การดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2562

สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 ณ เวลา 09.00 น. พบว่าค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงในพื้นที่ 9 จังหวัด ส่วนพื้นที่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้แก่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก – มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สีส้ม 5 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) พื้นที่สีเหลือง 4 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง) พื้นที่สีแดง 2 พื้นที่ (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) พื้นที่สีเขียว 1 พื้นที่ (คุณภาพอากาศดี) พื้นที่สีฟ้า 2 พื้นที่ (คุณภาพอากาศดีมาก)

– ค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 15 – 117 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)
– ค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 28 – 134 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.)
ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศ ได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai
จังหวัดลำปาง
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเขลางค์นคร จังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ฝ่ายงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ได้ร่วมกันนำรถบรรทุกน้ำพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง เข้าปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังโหมลุกไหม้พงหญ้าแห้งข้างทาง ริมฝั่งถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ สายลำปาง-ตาก ขาเข้าเมืองลำปาง ตรงข้ามกับปั๊มน้ำมันเชลล์ ในเขตท้องที่บ้านลำปางกลางฝั่งตะวันตก ตำบลชมพู อำเภอเมืองลำปาง โดยในที่เกิดเหตุพบว่าไฟได้ไหม้ลุกลามกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง กลุ่มควันไฟทั้งสีดำและสีขาวจำนวนมาก ได้โพยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแผ่ปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ บางส่วนถูกกระแสลมพัดปลิวออกมาปกคลุมทั่วบริเวณพื้นที่ท้องถนน จนทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นไม่ดีอยู่ในระยะใกล้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงยังได้ก่อให้เกิดมลพิษส่งผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนหมู่บ้านบริเวณใกล้เคียง
โดยเพลิงที่ลุกไหม้จะพบว่ามีความรุนแรงและดับได้ยาก เนื่องจากในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ป่าละเมาะ มีหญ้าแห้งสามารถที่จะเป็นเชื้อเพลิงได้อย่างดี ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดจึงทำให้เพลิงลุกลามขยายวงกว้างได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจากการประมาณด้วยสายตาคาดว่ามีพื้นที่เสียหายจากเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 50 ไร่ ในขณะที่การระงับเหตุจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยต้องทำการบรรทุกน้ำเข้ามาระงับเหตุมากกว่า 20 เที่ยว และต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ฯ คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่ชาวบ้านทำการจุดไฟเผาพื้นที่ทำการเกษตร โดยไม่มีการป้องกันแล้วเกิดลุกลาม เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงพ้นกำหนดห้ามเผา หรืออาจเกิดจากก้นบุหรี่ที่มีคนสูบแล้วทิ้งลงไปในบริเวณพงหญ้าแห้งริมทาง
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่จังหวัดลำปาง ในช่วงระยะนี้จะพบว่าในหลายๆพื้นที่ เริ่มมีการจุดไฟเผาในพื้นที่ทำการเกษตรเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ได้สิ้นสุดห้วงระยะเวลากำหนดห้าม อย่างไรก็ตามแม้จะพ้นกำหนดห้วงระยะเวลาห้ามเผา แต่ทางจังหวัดลำปาง ยังคงให้มีมาตรการคอยดูแลควบคุมการบริหารจัดการเชื้อเพลิงอยู่ โดยขอให้เกษตรกรได้หลีกเลี่ยงใช้วิธีการเผา แต่หากมีความจำเป็นให้ราษฎรทำการขออนุญาตจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือนายอำเภอเขตท้องที่ และในการเผาทุกครั้งต้องมีการจัดทำแนวกันไฟความกว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตร รอบบริเวณแนวพื้นที่ รวมทั้งต้องคอยควบคุมมิให้เกิดการลุกลามด้วย ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนด จนทำให้เกิดเหตุลุกลาม จะมีความผิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง
จังหวัดพะเยา
จังหวัดพะเยา ร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานเทศบาลเมืองพะเยา) ร่วมดำเนินมาตรการเพิ่มความชุ่มชื้นและลดฝุ่นละอองในอากาศ โดย นำรถยนต์บรรทุกน้ำ รถดับเพลิง ทำการฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื่น ลดหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ทำความสะอาดถนน ต้นไม้ ณ บริเวณศาลหลักเมืองพะเยา อำเภอเมืองพะเยา

