44507

ตำรวจไซเบอร์ เตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก

ตำรวจไซเบอร์ เตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนัก ล่าสุดแอบอ้างอดีต รอง ผบ.ตร. ข่มขู่ให้เหยื่อโอนเงินพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ขอฝากเตือนภัยมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นอดีตข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดังนี้ ในปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้สร้างความเสียหาย และความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก เนื่องมาจากสามารถเข้าถึงประชาชนได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าเป็นจากสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ จากการส่งข้อความสั้น (SMS) รวมไปถึงผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ โดยแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ซึ่งมีรูปแบบการทำงานเป็นขบวนการ มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน หลอกลวงเหยื่อโดยการใช้ความกลัว ความโลภ และความไม่รู้ของประชาชนเป็นเครื่องมือ ที่ผ่านมาพบว่ามีหลากหลายรูปแบบ เช่น การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งสินค้า แจ้งไปยังผู้เสียหายว่าบัญชีธนาคาร หรือพัสดุที่ส่งไปต่างประเทศมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือบัญชีธนาคารของผู้เสียหายถูกอายัด เป็นหนี้บัตรเครดิต เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด การฟอกเงิน มีหมายจับ หรือหลอกลวงว่าได้เช็คเงินคืนภาษี หรือหลอกถามข้อมูลส่วนตัวเพื่อนำไปปลอมแปลงในการทำธุรกรรมต่างๆ รวมถึงการหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเพื่อฝังมัลแวร์ควบคุมโทรศัพท์มือถือโอนเงินออกจากบัญชี เป็นต้น ที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่าถูกมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นพนักงานธนาคารแห่งหนึ่ง สร้างความน่าเชื่อถือโดยการแจ้งชื่อนามสกุล และหมายเลขพนักงานให้ผู้เสียหายทราบ แล้วแจ้งผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน เนื่องจากผู้เสียหายได้ใช้บัตรเครดิตธนาคารดังกล่าวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก เป็นจำนวนเงิน 50,000 บาท จากนั้นได้โอนสายต่อไปยังมิจฉาชีพอีกรายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สังกัด สภ.เมืองพิษณุโลก […]

รวบตั้ม เทียนทะเล แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงลงทุน Forex

ผบ.ตร.สั่งสืบนครบาลรวบตั้ม เทียนทะเล แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลวงให้รักแล้วหลอกร่วมลงทุน Forex ผ่านแอปหาคู่ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้สืบสวนทราบว่าเมื่อเดือน มกราคม 2565 ชุดปฏิบัติการ PCT 5 ได้ช่วยเหลือผู้เสียหายซึ่งถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ต้องหาเงินไถ่ตัวกลับบ้านเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท จึงขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5เข้า ช่วยออกมาได้ และได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่านายตั้ม เทียนทะเลหนึ่งในสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำหน้าที่ลวงให้รักแล้วหลอกร่วมลงทุน Forex ผ่านแอปพลิเคชั่น Tinder ผบ.ตร.จึงเร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายรายนี้ทั้งในและต่างประเทศ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ […]

แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อ้างโทรจาก สตช. หลอกเด็กมัธยมข่มขู่ให้โอนเงิน

