รอฝน แล้งลามหนัก! เชียงใหม่ขอร่วมมือประหยัดน้ำ

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ รายงานสถานการณ์น้ำล่าสุด ปริมาณน้ำในเขื่อนแม่กวง จากความจุที่ 295 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้มีเพียง 30 % ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา ส่วนเขื่อนแม่งัดฯความจุ 323 ล้าน ลบ.ม.ขณะนี้มีน้ำราวๆ 157 ล้าน ลบ.ม.หรือร้อยละ 57 พอๆกับปี 61 ช่วงเดียวกัน ที่จะมาเติมเขื่อนทั้ง 2 ต้องรอฝน ในขณะที่การระบายน้ำวันละ 1.3 ล้าน ลบ.ม.อยู่ในเกณฑ์ปกติ โดยภาพรวมน้ำต้นทุนทั้งประเทศ มีกว่า 39,570 ล้าน ลบ.ม.

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ชลประทานในพื้นที่เชียงใหม่-ลำพูน ว่าการจัดสรรน้ำเพื่อการชลประทาน อุปโภค-บริโภค สนับสนุนการผลิตน้ำประปา การเกษตร และรักษาระบบสมดุลย์นิเวศน์เพียงพอ ตามแผนจัดสรรน้ำในเขตชลประทาน ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ ใช้น้ำอย่างประหยัดมีประสิทธิภาพ แม้จะใช้ได้จนถึงต้นฤดูฝน ก็ไม่ควรชล่าใจ หากฝนทิ้งช่วงอาจส่งผลกระทบได้ ยิ่งนอกเขตชลประทานต้องบริหารจัดการน้ำให้ดี
ทั้งนี้จากการตรวจสอบสภาพลำน้ำปิง ในเชียงใหม่ พบว่า ย่าน บ้านสบแฝก สภาพน้ำปิง มีน้ำน้อย เช่นปีที่ผ่านๆมา แม้จะมีการขุดลอก ทางน้ำบริเวณใกล้เคียง บางช่วงชาวบ้านเดินข้ามไปมาได้ เพราะน้ำแห้ง มีสันดอนทรายโผล่เป็นระยะๆ

ด้านเกษตรกรชาวสวน ในพื้นที่ ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน กล่าวว่า ต้องสูบน้ำบาดาลมาใช้ในสวนเป็นระยะๆ ในช่วงที่ลำไยเริ่มออกติดดอก ออกผลเท่าหัวไม้ขีด เพราะหากขาดน้ำ จะร่วงหล่น รวมถึงไม้ผลอื่นๆ เช่น มะม่วง และต้องเลือกปลูกพืชระยะสั้น ประเภทพืชผัก เสริมรายได้ ให้เหมาะสม เนื่องจากการสูบน้ำแต่ละครั้ง มีค่าใช้จ่ายสูง จากค่าไฟฟ้าไม่นับรวมต้นทุนผลิตอื่นๆ

เครือข่ายอนุรักษ์แม่แจ่ม เชียงใหม่ กล่าวว่า สภาพพื้นที่การเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ ในกลุ่มข้าวโพด ส่งผลต่อสภาพ ความอุดมสมบูรณ์ของผิวดิน ต้องรอฝน เพราะการขาดแคลนน้ำจะมีปัญหากับการลงมือทำการเกษตรประเภทอื่นๆ ซึ่งความพยายามที่จะผลักดันการปลูกไม้ 3 อย่าง ทั้งไม้ใช้สอย ประเภท ไผ่ ไม้ผลที่ตลาดรองรับ ไม้ฟืนแทนที่จะตัดไม้ที่มีอยู่ น่าจะมีความร่วมมือที่จริงจังมากกว่านี้