เจอตัวแล้ว! ลุงฝรั่งใจดี ขนข้าวสารอาหารแห้ง แจกชาวเชียงใหม่

จากกรณีผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่เชียงใหม่ ต่างพากันแชร์โพสต์ ของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Vatinee Noy” ที่เมื่อวานนี้ (17 เม.ย. 63) ได้โพสต์เรื่องราวพร้อมภาพและคลิปที่ชายชาวต่างชาติคนหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในเชียงใหม่ ทราบข่าวความเดือดร้อนของผู้คน จึงชักชวนเพื่อนฝูงชาวต่างชาติด้วยกัน รวบรวมเงินซื้อข้าวสาร, ปลากระป๋อง, น้ำปลา และกะปิ นำไปตั้งจุดแจกจ่ายให้กับผู้เดือดร้อนบริเวณคูเมือง ในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีคนมาเข้าแถวรอรับเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้ใช้โซเชียลมีเดียต่างยกย่องชื่นชมความมีน้ำใจ ของชายชาวต่างชาติและเพื่อนฝูง ที่แสดงให้เห็นว่ามิตรภาพและน้ำใจ เชื้อชาติและภาษาไม่ใช่ปัญหาอุปสรรคแต่อย่างใด

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 63 จากการสอบถามผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Vatinee Noy” ทราบคือ นางวาทินี นอย อายุ 48 ปี ชาวอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเปิดเผยว่า ชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวคือ นายเดฟ นอย (Davd Noy) อายุ 72 ปี ชาวออสเตรเลีย ผู้เป็นสามีของตัวเอง ซึ่งมาอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่นานกว่า 7 ปีแล้ว ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้สามีเกิดความคิดที่จะนำข้าวสารและอาหารแห้งไปแจกนั้น เริ่มจากที่ได้ดูข่าวแล้วเห็นความเดือดร้อนของผู้คน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ทั้งข่าวที่มีคนต้องเอาครกสากไปจำนำ เพื่อแลกเงินประทังชีพหรือคนที่เดือดร้อน แต่กลับไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งแม้สามีจะไม่ได้ร่ำรวยและอาศัยกินเงินบำนาญ แต่เห็นว่ามีคนที่เดือดร้อนมากกว่า และตัวเองพอจะช่วยอะไรได้บ้าง แม้จะไม่มากก็ตาม

จากนั้นสามีจึงชักชวนกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติ ที่อยู่อาศัยในเชียงใหม่ ทั้งชาวอเมริกันและชาวสวีเดน รวบรวมเงินลงขันกันนำไปซื้อของ ทั้งข้าวสารบรรจุถุง ขนาด 5 กิโลกรัม ประมาณ 100 ถุง, ปลากระป๋อง, ซีอิ๊ว, น้ำปลา และกะปิ แล้วนำไปแจกให้ผู้เดือดร้อน โดยที่ตัวเองและสามีเป็นตัวแทนนำไปตั้งโต๊ะ แจกริมถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่ ตามที่โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งได้มอบให้กับมูลนิธิที่ดูแลคนชรา และเด็กยากไร้ไปด้วย ทั้งนี้การที่นำของไปแจกนั้น ไม่ได้มุ่งหวังอะไรมากไปกว่าการได้ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน ให้อย่างน้อยยังพอประทังชีวิตอยู่ได้ และหวังว่าจะเป็นการจุดประกายให้คนอื่น ๆ ที่พอจะมีศักยภาพช่วยกันหยิบยื่นความช่วยเหลือให้คนที่เดือดร้อน ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน

ขณะเดียวกัน นางวาทินี บอกว่า หลังจากที่ได้มอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้ที่เดือดร้อนแล้ว สามีบอกว่ารู้สึกมีความสุขใจอย่างมากที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น และหากได้รับเงินบำนาญงวดต่อไป ก็จะชักชวนเพื่อนฝูงชาวต่างชาติรวบรวมเงินลงขันกันนำไปซื้อของแจกให้กับคนที่เดือดร้อนอีก แต่ในครั้งหน้าวางแผนว่าน่าจะนำออกไปแจกจ่ายในพื้นที่รอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเป็นการกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม สามีปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใด ๆ เพราะตั้งใจทำ เนื่องจากต้องการช่วยเหลือผู้คนเท่านั้น โดยที่ไม่ได้หวังจะเป็นข่าวแต่อย่างใด

ร่วมแสดงความคิดเห็น