เตือนภัย! แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อ้างโทรจาก สตช. หลอกเด็กมัธยมในเชียงราย ว่ามีเอี่ยวเปิดบัญชีม้า ข่มขู่ให้โอนเงิน! วันที่ 11 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากญาติผู้เสียหายชื่อ น.ส.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนชั้นมัธยมปลาย โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ว่าลูกสาวถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นตำรวจ ข่มขู่ให้โอนเงิน 9,000 บาท โดยลูกสาวได้รับโทรศัพท์เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 66 ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. มีคนโทรมาอ้างว่าโทรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสามารถบอกชื่อนามสกุลและข้อมูลส่วนตัวของลูกได้อย่างถูกต้อง และถามลูกว่าเรียนอยู่ใช่หรือไม่ และสั่งให้แอดไลน์ โดยขึ้นเป็นสัญลักษณ์ สภ.เมืองเชียงใหม่ และให้เปิดวิดีโอคอล โดยมีคนแต่งชุดตำรวจ 2 คน และสอบถามว่าอยู่คนเดียวหรือไม่ และให้แพนกล้องรอบห้อง และคนแต่งกายเลียนแบบตำรวจบอก น.ส.เอ ว่าพบข้อมูลว่า น.ส.เอ เปิดบัญชีม้า และมีผู้โอนเข้ามา 30,000 บาท ตอนนี้เจ้าของเงินคือผู้โอนเงินมาร้องเรียนตำรวจ นส.เอ ปฏิเสธ ทางโจร 2 คนนั่น จึงได้ให้ดูรูปสมุดบัญชี เป็นชื่อ […]

(มีคลิป) ผู้เสียหาย เดินหน้ายื่นหนังสือฯ กมธ.การสื่อสารฯ

ผู้เสียหายจากแก๊งค์คอลล์เซ็นเตอร์และลิ้งค์ดูดเงิน เดินหน้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือกับ กมธ.การสื่อสารฯ และเรียกร้องธนาคารร่วมรับผิดชอบ เวลา 11.55 น. วันที่ 25 ม.ค. 66 ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ประธานคณะ กมธ.การสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รับยื่นหนังสือจาก น.ส.วาสนา สวัสดิ์มูล ตัวแทนผู้เสียหายกรณีโดนหลอกให้โอนเงิน/กดลิ้งค์ดูดเงิน และนายภูวกร ศรีเนียน รองประธานมูลนิธิวินวิน เรื่องขอให้คณะ กมธ. ดำเนินการตรวจสอบ กรณีประชาชนผู้เสียหายกรณีตกเป็นเหยื่อถูกมิจฉาชีพหลอกให้กดลิงค์ที่เป็นการหลอกลวงในรูปแบบ SMS ทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก สืบเนื่องจากมีประชาชนผู้เสียหายจำนวนมาก ร้องเรียนมายังมูลนิธิวินวิน ขอให้ช่วยเหลือกรณีตกเป็นผู้เสียหายจากการหลอกลวงให้โอนเงิน โดยมีหลากหลายรูปแบบการหลอกลวงของมิจฉาชีพที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกง อาทิ การหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเพื่อเป็นค่าประกันวงเงินกู้ยืม การหลอกลวงให้สมัครงานทางออนไลน์ การหลอกลวงรับออเดอร์สินค้าในการสร้างรายได้เสริม การหลอกให้โอนเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทุกรูปแบบที่กล่าวมามิจฉาชีพจะกระทำการในลักษณะเดียวกันคือ ให้ผู้เสียหายโอนเงินไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลอื่น (บัญชีม้า) ซึ่งถูกมิจฉาชีพนำมาใช้เป็นช่องทางในการรับโอนเงินและถ่ายโอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด และวิธีการได้มาซึ่งบัญชีม้าจะกระทำการจากการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อนำมาใช้ในการเปิดบัญชี จ้างบุคคลอื่นเปิดบัญชี รวมถึงการรับซื้อบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลอื่น ซึ่งมีการประกาศรับซื้อบัญชีอย่างเปิดเผย โดยบัญชีม้าเหล่านี้จะถูกรวบรวมและใช้ข้อมูลบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ […]

