วัดเกตการาม! วัดเก่าแก่ใกล้ริมน้ำปิงแห่งเมืองเชียงใหม่

พระธาตุเจดีย์เกษแก้วจุฬามณี ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีจำปีคนเกิดปีจอ (สุนัข) เป็นความเชื่อของคนเหนือล้านนาว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตควรมีโอกาสเดินทางไปไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของตนเพื่อความเป็นสิริมงคล

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะพาแวะมากราบ “พระธาตุเจดีย์เกษแก้วจุฬามณี” พระธาตุประจำปีคนเกิดปีจอ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล

ประวัติของวัดเกตการาม

ในสมัยก่อน วัดเกตเป็นย่านการค้าที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก เป็นชุมชนใหญ่ เนื่องจากย่านนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปิงที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่มาหล่อเลี้ยงประชากรที่อาศัยอยู่ทั้งสองฟากฝั่ง ทุกบ้านที่ทำการค้าจะมีท่าเรือเป็นของตนเอง ใช้เรือหางแมงป่อง (หรือเรือสะดอ เรือสีดอ เรือแม่ปะ) เป็นพาหนะขึ้นล่องตามลำน้ำปิง

ความเจริญรุ่งเรืองของย่านวัดเกตเริ่มซบเซาลง นับตั้งแต่กบฏพระยาปราบสงคราม (พญาผาบ) พ.ศ. 2432 เนื่องจากคนไทยภาคกลางขึ้นมาข่มเหง และถูกคนจีนที่เป็นนายอากรเก็บภาษีต้นหมากต้นพลู ก่อให้เกิดความเดือดร้อนไปทั่ว พญาผาบจึงได้รวบรวมผู้คนก่อการกบฏขึ้นและคิดฆ่าคนจีนที่วัดเกตให้หมด คนจีนและลูกหลานคนจีนเกิดความเกรงกลัว พากันลี้ภัยข้ามไปอยู่ฝั่งตะวันตก คงเหลือแต่เพียงครอบครัวนายหน้อย แซ่แต่เท่านั้นที่ยังอยู่ เพราะเคยช่วยเหลือรับซื้อครั่งจากพญาผาบและชาวบ้านอำเภอสันทราย จึงมีความรักใคร่ชอบพอกัน

ต่อมาในปี พ.ศ. 2464มีการสร้างทางรถไฟมาถึงเชียงใหม่ และเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2477 มีอากาศยานมาลงที่สนามบินเชียงใหม่เป็นครั้งแรก การคมนาคมทางน้ำถูกลดบทบาทเนื่องจากมีความยากลำบากกว่า ทั้งยังกินเวลาและเสียค่าใช้จ่ายสูง ย่านวัดเกตจึงลดบทบาททางการค้ากลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว คนที่อยู่ในย่านนี้ส่วนใหญ่ก็คือลูกหลานของคนที่มาตั้งถิ่นฐานดั้งเดิม และแม้จะมีบางคนย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีสายใยผูกพันกับย่านนี้อยู่

สถานที่และสิ่งสำคัญภายใน วัดเกตการาม

1.เจดีย์จุฬามณี หรือ พระธาตุวัดเกต

ประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นสวรรค์ที่อยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ เป็นเจดีย์ที่บรรจุเครื่องทรงและพระเมาฬีของเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งทรงสละทิ้งเมื่อคราวออกผนวช และยังเป็นที่เก็บรักษาพระเขี้ยวแก้วของพระพุทธองค์ หลังการถวายพระเพลิงพระบรมศพอีกด้วย

เมื่อเจดีย์จุฬามณีเป็นเจดีย์ที่อยู่ไกลถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงมีการสมมติให้เจดีย์องค์หนึ่งในประเทศพม่า เป็นที่กราบไหว้แทน โดยมีตำนานเล่าว่าพระอินทร์เป็นผู้นำลงมาแขวนไว้ริมหน้าผาให้ผู้คนบูชา คนไทยจึงเรียกเจดีย์องค์นี้ว่า “พระธาตุอินทร์แขวน” พระธาตุอินทร์แขวนองค์นี้ ตั้งอยู่บนก้อนหินสูง 5.5 เมตร ใต้พระเจดีย์เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุ โดยอนุญาตให้เฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่จะข้ามเข้าไปกราบและปิดทองถึงองค์พระธาตุได้

