ผู้สื่อข่าวรายงานมาจาก จ.แพร่ มาเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 หลังจากที่ชาวบ้านทราบว่า ประกาศของจ.แพร่ ที่ห้ามเผาหมดเขตสิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ทำให้ราษฎรหลายท้องที่ในเขต อ.วังชิ้น ได้มีการเผาป่าในหลายท้องที่ ไม่ว่าในป่าสงวน อุทยานแห่งชาติฯ ที่ทำการเกษตร เกือบทุกพื้นที่ ราษฎรที่เข้าไปล่าสัตว์ หาของป่า ราษฎรที่ทำไร่ ทำสวน ทำการเกษตร จึงได้เวลา (ดี-เดย์) อย่างเต็มที่ เพราะถือว่าทางการอนุญาตแล้ว จึงได้จุดไฟเผา เหมือนว่าจะนัดกันไว้ จึงทำให้อากาศร้อน หมอกควันปกคลุม กลิ่นควันไฟ เหม็นเข้ามาหมู่บ้านทำให้หายใจลำบาก ทำให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ และหาแนวทางแก้ไขแล้ว
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.แพร่ กล่าวว่า หลังจากสิ้นสุดวันที่เราห้ามเผาโดยเด็ดขาด ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าจุดความร้อนของ จ.แพร่ เพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในการแก้ไขปัญหา จ.แพร่ ได้มีการประชุมคณะกรรมการไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งในที่ประชุมได้มีมติดังนี้
1.ในพื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ทั้งหมด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดไฟไหม้มากที่สุดในบริเวณนี้ ให้มีการบังคับใช้กฎหมายเดิมซึ่ง เป็น พ.ร.บ.ของป่าสงวน และพ.ร.บ.ของป่าอนุรักษ์ ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษอยู่แล้ว ว่าห้ามบุคคลใดเผา หรือกระทำสิ่งใดก่อให้เกิดไฟไหม้ จะมีความผิดตามกฎหมาย
2.พื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่ป่า พื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ ของเกษตรกร มีการขอความร่วมมือในช่วงต้นเดือนพฤษ ภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ค่า PM 2.5 ยังคงมีปัญหา ดังนั้น จ.แพร่ จะมีการขอความร่วมมือในพื้นที่ ที่มีเอกสารสิทธิ์พื้นที่การเกษตร ให้งดการเผาไปก่อน จากวันนี้จนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม เพื่อที่จะให้สภาวะของฝุ่นละออง PM 2.5 และ PM 10 เบาบางลง หลังจากวันที่ 13 พฤษภาคม 2562 ไปแล้ว คือตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป จะมีการพูดคุยเพื่อกำหนดให้มีการจัดการในแต่ละพื้นที่ แต่ละอำเภอ สลับกันจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ ไร่ นา อย่างไร ตรงนี้ได้มอบให้ทางอำเภอไปจัดการ จะได้เป็นการกระจาย อย่าให้มีการส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศ
และมาตรการที่ 3 ในพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของแขวงการทาง ทั้งทางหลวง หรือทางหลวงชนบท ตรงนี้ก็มีกฎหมายอยู่แล้วว่าห้ามจุด ห้ามเผา ในที่เป็นเขตทางหลวง จะเป็นทางเดียวกับพื้นที่ป่า คือให้ใช้กฎหมายอย่างเคร่งคัด นอกจากนั้นแล้วในที่ประชุมได้พูดถึงมาตรการอื่น ๆ ที่เราจะต้องดำเนินการตั้งรับต่อไปในปีหน้า โดยให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหาแนวทาง ไปหาคำตอบ โดยใช้บทเรียนจากปีที่ผ่านมา จากนั้นจะมาสังเคราะห์มาพูดคุยกัน เพื่อมาทำเป็นมาตรการระยะยาว เพื่อตั้งรับกับปี 2563 ต่อไป
ส่วนพื้นที่ชุมชน ก็ขอความร่วมมือเช่นเดียวกับพื้นที่การเกษตรที่มีเอกสารสิทธิ์ พื้นที่ชุมชนก็ขอให้ในช่วงนี้ถึง 13 พฤษภาคม 2562 เพื่อลดปัญหา PM 2.5 ขอความร่วมมือในการงดเผาก่อน หลังวันที่ 13 คือ วันที่ 14 ไปแล้ว สามารถดำเนินการได้ ตามที่ทางอำเภอได้จัดตารางเอาไว้
ร่วมแสดงความคิดเห็น