สาวเชียงรายหอบเงินกลับบ้าน แต่ถูกหลอกสูญเงิน 1.09 ล้านบาท

สาวใหญ่เชียงรายหอบเงินกลับบ้าน หวังใช้ดูแลพ่อแม่ช่วงบั้นปลาย แต่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงินเกลี้ยงบัญชี 1.09 ล้านบาท วันที่ 11 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอกสาวใหญ่เชียงราย ว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร หลอกตรวจสอบบัญชีจากการขายก๋วยเตี๋ยว สูญเงินเกลี้ยงบัญชี 1.09 ล้านบาท ไปแจ้งความไว้แล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตุ้มใต้ ม.9 ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย พบกับนายส่ง อายุ 72 ปี และนางทองใบ อายุ 65 ปี บ้าน ม.11 ต.งิ้ว ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นางโชติวรรณ อายุ 45 ปี เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเรียนจบลูกสาวก็ไปทำงานโรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ต่อมาได้ตั้งครรภ์ก็เลยลาออกมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เก็บหอมรอมริบ ได้เงินมาประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ต่อมาเมื่อก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี ลูกสาวก็กลับมาอยู่ที่บ้าน เพราะต้องการจะกลับมาดูแลพ่อกับแม่ที่อายุมากแล้ว เมื่อมาอยู่บ้านก็มาทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกผัก ปลูกพริก […]

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เกาหลี ตั้งฐานปฏิบัติการในเชียงใหม่

จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์สัญชาติเกาหลี ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการใน จ.เชียงใหม่ เพื่อหลอกเอาเงินคนเกาหลีด้วยกันเอง พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.หัวหน้าชุด PCT ชุดที่ 1 ปฏิบัติการทลาย 4 จุด แก๊งคอลเซนเตอร์ สัญชาติเกาหลี เงินหมุนเวียนกว่า 50 ล้านบาท โดยนำหมายค้นของศาล จ.เชียงใหม่ เข้าค้นในพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.หางดง และ อ.สันกำแพง รวม 4 จุด เป็นบ้านหรู 2 หลัง และคอนโด 2 ห้อง พร้อมจับกุมชายชาวเกาหลีใต้ จำนวน 5 คน พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง, โทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง, แทปเล็ต 4 เครื่อง และ โทรศัพท์บ้าน 7 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักร […]

