ฉก.ร.7 ร่วมกับหอการค้าจังหวัด นำร่องกำจัดเชื้อเพลิงแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน นำใบไม้อัดก้อนผลิตถ่านไร้ควัน สร้างรายได้

ฉก.ร.7 ร่วมกับหอการค้าจังหวัด นำร่องกำจัดเชื้อเพลิงแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ใช้เวลาว่างนอกเวลาราชการ นำใบไม้อัดก้อนผลิตถ่านไร้ควัน สร้างรายได้เป็นสวัสดิการให้กำลังพลและได้ออกกำลังกายไปในตัว

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 ในช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน ของทุกปี จังหวัดแม่ฮ่องสอนจะประสบกับปัญหาไฟป่าและหมอกควันแผ่กระจายปกคลุมพื้นที่ ทำให้พื้นที่ป่าถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายปีละหลายหมื่นไร่ หมอกควันที่แผ่กระจายปกคลุมพื้นที่ตัวเมืองส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสุขภาพของประชาชนเครื่องบินถูกยกเลิกเที่ยวบินประชาชนป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ และผลกระทบด้านอื่นๆอีกมากมาย รวมทั้งงบประมาณ แม้ภาครัฐจะออกมาตรการเข้ม ปิดป่า จับกุมผู้ที่ลักลอบเผาป่า ผนึกกำลังทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประชาชนทุกหมู่บ้านเข้าไปดับไฟป่า จัดเวรยามเฝ้าระวัง แม้ไฟป่าจะเกิดจากการลักลอบเผาป่าของมนุษย์ แต่ต้นเหตุของเชื้อเพลิงก็คือ”ใบไม้แห้งที่ร่วงหล่น”

เพื่อแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน นอกจากจะมีมาตรการชิงเผาและทำแนวกันไฟและห้ามเผาป่าช่วง 60 วันอันตราย ของภาครัฐ ก่อนเดือน มี.ค.- เม.ย.ของทุกปีแล้ว การกำจัดเศษใบไม้แห้งที่ร่วงหล่น ถือเป็นส่วนสำคัญในการกำจัดต้นเหตุของเชื้อเพลิง ภาคเอกชนจึงเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือกำจัดเชื้อเพลิง โดย นางสาวชนเขต (ชน-นะเขต) บุญญขันธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับบริษัทวีเอ็นพีพาวเวอร์โปรดักชั่น (ประเทศไทย) โดยนายพีระพล หวังก่อนใคร ได้มอบเครื่องมืออัดใบไม้และอุปกรณ์ จำนวน 4 เครื่อง ให้ พันเอก ณรงค์ฤทธิ ปาณิกบุตร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 นำไปใช้ประโยชน์ภายในค่ายทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 บ้านม่อนตะแลง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยใช้เวลาว่างนอกเวลาราชการหลังเลิกงาน ช่วงเวลา 1630 -1730 น.ของทุกวัน ให้กำลังพลทหารจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 นำใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นและเก็บกวาดภายในค่ายทหารมาอัดเป็นก้อน โดยใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ได้ใบไม้อัดก้อนจำนวน 30 ก้อน ๆ ละ 5 กิโลกรัม วันละ 150 กิโลกรัม ส่งจำหน่ายให้กับโรงงานผลิตถ่านไร้ควันกิโลกรัมละ 1 บาท เป็นสวัสดิการให้กำลังพลและยังได้ออกกำลังกายไปในตัวอีกด้วย

