ใจ๋บ้าน อันเป็นการรวมใจของชุมชน บ้างก็แห่ไม้ค้ำ

สะหรี(ศรีมหาโพธิ์)มีความหมายเพื่อจะได้คำชูพระพุทธศาสนาให้มีอายุยืยาวครบ 5000 พระวสา ผู้ถวายก็จะได้มีอายุยืนยาว จากใจ๋บ้านก็จะโยงสายสิญจน์ไปยังทุกครัวเรือนแล้วนิมนต์พระเจ้าพระสงฆ์ไปทำพิธี และเทศน์ธรรม ศาลากลิวิจาสูตร์นัยว่าบ้านเฮา “มีตุ๊กข์ร่วมต้าน มีสุขร่วมเสพ”เราจะไม่ทิ้งกันแม้ยามยาก ขบวนการรดน้ำดำหัว ในหมู่บ้านก็เริ่มขึ้น ขึ้นบ้านนั้นลงบ้านนี้

พริก เกลือหอม บ่าแต๋ง บ่าเต้า หอมขาว หอมแดงก็จะนำมาเปาะ มาฮอมกันล้วนของที่ฮิบหาได้จากการผลิตเองทั้งสิ้น ตกค่ำก็จะนำเทียนที่เอาไปให้พ่อน้อย พ่อหนานเขียน เพื่อสะเดาะเคราะห์ รับโชคไปจุดที่วัดบ้าง ที่บ้านบ้างตามสะดวก วันนี้เกือบทุกครัวเรือนิยมแก๋งขนุนกันพร้อมหน้า

เหมือนพญานาคจะรู้ใจในความใฝ่ฝันของมนุสโลก พอตกเย็นย่ำค่ำฝนหัวปี๋ สาดเม็ดลงมาอย่างหนัก แสงฟ้าแลบแปลบปลาบ อ้ายหนานนั่งพิงเสามองเห็นก้อนเมฆ เป็นรูปพญานาคคล้ายพ่นน้ำไปมา บ้างก็เห็นเป็นรูปรามสูรขว้างขวานเป็นสายฟ้า ใส่นางมณีเมฆราที่ล่อแก้วอยู่ แอกไถที่แขวนไว้กับเสาหลองข้าว ต้องพายุพัดแกว่งไปมาเหมือนจะรับรู้ว่าฤดูกาลผลิตใหม่กำลังจะมาถึง เย็นน้ำฝน เย็นพอๆกับน้ำปี๋ใหม่ที่รดจากน้ำมือสาวๆ กลิ่นหอมดอกมะลิยังกรุ่นอยู่ปลายจมูก

ปี่นี้จะอดทนเยียะไฮ่ใส่นาอย่างจริงจังเผื่อปีหน้าจะได้สมกับปอนที่คนเฒ่าคนแก่หื้อไว้ “ปันได้ ปันมี สารภี ซ้อนกาบ ปันได้หาบ ปันได้กอน ปันได้นอนหมอนกู้ ปันได้อยู่ตวยกั๋น ปันได้เอาสวรรค์เป้นบ้านเต๊อเน้อ”

บทความโดย
นพพร นิลณรงค์

ร่วมแสดงความคิดเห็น