ผกก.เชียงคำเตือนแก๊งคอลเซ็นเตอร์แนวใหม่สวมรอยสรรพากร

เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2565 ที่สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้มีผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นคนในพื้นที่ อ.เชียงคำ ได้เข้าพบต่อพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ในเรื่องของการถูกหลอกจากเจ้าหน้าที่สรรพากรปลอม ซึ่งผู้เสียหายรายนี้ได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ได้ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากรปลอมนี้ดูดเงินในบัญชีหายไปจำนวน 7 แสนกว่าบาท ทางพ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ ได้กล่าวว่า จากช่วงก่อนที่แก๊งคอลเซ็นเตอรี่เคยใช้รูปแบบการหลอกโดยการแฮ็กข้อมูลมือถือแล้วน้ำรูปของเจ้าของโทรศัพท์มาโพสต์ประจานหรือใช้เบอร์ในมือถือติดต่อเบอร์ต่าง ๆ อ้างว่าผู้นายนั้นนางนี้ได้ติดเงินเป็นจำนวนหนึ่งซึ่งทำให้หลายคนหลงเชื่อและโอนเงินไปแล้วหลายครั้ง ล่าสุดพบว่าแก๊งนี้ได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้นโดยปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ราชการหน่วยงานต่าง ๆ ถึงขั้นปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานกรมสรรพากรโทรศัพท์มาหลอกเหยื่อมาแล้วหลายราย ซึ่งพฤติกรรมจะใช้วิธีการสุ่มเบอร์โทรศัพท์หรือเหยื่อที่คาดว่าเคยถูกหลอกมาแล้วรวมทั้งใช้วิธีพูดหว่านล้อมให้ผู้เสียหายหลงเชื่อในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่ายังใช้อยู่หรือไม่ อ่างว่ามีการเรียกจัดเก็บภาษีในการใช้บัตรเหล่านี้ทำให้ผู้เสียหายต่างกลัวว่าจะเสียภาษีมากจึงได้มีการพูดคุยจนกระทั่งแก๊งนี้จะส่งลิ้งค์ของสำนักงานสรรพกรปลอมมาให้ผู้เสียหายอีกทั้งบอกให้ผู้เสียหายกดลิ้งค์เข้าไปเพื่อทำการตรวจสอบในระบบ และหลังจากนั้นโทรศัพท์จะถูกล็อคจนผู้เสียหายไม่สามารถทำอะไรกับโทรศัพท์ได้ ซึ่งแก๊งนี้จะใช้โปรแกรมรีโมทควบคุมโทรศัพท์ ก่อนที่เงินในบัญชีจะถูกดูดไปจนหมด อย่างรายล่าสุดนี้ก็เช่นกันซึ่งสูญเงินในบัญชีไปเกือบ 8 แสนบาทอีกทั้งไม่รู้บัญชีปลายทางด้วยว่าถูกดูดเข้าบัญชีของใครทำให้ตำรวจทำงานลำบากมากขึ้นด้วย พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยังกล่าวต่ออีกว่า ผู้เสียหายรายนี้พบว่าเป็นคนในพื้นที่ อ.เชียงคำ ด้วยการพูดหว่านล้อมและพูดจูงใจทำให้หลงเชื่ออย่างง่ายดาย ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นนี้ภายในระยะเวลา 3 เดือนเกิดมาแล้วทั้งหมด 3 คดีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าหลักแสน ทั้งนี้ตนจึงอยากฝากเตือนประชาชนทุกคนว่าเวลามีเบอร์แปลกหรือระบบอัตโนมัติโทรเข้ามาหากตัวเองคิดว่าไม่เคยทำอะไรผิดหรือการกระทำใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความไม่สบายใจต่อคนอื่นก็ไม่มีความจำเป็นต้องรับโทรศัพท์เบอร์แปลกหรือไลน์แปลก ๆ ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองต้องถูกหลอกอย่างง่ายดาย ในส่วนของคดีที่เกิดขึ้นนั้นในเวลานี้ตนก็ได้กำชับให้ทางพนักงานสอบสวนทำงานอย่างรัดกุมเพื่อหาคนผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป

(มีคลิป) ระวังหลอก พระสงฆ์ ผู้สูงอายุวัยเกษียณ

เตือนระวังแก็งมิจฉาชีพ หลอกพระสงฆ์ หลอก ผู้สูงอายุวัยเกษียณ เรื่องคู่ครอง ล่าสุดพระที่เชียงใหม่ ถูกหลอกโอนเงินกฐินเป็นแสน ต้องพบกับปัญหาตามมา จากกรณีหลอกพระสงฆ์ระดับเจ้าอาวาสวัดโอนเงินแสนกว่าบาทเงินจากศรัทธามาทอดกฐินที่สำนักสงฆ์ วัดป่าจำปาลาว ต บ้านกลาง อ สันป่าตองเชียงใหม่ ข่าวคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น วันที่ 28 พย 65 นายกวัลลภ นามวงค์พรหม รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ได้เปิดเผยว่า เรื่องเลห่านี้ได้ยินข่าวมาเป็นระยะแล้ว ว่ามีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งทั้งผู้หญิงและผู้ชาย จะเข้าหาบุคคลเป้าหมายที่เปาะบาง บุคคลที่ว้าเหว่ บุคคลที่เป็นโรคซึมเศร้า ที่อยู่กับบ้านก็ดี แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าที่อยู่ทางวัดรอบนอกออกไป พวกนี้จะเข้าไปตีสนิทในรูปแบบต่าง ๆ เมื่อตีสนิทแล้วก็จะให้ความหวังอย่างนั้นอย่างนี้ หรือไม่ก็จะอ้างความเดือดร้อน ขอให้โอนเงินโอนทองให้ ก็สูญเสียไปมาก ล่าสุดก็มีข่าวไปหลอกพระสงฆ์ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นผู้หญิง ไปตีสนิทและไปให้ความหวังพระซึ่งอ่อนเยาว์ต่อทางโลก จนยอมเสียสละโอนเงินไปให้และให้ความหวังในเรื่องของคู่ครองต่าง ๆ นานา ทำให้เกิดความลุ่มหลงความโลภ แม้กระทั่ง ได้มีการนำเงินการกุศลต่างๆ ที่ทางวัดได้รับมาจากชาวบ้านศรัทธา ก็เอาไปให้บุคคลเป้าหมายกลุ่มพวกนี้ ก็อยากฝากเตือนว่า ผู้สูงวัย พระสงฆ์ ที่มีรายได้ดีมีเงินทองมากมาย แต่ประสบปัญหาเรื่องของครอบครัวเรื่องของจิตใจ ก็จะถูกกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เข้าไปหลอก ก็ฝากเตือน […]

