู้ตอบแบบสอบถาม 7,199 ชุด
• ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยทำงาน
• กลุ่มเสี่ยงที่มีในครอบครัว เป็น ผู้สูงอายุอยู่ในครอบครัว 60.7% เด็ก 39.1%
• ปัญหาอันดับ 1 ที่ทำให้เกิดหมอกควันในชุมชน เกิดจากไฟป่าจากมนุษย์ การเผาขยะในชุมชน และเกษตรพื้นที่สูง ตามลำดับ
• ปัญหาหมอกควัน มีผลกระทบทางด้านอารมณ์มากที่สุด รองลงมาคือด้านเศรษฐกิจ ด้านสุขภาพ และการดำรงชีวิต ตามลำดับ
• ผลกระทบด้านอารมณ์จากการใช้หมอกควัน 81.4% มีภาวะเครียด 80.2% เกิดความวิตกกังวล กลัวตัวเองป่วย

• ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ 84% เสียเงินซื้อหน้ากากอนามัย 74.5% เสียเงินค่าไฟเพิ่มเพราะต้องเปิดแอร์ พัดลม เครื่องฟอกอากาศ
• ผลกระทบด้านสุขภาพ 82.3% แสบจมูก 79.3% แสบตา 72.3% หายใจไม่สะดวก
• ผลกระทบด้านการใช้ชีวิตในภาวะหมอกควัน 87.0% พบว่าวิสัยทัศน์ในการมองเห็นมีจำกัด 81.4% ทำให้ไม่ได้ออกกำลังกายกลางแจ้ง
• ประชาชน 74.7% ช่วยไม่ให้เกิดปัญหาหมอกควัน โดยการตรวจเช็ครถของตนเองให้อยู่ในสภาพดี ไม่ปล่อยควันดำ 66.4% บอกล่าว ตักเตือน แจ้ง เมื่อเจอการเผา
• วิธีป้องกันตนเองให้พ้นวิกฤตหมอกควัน 96.5% ใส่หน้ากากอนามัย PM 2.5 82.1% ไม่ออกกำลังกายในที่โล่ง
• อุปกรณ์เพื่อป้องกันตนเองจากภาวะหมอกควัน 86.5% สวมหน้ากากอนามัยแบบ PM 2.5 50.9% ใช้เครื่องฟอกอากาศ
• 97.8% ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ป้องกันตนเอง โดยซื้อทั้ง หน้ากากอนามัย และเครื่องฟอกอากาศ โดย 38% ของผู้ตอบ จ่ายเงินในหลักหมื่นเพื่อป้องสุขภาพตนเอง

ทั้งนี้ ท่านยังสามารถตอบแบบสอบถามเพิ่มเติมได้ โดยคลิกที่ Link https://goo.gl/forms/3u9vGKXrhNOhHerW2

สามารถติดตามผลสรุปทั้งหมดของการศึกษา ในเวทีสาธารณะ “เปลี่ยนเชียงใหม่ให้ฟ้าใสไร้หมอกควัน” วันอังคารที่ 2 เมษายน 2562 เวลา 8.30-16.00 น.ณ ห้องประชุม 1 อาคารรวมวิจัยและบัณฑิตศึกษา
สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น