อพยพนานกว่า 16 ปี ชาวบ้านยังไม่ได้เอกสารสิทธิ์

อพยพนานกว่า 16 ปี ชาวบ้านยังไม่ได้เอกสารสิทธิ์ หวั่นเกิดปัญหาหลังพื้นที่รองรับการอพยพที่ กฟผ.เช่าจากกรมป่าไม้จะหมดอายุลงในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้ เข้ายื่นหนังสือต่อ ปธ.กรรมาธิการที่ดินฯ ให้ช่วยเหลือเร่งด่วน


นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ตัวแทนชาวบ้านผู้อพยพจากพื้นที่รัศมีรอบโรงไฟฟ้า 5 กิโลเมตร ได้เปิดเผยว่า ตนเองพร้อมด้วยพระสาธิต ธีรปญฺโญ ผู้อำนวยการสถาบันธรรมาภิวัฒน์ อ.แม่เมาะ และตัวแทนชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้ร่วมกันเดินทางไปยังรัฐสภา กรุงเทพฯ เพื่อยืนหนังสือให้กับคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 26 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ในประเด็นที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบในสิทธิที่อยู่อาศัยในแปลงรองรับการอพยพของ กฟผ.แม่เมาะ



นางมะลิวรรณ กล่าวว่า การยื่นหนังสือเรียกร้องโดยเฉพาะเรื่องที่ชาวบ้านยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิในที่ดินที่ตนเองพักอาศัยอยู่ในปัจจุบัน ทั้งที่ได้มีการอพยพมาแล้วนานกว่า 10 ปี ซึ่งกลุ่มของตนเองเป็นการอพยพครั้งที่ 6 จำนวน 4 หมู่บ้าน คือบ้านห้วยคิง บ้านห้วยเป็ด บ้านหัวฝาย และบ้านหัวฝายหล่ายทุ่ง ตาม มติ ครม.วันที่ 10 ม.ค. 49 จำนวน 493 ครัวเรือน จนบัดนี้ยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิกันแม้แต่คนเดียว หากนับจากวันที่มีมติ ครม.จนถึงปัจจุบันเป็นเวลายาวนานถึง 16 ปีแล้ว



นอกจากนั้น ในวันที่ 24 ส.ค. 65 ที่จะถึงนี้ใบอนุญาตการขอเช่าพื้นที่ของ กฟผ.ที่เช่าจากกรมป่าไม้ ก็จะหมดอายุลงตามระยะเวลาเช่า 30 ปี เมื่อชาวบ้านไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินก็ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อติดตามทวงถามไปยังหลายหน่วยงานก็ยังไม่มีคำตอบให้ชาวบ้าน จึงเกิดความวิตกกังวลเป็นอย่างมาก จึงต้องขอความช่วยเหลือกจากคณะกรรมาธิการที่ดินฯดังกล่าว

สำหรับการรับหนังสือครั้งนี้ได้มีนายอภิชาติ ศิริสุนทร ประธานกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร เข้ารับมอบด้วยตนเอง พร้อมกับกล่าวกับตัวแทนชาวบ้านว่า จะประสานทางผู้ว่าการ กฟผ.และ กกพ.ร่วมแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน ในปลายเดือนมิถุนายนนี้ ทั้งนี้ นโยบายรัฐสร้างผลกระทบให้ชาวบ้านผู้เสียสละจะต้องให้นโยบายรัฐเป็นผู้แก้ โดยต้องออกเป็นมติ ครม. ซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าอภิปรายในสภาต่ออีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น