ครูแพร่ห่วงเตือนภัย! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลามไปถึงนักเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.แพร่ เมื่อคืนวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565เวลา 22.04 น. ผู้ใช้เฟชบุ๊ค ชื่อ Anusorn Prom เป็นเฟซบุ๊กของ นายอนุสรณ์ พรมรังกา ผอ.รร.รัฐราษฏร์บำรุง ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่ สังกัด สพป. แพร่ เขต 1 ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า “ระวังภัย เมื่อวานนี้..มีเด็ก (ลูก) ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาหลอกเอาเงินโดยอ้าง (หลอก) ว่า เขาเป็น จนท.ตำรวจได้ตรวจพบว่า บัญชีเงินฝากของน้องมีปัญหา น่าเกี่ยวข้องกับแก๊งมิจฉาชีพฟอกเงิน ขอให้รีบดำเนินการ แจ้งความและให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ โดยในเสียงโทรศัพท์น่าเชื่อถือมาก มีเสียงคล้ายเสียงวิทยุของตำรวจแทรกมาด้วย คล้ายเป็นเสียงในโรงพัก โดยให้เด็กถ่ายบัตร ปชช.และบัญชีเงินฝากส่งมาให้ตำรวจ (ปลอม) ด้วย เพื่อประกอบการแจ้งความและอ้างว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามมิจฉาชีพกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด จึงขอให้เด็กอย่าเพิ่งแจ้งให้ใครทราบ เพราะเดี๋ยวคนร้ายจะรู้ตัว และให้เด็กโอนเงินเพื่อประกอบการแสดงความบริสุทธิ์ด้วย เด็กก็โอนเงินจากบัญชีของตนไป จากนั้นแก๊งนี้ก็สอบถามอาชีพ/ข้อมูล ผปค. แล้วบอกให้เด็กแจ้งผู้ปกครองได้โอนเงินมาที่โรงพัก เพื่อเป็นหลักประกันการแจ้งความด้วย […]

ปฏิบัติการ “ล้มไม้ค้ำ ริดกิ่งก้าน” ล้างบางนายทุนจีน

ตามนโยบายของรัฐบาลโดย ฯพณฯ  พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่ให้ความสำคัญในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง การหลอกลวงข่มขู่ให้เกิดความเกรงกลัวหรือคดีคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชน เป็นจำนวนมาก ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีกรณีชาวต่างชาติเสียชีวิตเพราะยาเสพติดในสถานบันเทิง และกรณีสถานบริการเปิดให้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและการพนัน โดยเจ้าของกิจการหรือสถานบริการล้วนเป็นนักลงทุนต่างชาติ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี1 ได้รับแจ้งข้อมูลจากสายลับว่า สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 283/2565 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เข้า ตรวจค้นสถานบริการจินหลิง ย่านยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพ พบกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวจีนกว่า 237 คน เป็นชายสัญชาติจีน จำนวน 111 คน เป็นหญิงสัญชาติจีน จำนวน 126 คน นอกจากนั้น พบพนักงานและบุคคลชาวกัมพูชา และชาวไทย ในบริเวณอาคารดังกล่าวอีกจำนวนกว่า 29 คน ตรวจยึดรถยนต์หรูกว่า 30 คัน เพื่อตรวจสอบหาเจ้าของว่ามีส่วนร่วม รู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือมีพฤติการณ์อันเข้าข่ายฟอกเงิน หนึ่งในรถยนต์หรูที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดไว้นั้น ผู้ต้องหาหญิงชาวจีน […]

