ท่ามกลางหน้าประวัติศาสตร์ของแคว้นโยนกและลุ่มน้ำโขง มีพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่ได้รับการกล่าวขานถึงความยิ่งใหญ่และแสนยานุภาพทางการทหาร พระองค์คือ พญาเจืองธรรมิกราช หรือที่รู้จักกันในพระนาม ขุนเจือง กษัตริย์นักรบผู้แผ่ขยายอำนาจปกครองดินแดนกว้างใหญ่ในแถบลุ่มน้ำโขง ครอบคลุมอาณาเขตถึง 6 ประเทศในปัจจุบัน
พญาเจืองธรรมิกราชประสูติในปี พ.ศ. 1641 ทรงเป็นโอรสองค์โตของ ขุนจอมธรรม กษัตริย์แห่งพะเยา ตั้งแต่วัยเยาว์ พระองค์ได้รับการฝึกฝนวิทยายุทธ์อย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น การใช้อาวุธ, ศิลปะการต่อสู้, การจับช้างจับม้า และกลยุทธ์ทางการทหาร ด้วยพระปรีชาสามารถตั้งแต่ยังหนุ่ม พระองค์สามารถสร้างพันธมิตรกับแคว้นใกล้เคียงได้อย่างแน่นแฟ้น
เมื่อมีพระชนมายุ 16 ปี พญาเจืองนำกำลังไพร่พลไปคล้องช้างที่ เมืองน่าน และด้วยความสามารถอันโดดเด่น เจ้านครน่าน ทรงพอพระทัยจึงยกธิดานาม จันทร์เทวี ให้เป็นพระชายา ปีต่อมา พระองค์เสด็จไปยัง เมืองแพร่ และได้อภิเษกกับ นางแก้วกษัตริย์ พระราชธิดาของเจ้าผู้ครองนครแพร่ พร้อมได้รับมอบช้างศึกถึง 200 เชือก อันเป็นกำลังสำคัญของกองทัพหลังจากขุนจอมธรรมเสด็จสวรรคต พญาเจืองขึ้นครองราชย์เมืองพะเยาเมื่อพระชนมายุ 24 ปี พระองค์ทรงบริหารบ้านเมืองอย่างเข้มแข็งและนำกองทัพขยายอำนาจเหนือหัวเมืองใกล้เคียง จนกระทั่งเผชิญศึกใหญ่กับกองทัพ แกว (ญวน) ที่ยกมาตี นครเงินยางเชียงแสน
ศึกนครเงินยาง และการสถาปนาอาณาจักรโยนก
เมื่อ พ.ศ. 1665 กองทัพแกวเข้าประชิดนครเงินยางเชียงแสน ขุนชิน เจ้านครเงินยางส่งสาส์นขอความช่วยเหลือจากพญาเจือง พระองค์ทรงระดมพลจากหัวเมืองเหนือ ยกทัพไปยัง สนามดอนไชยหนองหลวง ก่อนเข้าตีข้าศึกจนแตกพ่าย ขุนชินทรงซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณและความสามารถด้านการศึก จึงยกพระราชธิดา พระนางอั๊วคำคอน ให้เป็นชายา พร้อมสละราชบัลลังก์นครเงินยางให้พญาเจืองปกครองแทน
นับแต่นั้นมา พญาเจืองธรรมิกราช ได้รวบรวมดินแดนต่าง ๆ และแผ่อำนาจครอบคลุม พะเยา, เชียงแสน, น่าน, แพร่, ล้านช้าง และเวียดนามเหนือ ทำให้พระองค์กลายเป็นหนึ่งในมหาราชแห่งลุ่มน้ำโขงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคนั้น
จุดจบของกษัตริย์นักรบ
ในสงครามครั้งสุดท้าย พระองค์ต้องชนช้างกับข้าศึก แต่ด้วยทรงมีพระชนมายุสูงวัย ทรงพ่ายแพ้และถูกฟันพระเศียรสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง เหล่าทหารได้นำพระเศียรไปบรรจุไว้ในพระเจดีย์เมืองหิรัญนครเชียงแสน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่แห่งโยนกนคร
พญาเจืองทรงปกครองโยนกนานถึง 24 ปี และครองเมืองแกว 17 ปี รวมพระชนมายุได้ 67 ปี อาณาจักรของพระองค์เป็นรากฐานสำคัญของอาณาจักรล้านนาในเวลาต่อมา ก่อนอาณาจักรโยนกจะรุ่งเรืองในยุคพญาเจือง บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของนครเก่าแก่อย่าง เมืองโยนกนาคพันธุสิงหนวัตินคร ตามตำนานสิงหนวัติ เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ 18 ปีก่อนพุทธกาล และดำรงอยู่เรื่อยมาจนถึง พ.ศ. 1003 กระทั่งล่มสลายเพราะชาวบ้านจับปลาไหลเผือกมากิน
เมื่อโยนกนครล่มสลาย ประชาชนจึงตั้งถิ่นฐานกระจายตัวอยู่ตามลำน้ำสำคัญ เช่น แม่น้ำกกและแม่น้ำอิง ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็นหัวเมืองต่าง ๆ อาทิ เชียงแสน, พะเยา และเวียงแก้ว
อิทธิพลของพญาเจืองต่ออาณาจักรล้านนา
แม้ว่าพญาเจืองจะสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่สายพระโลหิตของพระองค์ยังคงสืบทอดอำนาจในดินแดนล้านนา กระทั่งถึงยุคของ พญามังราย ซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย ได้รวบรวมเมืองต่าง ๆ ก่อตั้ง อาณาจักรล้านนา ขึ้นมาใหม่ แม้พญามังรายและพญางำเมือง (พระราชปนัดดาของพญาเจือง) จะเป็นพระสหายกัน แต่กษัตริย์ราชวงศ์มังรายรุ่นต่อมา ก็พยายามแผ่อำนาจเข้าควบคุมดินแดนพะเยา
หลักฐานทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์
แอ่งที่ราบเชียงราย พะเยา นอกจากจะปรากฏในตำนานแล้ว ยังมีหลักฐานทางโบราณคดีที่ยืนยันถึงความเก่าแก่ของอารยธรรมในดินแดนนี้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือสำริด, ขวานหินกะเทาะ, ขวานหินขัด และ เมืองโบราณกว่า 100 เมือง ที่ตั้งอยู่ริมลำน้ำสายสำคัญ
พญาเจืองธรรมิกราชเป็นกษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานของอาณาจักรโยนกและล้านนา พระองค์ไม่เพียงแต่เป็นนักรบที่กล้าหาญ แต่ยังเป็นนักปกครองที่สามารถรวบรวมอาณาจักรอันกว้างใหญ่ในลุ่มน้ำโขงได้อย่างยิ่งใหญ่ แม้ยุคสมัยของพระองค์จะผ่านพ้นไป แต่เรื่องราวแห่งพระเกียรติยศยังคงอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ล้านนาตราบจนปัจจุบัน
ที่มา : http://www.phayao.go.th/allnew/2024/06/13/%E0%B8%9E%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A-%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%A7/ , https://www.finearts.go.th/fad7/view/30168-%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2
ร่วมแสดงความคิดเห็น