“หม้อน้ำรถยนต์” เป็นผู้หญิง ก็เช็ครถเองได้!

ปัจจุบันนี้รถยนต์ส่วนใหญ่ก็ได้ผลิตออกมาเรื่อย ๆ ตามยุค ตามสมัย การดูแลรถก็อาจจะน้อยลงเพราะมีการติดตั้งระบบเตือนไว้ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ก็อย่าลืมไปว่าเราก็ยังคงต้องดูแลรถยนต์ของเราให้พร้อมใช้งานทุกสถานการณ์

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาแนะนำวิธีดูแลหม้อน้ำเบื้องต้น ให้กับคุณผู้หญิง เพราะส่วนใหญ่แล้ว คุณผู้หญิงบางท่านอาจไม่ได้สนใจ เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับรถของท่าน เราต้องตรวจดูทุกครั้งก่อนออกเดินทางไกล โดยเฉพาะท่านไหนที่ขับรถเกิน 10 ปีขึ้นไป ก็ควรดูแลเป็นพิเศษ สิ่งของบางอย่างอาจเห็นยังใหม่อยู่ แต่อาจสึกหรอไปตามกาลเวลา

1.เราสามารถตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็นได้ในขณะที่เครื่องเย็น (ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำตอนเครื่องร้อนเด็ดขาด) วิธีเช็คก็ง่าย ๆ แค่เปิดฝาหม้อน้ำดู แล้วสังเกตปริมาณระดับน้ำในหม้อน้ำ ซึ่งน้ำจะต้องเต็ม หากตรวจเช็คแล้วพบว่าปริมาณน้ำลดลงไป ก็จัดการเติมน้ำยาหล่อเย็นให้เต็ม (หาซื้อได้ตามร้านขายอะไหล่ทั่วไป และศูนย์บริการ) และให้สังเกตสีของน้ำยาหล่อเย็นของเดิมที่อยู่ในหม้อน้ำ หากสีเปลี่ยนไปจากเดิมเช่น น้ำเริ่มเป็นสีสนิม ก็ควรเข้าศูนย์บริการ เพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็น

2.การที่จะทำความสะอาดระบบหล่อเย็นด้วยตนเอง คือการขยันถ่ายน้ำในระบบบ่อย ๆ และควรถ่ายน้ำในขณะที่อุณหภูมิของน้ำยังร้อน ๆ หรืออย่างน้อยก็ยังอุ่น ๆ อยู่เพราะสิ่งสกปรกและสนิมจะยังไม่ตกตะกอนนอนก้น จะมีโอกาสถูกถ่ายทิ้งออกมาได้ง่ายกว่าการถ่ายตอนที่น้ำในระบบเย็นหมดแล้ว

3.เวลาเติมน้ำให้สังเกตที่หม้อพักน้ำยาหล่อเย็น จะมีสัญลักษณ์บอกระดับน้ำคือ Min และ Max หากน้ำอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า Min (ขีดล่าง) คือน้ำน้อยเกินไป ถือว่าอันตราย เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์ฮีตได้ วิธีแก้ก็แค่จัดการเติมน้ำยาหล่อเย็นเข้าไป จนให้ถึงสัญลักษณ์ Max (ขีดบน) และหากเราเติมเยอะเกินไปจนเลยขีด Max ควรดูดออก เพราะเวลาเครื่องยนต์ร้อน น้ำจะเดือด ซึ่งอาจทำให้น้ำล้นออกมาได้

4.ในการตรวจเช็คระดับน้ำในหม้อน้ำและหม้อพักนั้น ควรหมั่นเช็คบ่อย ๆ หรือเช็คทุกวันเลยยิ่งดี เพราะเราจะได้ทราบว่ารถเราผิดปกติหรือไม่ เช่นสมมติว่า วันนี้เราเติมน้ำจนได้ระดับที่พอดีแล้ว แต่พอวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่าน้ำที่เติมไปลดหายอีกแล้ว หากเป็นกรณีนี้ สันนิษฐานได้เลยว่า ต้องเกิดความผิดปกติอะไรสักอย่างกับรถของเรา เช่น หม้อน้ำรั่ว ท่อยางแตก พัดลมหม้อน้ำไม่ทำงาน ประเก็นแตก ฝาโก่ง เป็นต้น

5.ขณะขับรถให้เราหมั่นมองไปที่เกจ์ความร้อน หากความร้อนขึ้นสูงกว่าปกติ ให้รีบจอดรถทันที ห้ามฝืนขับต่อเด็ดขาด

สรุป

การตรวจเช็ครถยนต์ของเรานั้น ก็จะส่งผลที่ดีต่อตัวเราเอง เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปไหน เราจะได้มั่นใจว่า เราได้ตรวจเช็คหนึ่งในสิ่งสำคัญของการเดินทางไกลครั้งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้าใครไม่มั่นใจหรือทำไม่เป็น แนะนำว่าให้เข้าศูนย์บริการรถยนต์จะดีกว่าค่ะ

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

บทความที่เกี่ยวข้อง

มือใหม่หัดขับรู้ยัง! 5 เทคนิคขับรถพื้นฐานที่ต้องรู้

รถต้องพร้อม! 7 วิธีเช็ครถให้พร้อมลุยสงกรานต์

“สายรักรถหมดห่วง” 5 วิธีป้องกันสีรถ จากแป้ง ดินสอพอง ในวันสงกรานต์

อย่าวางใจไป! “ขับรถลุยน้ำ” อันตรายกว่าที่คิด

เช็คให้ดีก่อนขับ! 5 จุดที่ต้องตรวจ เพื่อความปลอดภัย

ร่วมแสดงความคิดเห็น