อย่าวางใจไป! “ขับรถลุยน้ำ” อันตรายกว่าที่คิด

หลาย ๆ คนอาจไม่ได้สนใจ ไม่ทราบเลยว่า การขับรถลุยน้ำผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขังนั้น จะส่งผลกระทบหรือสร้างความเสียหายให้กับรถได้ บางคนก็ปล่อยไว้เฉย ๆ เดี๋ยวก็แห้งไปเอง ความจริงแล้วน้ำสามารถสร้างปัญหาหรือเป็นสาเหตุให้คุณต้องเสียเงินซ่อมแซมรถได้โดยไม่รู้ตัว

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาบอกถึงวิธีดูแลรถหลังลุยน้ำ ช่วงนี้เทศกาลสงกรานต์ก็กำลังจะมาถึง ในแต่ละบริเวณก็อาจมีน้ำท่วมขัง อยากให้ทุกท่านตรวจเช็ครถหลังการเล่นน้ำสงกรานต์ เพื่อไม่ให้รถของท่านเกิดความเสียหายในลำดับต่อมา จะมีวิธีอะไรแนะนำบ้างนั้นไปดูกันเลยค่ะ

1. ล้างรถให้สะอาด

ฉีดน้ำเข้าท้องรถ ล้อรถ เพื่อล้างพวกเศษทรายต่าง ๆ ที่เกาะอยู่ออกให้หมด เพราะถ้ามีเศษขยะ เศษหญ้า อาจจะเป็นอันตราย มีโอกาสที่จะเกิดไฟไหม้ได้ ดังนั้นหลังจากลุยน้ำมาแล้วอย่าลืมล้างให้สะอาดก่อน

2. สำรวจน้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์

เช็คของเหลวในรถ อย่างเช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ว่าสีเปลี่ยนไปไหม ถ้าเปลี่ยนไปอาจเป็นไปได้ว่าน้ำอาจจะซึมเข้าไปอย่างแน่นอน ทางที่ดีควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันจะดีที่สุด

3. เช็คระบบเบรค และลูกปืนล้อ

ระบบเบรค ที่ถือว่าสำคัญมากสำหรับความปลอดภัยของเรา เพราะน้ำอาจจะทำให้ระบบเบรคชื้นและเสื่อมคุณภาพได้ ทางที่ดีต้องเช็คด้วย หลังจากนั้นแล้วอย่าลืมเช็คลูกปืนล้อ เมื่อแช่น้ำนานอาจทำให้เกิดเสียงดังได้ ถ้าเสียงดังให้รีบเปลี่ยนทันที เพราะถ้าปล่อยไว้ถ้าลูกปืนแตก จะเป็นอันตรายมาก ๆ เพราะลูกปืนเป็นตัวที่ช่วยทำให้ล้อหมุนได้อย่างอิสระนั่นเอง

4. ตรวจสอบพื้นพรมในรถ

หลังลุยน้ำ ให้เปิดผ้ายางออกเช็คพื้นพรมดูดี ๆ ว่าเปียกชื้นหรือไม่ เพราะถ้าลุยน้ำสูงก็จะมีโอกาสที่น้ำจะซึมเข้ามาได้ ถ้ามีน้ำขังอยู่ภายในห้องโดยสาร แนะนำว่าให้รื้อพรมเลย เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาทีหลัง และป้องกันการติดเชื้อราในพรม และการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่าง ๆ อีกด้วย แต่ถ้าแน่ใจว่าพรมแค่ชื้นเล็กน้อยให้เอาผ้าเช็ดให้พื้นแห้ง แล้วจอดตากแดดได้เลย

สรุป

วิธีที่เราแนะนำเป็นการตรวจเช็คเบื้องต้น ถ้าท่านไหนไม่มั่นใจ ตรวจเช็คไม่เป็น แนะนำให้ช่างผู้เชียวชาญเข้าศูนย์หรืออู่ที่เราไว้วางใจ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหนักแล้วมาแก้ไขทีหลัง อย่าลืมตรวจเช็ครถกันนะคะ เพื่อความปลอดภัยค่ะ

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”