ผบก.พะเยา ลั่นกลองรบลุยโครงการ “พะเยาล้อมรักษ์อย่างยั่งยืน” เตรียมนำ 10 โรงพักลุยรวบผู้เสพพันคน เข้าค่ายสู่กระบวนการบำบัดครั้งแรกของพะเยา
วันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในห้องประชุมขออาคารตำรวจภูธร จ.พะเยา ทาง พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล ผบก.ภ.จว.พะเยา เป็นประธานในที่ประชุม พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรเทพ น้องการ รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.จิรภัทร มุ่งดี รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.อภิรักษ์ นักไร่ รอง ผบก.ฯ, พ.ต.อ.บัญชา อินถา รอง ผบก.ฯ, ผกก.สภ.ฯ, ผกก.ฝอ.ฯ, ผกก.(สอบสวน)ฯ และข้าราชการตำรวจในสังกัด ภ.จว.พะเยา ประชุมเตรียมความพร้อมการดำเนินโครงการ “CBT x พะเยาล้อมรักษ์อย่างยั่งยืน” ซึ่งโครงการดังกล่าวจะนำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดทั้งจังหวัดพะเยาเป้าหมาย 1 พันคน เข้าสู่ระบบการบำบัด การเข้าค่าย และการบำบัดในชุมชนโดยให้ชุมชน มีส่วนร่วมรวมทั้งการปราบปรามผู้ค้าผู้ขายยาเสพติดในหมู่บ้านชุมชนให้หมดไปโยเร็วที่สุด

พล.ต.ต.พงษ์สวัสดิ์ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวที่ได้จับทำขึ้นนี้เป็นแผนนโยบายของทาง จ.พะเยา ซึ่งตนเองได้ริเริ่มทำโครงการนี้เป็นที่แรกในภาคเหนือ ด้วยเห็นว่าสถานการณ์ในเรื่องของผู้ค้ายาเสพติดยังมีมากอีกทั้งส่วนผู้เสพเห็นว่ายังคงพบเห็นอยู่ทุกวัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวน ปส.และสายตรวจต่างออกพื้นที่ประจำในการที่เวลามีชาวบ้านแจ้งเข้ามา แต่ทั้งนี้การแก้ไขปัญหานั้นดูแล้วไม่ยั่งยืนเพราะถ้าจับกุมมาแล้วผู้เสพคือผู้ป่วยซึ่งจะต้องนำตัวไปบัดบัดภายในโรงพยาบาลไม่กี่วันก็ออกมาเป็นเหมือนเดิม ตรงนี้ตนเองมองว่าหากไม่ได้มีการทำอย่างจริงจังนั้นผู้เสพก็จะเสพแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ตนจึงได้วางกลยุทธเชิงรุกที่จะบุกรวบผู้เสพให้หมดทั้ง จ.พะเยา และจะนำมาเข้าค่ายคุณธรรมที่มีทั้ง ทหาร ตำรวจ ปกครองและสาธารณสุขรวมไปถึงภาคีเครือข่ายทุกด้านที่ร่วมในโครงการนี้ด้วย

พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เมืองพะเยา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า โครงการนี้ทาง ผบก.เป็นคนคิดค้นขึ้นมาซึ่งการที่จะปราบรามในเรื่องยาเสพติดนั้นตำรวจจะต้องทำงานเชิงรุกและเร็ว ซึ่งจะทำให้การสกัดกั้นปัญหายาเสพติดนั้นสามารถทำได้โดยทันทีและสร้างผลที่ดีสู่ชุมชน ทั้งนี้มรส่วนของ สภ.เมืองพะเยานั้นตนเองได้สั่งการให้ตำรวจชุดที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลอย่างต่อเนื่องในการที่เราจะควานหาเป้าหมายสำคัญทั้งผู้เสพและผู้ค้ารายย่อยไปจนถึงผู้ค้ารายใหญ่ด้วย เมื่อทราบแล้วเราจะทำการตัดวงจรนี้โดยทันที เพื่อให้ทุกอย่างไม่ปานปลายจนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนไปมากกว่านี้เช่นกัน
พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.สภ.เชียงคำ กล่าวเสริมถึงเรื่องนี้ว่า ในส่วนของ อ.เชียงคำ เองตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งชุด ปส. ชุดสืบสวน และอีกหลายหน่วยเร่งในการทำงานเชิงรุกของการปฏิบัติการค้นหาผู้เสพมาเข้าค่ายบำบัดอย่างจริงจัง เพราะอย่างที่ ผบก.พะเยา ว่าไว้หากส่งตามกระบวนการทั่วไปไม่นานผู้เสพก็จะออกมาและสร้างความรำคาญรวมทั้งความหวาดกลัวภายในครอบครัวและหมู่บ้านด้วย แต่หากเราทำอย่างจริงจังแล้วเชื่อว่าผู้เสพนั้นเมื่อกลับออกมาจะสามารถอยู่ร่วมกับสังคมภายนอกและจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดอีกได้อย่างแน่นอน














ร่วมแสดงความคิดเห็น