ดังนั้นพระธาตุเจดีย์เกษแก้วจุฬามณี แห่งวัดเกตการาม จึงถูกกำหนดให้เป็นองค์แทนเจดีย์จุฬามณีอีกองค์หนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเป็นการสะดวกในการเดินทางมากราบไหว้แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ชื่อของวัดเสียงเหมือนคำว่า “เกศ” แก้วจุฬามณี

2.พระวิหาร

สร้างสมันรัตนโกสินทร์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 9 ห้อง มีเสาคู่ในรองรับหลังคาหน้าจั่วและเสาคู่นอกรับแนวหลังคาปีกนกย่อเก็จ 3 ตอน ในแนวตะวันออก – ตะวันตก หัวเสาประดับด้วยแก้วอังวะ ตัวเสามีลายทอง มีประตูทางเข้าสามทาง หลังคาทรงจั่วเรียงซ้อนกัน 5 ชั้น (คำเมืองเรียกว่า ซด) 2 ตับ งดงามยากจะหาวัดใดมาเทียบได้ อุโบสถทรงเดียวกับพระวิหาร แต่มีขนาดเล็กกว่า

3.โรงเรียนวัดเกตการาม

อยู่ด้านซ้ายมือของประตูทางเข้า ส่วนด้านขวามือเป็นอาคารโรงเรียนนักธรรมหลังเก่าสองชั้น เป็นเรือนไม้ งดงามด้วยลวดลายฉลุไม้ประดับหน้าจั่วและตามมุมต่างๆ ส่วนตรงข้ามอุโบสถจะเป็นพระวิหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระประธาน แต่เป็นที่น่าเสียดาย เพราะวันที่เราไปนั้น พระวิหารกำลังปิดปรับปรุงชั่วคราว เราเลยไม่มีโอกาสได้เข้าไปชมความงามของพุทธลักษณะของพระประธาน

4.พิพิธภัณฑ์วัดเกตการาม

เดิมเป็นกุฏิเจ้าอาวาส สร้างขึ้นโดยความร่วมมือกันระหว่างทางวัดและชุมชน จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นที่เก็บรวมรวมของเก่าแก่มีค่ามหาศาล ตั้งแต่โบราณกาล พิพิธภัณฑ์นี้ถูกสร้างขึ้นโดยความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้านละแวกวัดเกตุ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2542 ก่อนหน้านี้เป็นกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส เป็นเรือนไม้ทั้งหลัง ภายหลังการสร้างกุฏิหลังใหม่ ทางวัดจะลื้อเรือนหลังนี้ทิ้ง แต่คณะกรรมการของชุมชนเห็นว่าไม่ควรรื้อเพราะอาคารหลังนี้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ แต่น่าจะปรับปรุงบูรณะจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนขึ้น เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา เนื่องจากที่วัดเกตมีของเก่าแก่สะสมไว้มาก อีกทั้งยังมีชาวบ้านบริจาคข้าวของเก่าแก่ให้ทำพิพิธภัณฑ์กันเป็นจำนวนมาก

ที่ตั้งของ วัดเกตการาม

96 บ้านวัดเกต ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกต เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50300

วิธีการเดินทางไปยัง วัดเกตการาม

1.โดยรถยนต์ส่วนตัว

วัดเกตการาม ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ หากมาจากตัวเมืองก็ข้ามสะพานนวรัฐ เลี้ยวซ้ายตรงคอสะพาน แล้วขับเลียบแม่น้ำปิงโดยจะผ่านร้านอาหารกู๊ดวิว และ ริเวอร์ไซด์ ไปสัก 200 เมตร ก็จะพบสามแยกให้เลี้ยวขวาตามถนนเข้าไปก็จะพบวัดเกตการาม

2.โดยรถสาธารณะ

สามารถนั่งรถสองแถวสีแดงที่ให้บริการรอบเมืองค่าโดยสารแล้วแต่ระยะทาง

สรุป

หากมีเวลาอยากให้เดินเล่นย่านวัดเกตุ เพราะเป็นย่านเมืองเก่าแก่ อาคารบ้านเรือนยังดูคลาสิคย้อนยุคผสานความทันสมัยไว้ด้วยกัน หรือหากมาเที่ยวซื้อของตลาดวโรรสก็เดินข้ามฝั่งจากตลาด จะข้ามมาพบประตูวัดเกตการามได้เลย เพราะสะพานเพิ่งทำเสร็จมองเห็นวิวแม่น้ำปิงสวยๆ ถ่ายภาพเก็บกลับบ้าน

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

ร่วมแสดงความคิดเห็น