ขีดเส้น 5 วัน สอบ ขรก.ขายข้อมูลแก๊งคอลเซ็นเตอร์

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ และภรรยา ถูกจับกุมจากเหตุขายข้อมูลคนไทยให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ สั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏโดยเร็วที่สุด โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า เป็นข้าราชการกรมการค้าภายใน ที่ปฏิบัติงานอยู่ในต่างจังหวัด ทั้งนี้ ตนจึงได้สั่งย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ที่ส่วนกลาง ตั้งแต่ 1 พ.ย. นี้ พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีรองอธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน ให้ตรวจสอบให้เสร็จภายใน 5 วัน คาดภายในวันที่ 4 พ.ย. นี้ น่าจะสามารถรายงานข้อเท็จจริงให้ตนได้รับทราบ “ถ้าผลตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีการกระทำความผิดจริง ข้าราชการรายนี้ จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ทั้งทางอาญา ทางแพ่ง รวมถึงจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบลงโทษทางวินัยด้วย โดยถ้าพบการกระทำที่ผิดวินัยร้ายแรง จะมีโทษสูงสุด คือ ไล่ออก และจะไม่ได้รับบำเน็จ บำนาญใดๆ” นอกจากนี้ กรมจะให้ความร่วมมือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ทั้งตำรวจ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เพื่อเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด รวมถึงหากมีข้าราชการคนอื่นของกรมสมรู้ร่วมคิดด้วย ก็จะดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม และเอาผิดกับทุกคนที่กระทำความผิด เพราะถือว่า เป็นการกระทำที่รับไม่ได้

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สวมรอย ผกก.เชียงราย ลวงเงิน 100 ล้าน

29 ต.ค. 65 ตร.ตามจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังเคยบุกไปถึงกัมพูชา แต่หนีกลับไทยมาได้ เจ้าตัวสารภาพสิ้นเริ่มทำตั้งแต่ พ.ย.64 ทำไปทำมาผลงานดี บอสไต้หวันเลื่อนตำแหน่งให้เป็นสาย 3 อ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ยศพันตำรวจเอก ผกก.สภ.เมืองเชียงราย หลอกเหยื่อได้เฉลี่ยเดือนละ 7-8 ล้านบาท เคสใหญ่ๆ รายล่าสุดร่วมกับเพื่อนหลอกหมอที่ชุมพร ได้ถึง 101 ล้าน.ผู้ต้องหาสารภาพอีกว่า แก็งคอลเซ็นเตอร์แก็งนี้ มีพนักงานเป็นคนไทยประมาณ 50-60 คน ในส่วนของเงินเดือนที่ได้การทำงานตั้งแต่เริ่มงาน ช่วง 1-3 เดือนแรก จะได้เงินเดือนประมาณ 20,000 บาท แต่ภายหลังเป็นพนักงานเก่า จึงได้ปรับเงินเดือนเพิ่มเป็น 30,000 บาท และได้ค่าคอมมิชชั่นจากการหลอกลวง 3% และคอมมิชชั่นล่าสุดที่สามารถหลอกลวงได้ 101 ล้าน ได้เงินสดมากว่า 2.5 ล้านบาท และเคสเก่าที่เคยหลอกลวงได้ 40 ล้านบาท ตนได้เงินประมาณ 1,400,000-1,500,000 บาท และเคสเก่าที่เคยหลอกลวงได้ 10 ล้านบาท ได้เงินสด […]

1 2 3 4