จังหวัดตาก
ศูนย์บัญชาการหมอกควันและไฟป่าอำเภอแม่สอด จัดรถดับเพลิงทำการฉีดพ่นละอองน้ำและล้างถนน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศในพื้นที่อำเภอแม่สอด โดยได้รับการสนับสนุนรถน้ำจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 เทศบาลนครแม่สอด และศูนย์ปภเขต 9 พิษณุโลก
จังหวัดเชียงราย
หน่วยงานราชการ ทุกภาคส่วน ประชาชน ร่วมฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่เขตรับผิดชอบ ตามข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ ดักฝุ่นละอองและหมอกควันที่มีค่าเกินมาตรฐาน และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยกันฉีดพ่นละอองน้ำในทุกครัวเรือนและชุมชน องค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 18 อำเภอ ฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่เขตรับผิดชอบ วันละ 2 รอบ

จังหวัดแพร่
– ตามที่หลังจังหวัดแพร่ มีการประชุมเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 ห้องประชุมเวียงโกศัย ศาลากลางจังหวัดแพร่ นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นประธานการประชุมการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อสรุปผลการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ภายหลังมีการขยายระยะเวลาห้ามเผาออกไปถึงวันที่ 30 เมษายน 2562 จนถึงขณะนี้ได้สิ้นสุดข้อห้ามดังกล่าวแล้ว ที่ประชุมจึงได้สรุปผลการดำเนินงาน 3 ระยะได้แก่ ระยะก่อนประกาศห้ามเผา , ระยะประกาศห้ามเผา และระยะหลังประกาศห้ามเผา ทั้งนี้ ระยะหลังประกาศห้ามเผามอบหมายให้ศูนย์อำเภอดำเนินการจัดระเบียบการเผาในพื้นที่ ปลูกป่าสร้างความชุ่มชื้น สร้างป่าสร้างรายได้ สร้างฝายชะลอน้ำ ทำแนวกันไฟแบบป่าเปียก สร้างความตระหนักให้ความรู้ สร้างความเข้าใจอย่างต่อเนื่องในกลุ่มเสี่ยง และเยาวชนในสถานศึกษาเพื่อขยายผลสู่ครอบครัว และยังคงให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะพื้นที่ป่าไม้ ห้ามเผาป่าไม้ ห้ามเผาในพื้นที่ของรัฐหรือพื้นที่ที่ขอคืนผืนป่าแล้ว โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ของรัฐ บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเข้มข้น และต่อเนื่องตลอดจนถึงช่วงฤดูฝนต่อไป
– อำเภอเมืองแพร่ นายทรงฤทธิ์ แก้วสุทธิ นายอำเภอเมืองแพร่ ได้มีการสั่งการให้กำนันทุกตำบล ให้มีการเตรียมความพร้อม อุปกรณ์ บุคคลกร ในการสู้ไฟตามนโยบายของจังหวัดแพร่ ไปจนถึงช่วงฤดูฝน เพื่อลดปัญหาเรื่องหมอกควัน เมื่อวันก่อนมีการเผาแทบทั้งจังหวัด ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน มีการแสบตา เจ็บคอ บางคนต้องรีบไปหาหมออย่างเร่งด่วน ทางนายภาสกร หม้อกรอง กำนันตำบลบ้านถิ่น ก็สนองตอบนโยบายนี้ทันที มีการปรับปรุงเครื่องฉีดน้ำ โดยซื้อสายยางเพิ่มอีกสองเส้นเพื่อรับมือสู้ไฟต่อไป
– สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ ปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กและเพิ่มความชื้นในอากาศเป็นประจำทุกวัน โดยได้รับการสนับสนุนรถหุ่นยนต์ดับเพลิงแรงดันสูงควบคุมระยะไกล จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย และได้รับการสนับสนุนรถน้ำดับเพลิง พร้อมเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองแพร่ กองพันทหารม้าที่ 12 แขวงทางหลวงแพร่ แขวงทางหลวงชนบท อบจ.แพร่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทุกแห่ง ร่วมปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง
จังหวัดลำพูน
อำเภอได้กำชับส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ถือปฏิบัติตามนโยบายและมาตรการของจังหวัดลำพูน หลังประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดอย่างเคร่งครัด และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในหมู่บ้านทราบ และขอความร่วมมือให้งดการเผาในข่วงวันที่ 1 – 7 พฤษภาคม 2562 สำหรับการจัดการเชื้อเพลิงในส่วนของอำเภอ สามารถดำเนินการได้ตามแผนของจังหวัด ระหว่างวันที่ 20 – 25 พฤษภาคม 2562 ช่วงเวลา 06.00-11.00 น. และช่วงเวลา 14.00-20.00 น.ตามแผนของอำเภอ ห้ามเผาในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่ของรัฐ โดยเด็ดขาดซึ่งจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
จังหวัดน่าน
– หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่าน่าน ศูนย์ป่าไม้น่าน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขา แพร่ กรมป่าไม้ ตรวจสอบจุดความร้อน (hotspot) ในพื้นที่ป่าสงวนเเห่งชาติ พื้นที่ ต.สกาด อ.ปัว อยู่ในเขต ป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยภูคาและป่าผาแดง จากการตรวจสอบไฟได้ดับลงเเล้ว จึงได้ประชาสัมพันธ์กับราษฎร ในพื้นที่ให้มีการจัดระเบียบการเผา โดยทำเเนวกันไฟโดยรอบเเปลงที่จะทำการเผา เพื่อป้องกันการลุกลาม เข้าพื้นที่ป่าเเละขอความร่วมมืองดเผาในพื้นที่ป่าสงวนเเห่งชาติโดยเด็ดขาด
– สถานีควบคุมไฟป่านันทบุรี (สบอ.13) มอบหมายเจ้าหน้าที่สถานีฯ ออกลาดตระเวน ตรวจสอบไฟป่า ตรวจพบไฟไหม้ป่าบริเวณป่าขุนห้วยริม บ้านดอยติ้ว ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน และเข้าดำเนินการดับไฟบริเวณ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำยาว – น้ำสวด นอกเขตอุทยานแห่งชาตินันทบุรี พื้นที่ป่าเสียหาย 10 ไร่
– องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดน่าน ดำเนินการฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ อาทิ เส้นทางการจราจร พื้นที่สาธารณะ สถานที่ราชการ เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินค่ามาตรฐานและสร้างความชุ่มชื้นในพื้นที่
จังหวัดแม่ฮ่องสอน
สถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน ร่วมระดมฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ และลดปัญหาหมอกควัน ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน และเส้นทางบริเวณถนนหน้าอนุสาวรีย์ พญาสิงหนาทราชา ผ่านศูนย์ราชการ ผ่านซุ้มประตูเมืองทิศใต้ จนถึงบริเวณสามแยกหน้าโบสถ์นักบุญฟรัง ซิลเซเวีย (บ้านไม้แงะ)