นางสาวชนเขต บุญญขันธ์ ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้ริเริ่มโครงการ “ผลิตภัณฑ์อากาศสะอาด” โดยได้เซ็นต์MOUร่วมกับบริษัท วีเอ็นพีพาวเวอร์โปรดักชั่นจำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยลดต้นเหตุของเชื้อเพลิงในพื้นที่ ซึ่งใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นและกองทับถมกันจำนวนมากในฤดูแล้งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของเชื้อเพลิง ก่อให้เกิดการลุกลามของไฟป่า เกิดหมอกควันที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและมีผลกระทบอย่างหนักต่อระบบเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยเฉพาะหมอกควันที่เกิดขึ้นส่งผลต่อทัศนวิสัยทางอากาศ เครื่องบินต้องยกเลิกอย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ของทุกปี ขณะนี้หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน รับซื้อใบไม้แห้งอัดก้อนล็อตแรกจาก ฉก.ร.7 จำนวน 940 กิโลกรัม การนำใบไม้แห้งเข้าสู่กระบวนการผลิตถ่านไร้ควันและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ ช่วยตอบโจทย์ทั้งการลดปริมาณต้นเหตุของเชื้อเพลิง และการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับชุมชน แปลงใบไม้แห้งเป็นเงิน เพิ่มมูลค่าให้กับของที่ไม่มีมูลค่า โดยเบื้องต้นหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ตั้งเป้าโครงการนำร่องรับซื้อใบไม้แห้งอัดก้อนจำนวน 20 ตัน และจะขยายผลเพิ่มเติมต่อไป

เนื่องจากใบไม้ที่ร่วงล่นมีจำนวนมาก เมื่อไฟไหม้ก็จะลุกลามเร็วมากเป็นต้นเหตุไฟป่าหมอกควันปกคลุมจังหวัดแม่ฮ่องสอนอยู่ทุกวันนี้ ก็อยากจะช่วยลดต้นเหตุของเชื้อเพลิงก็คือต้องกำจัดเชื้อเพลิงออกให้มากที่สุด โครงการดังกล่าวเป็นโครงการนำร่องของภาคเอกชน “แปลงใบไม้เป็นรายได้คืนสู่ชุมชน” โดยมีจิตอาสามาร่วมกิจกรรม และทางหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้แนะนำโครงการรับซื้อใบไม้อัดก้อน ซึ่งจะนำวัตถุดิบใบไม้แห้งนี้เข้าสู่กระบวนการผลิตถ่านไร้ควันและผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอื่นๆ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ ลดปัจจัยต้นเหตุของเชื้อเพลิง , สร้างรายได้สู่ชุมชน และ จัดทำกระบวนการผลิต “ผลิตภัณฑ์อากาศสะอาด” อย่างเป็นระบบ เป็นที่มาของแนวความคิด จึงได้ร่วมกับบริษัท ฯ นำใบไม้อัดก้อนไปทำถ่านอัดแท่งไร้ควันเป็นผลิตภัณฑ์”อากาศสะอาด” ถ่านที่ได้มีลูกค้ารับซื้ออยู่แล้ว แต่หลัก ๆ ก็จะเป็นตลาดส่งออกเพราะมีความต้องการใช้ถ่านไร้ควันมาก รวมถึงร้านค้าต่าง ๆในจังหวัดใกล้เคียงมีออเดอร์สั่งเข้ามา ถ่านจากใบไม้แห้งได้นำส่งไปตรวจแล้วเป็นถ่านที่ไม่มีกำมะถัน ไม่มีควัน ไม่มีสารพิษ เป็นขบวนการถ่านชีวภาพ ผลผลิตมีจำหน่ายแล้ว ได้ผลมากมีผู้สั่งซื้อจำนวนมาก

ประธานหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวต่อไปว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการ นำร่อง โดยเริ่มจากค่ายทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 เนื่องจาก มีใบไม้ร่วงหล่นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 20 ตัน ทุกเช้าจะมีทหารไปช่วยกันกวาดนำมากองไว้ทำรั้วกั้นอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยไม่เผา เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมัก ก็เป็นขบวนการที่ดี แต่กว่าจะเป็นปุ๋ยต้องใช้เวลาพอสมควร คิดว่าถ้ำนำไปอัดแท่งส่งเข้าโรงงานผลิตถ่านไร้ควัน จะสามารถกำจัดเชื้อเพลิงได้เร็ว จึงนำเครื่องอัดใบไม้ไปมอบให้หน่วยทหาร และจะขยายผลไปสู่ชุมชนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น