จังหวัดเชียงใหม่
– นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ส่งมอบเครื่องเป่าลมของวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) จำนวน 2 เครื่อง ให้กับสถานีพัฒนาที่ดินเชียงใหม่ เพื่อใช้ในการป้องกันไฟป่าในพื้นที่โครงการเกษตรวิชญา ตามพระราชดำริ บริเวณบ้านกองแหะ หมู่ที่ 4 ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
– สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 9 พิษณุโลก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นและลดฝุ่นละอองในอากาศ รวมถึงฉีดล้างทำความสะอาดถนนในพื้นที่รับผิดชอบ ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานเป็นประจำทุกวัน
การดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2562
สถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ ประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2562 ณ เวลา 09.00 น. พบว่าค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลงในพื้นที่ 9 จังหวัด ส่วนพื้นที่ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้แก่ ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก – มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่สีส้ม 5 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) พื้นที่สีเหลือง 4 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง) พื้นที่สีแดง 2 พื้นที่ (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) พื้นที่สีเขียว 1 พื้นที่ (คุณภาพอากาศดี) พื้นที่สีฟ้า 2 พื้นที่ (คุณภาพอากาศดีมาก)
– ค่า PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 15 – 117 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.)
– ค่า PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 28 – 134 มคก./ลบ.ม. (มาตรฐานไม่เกิน 120 มคก./ลบ.ม.)
ทั้งนี้สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น air4thai

ร่วมแสดงความคิดเห็น