วิ่งราวทรัพย์นทท. แจ็คพ็อต เจอยาบ้า เกือบ 200 เม็ด

ตามจับคดีวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยว แจ็คพ็อต เจอยาบ้า เกือบ 200 เม็ด

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 ส.ค. 65 ร.ต.อ.ชัยพล ชัยชนะ รอง สว.สส.ฯ พร้อมกับพวก , ด.ต.ธนวินท์ พรมวังขวา , ด.ต.จีรวัฒน์ อาสาหม้อ , ด.ต.สุรัชต์ สุวรรณรัตน์ , ด.ต.พยุง ยศสมบัติ , ด.ต.เกียรติชัย รุจิราภา , จ.ส.ต.ณัฐพล อุ่นเรือนพิงค์ และ จ.ส.ต.ฐากูร ชัยอินตาได้ร่วมกันจับกุม นายภาคิไนย หรือแซม (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ชาวบ้าน ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ พร้อมกับ น.ส.พิชชาพร หรือแพร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาวบ้าน ต.แม่ปูคา อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่



พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแกรนด์ฟีลาโน สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายเลขทะเบียน จำนวน 1 คัน เสื้อแจ็คเก็ตแขนยาว สีน้ำเงิน ฟ้า ยี่ห้อ K-swiss จำนวน 1 ตัว เสื้อยืดแขนสั้นสีดำ จำนวน 1 ตัว กางเกงขาสั้น สีฟ้า จำนวน 1 ตัว รองเท้าแตะ แบบคีบ ยี่ห้อช้างโบโต สีขาว ฟ้า จำนวน 1 คู่ หมวกแก็ป ลายสีดำ ลายชมพู จำนวน 1 ใบ เสื้อยืดแขนสั้น ยี่ห้อ fangfang แบบหญิง สีเทา จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ฟอก ขาสั้น จำนวน 1 ตัว รองเท้าแตะ แบบสวม ยี่ห้อ สีเขียว จำนวน 1 ตัว ที่คาดผม สีดำ ชมพู จำนวน 1 อัน กระเป๋าคาดเอว แบบผ้าสีดำ จำนวน 1 ใบ ซึ่งทั้งหมดเป็นหลักฐานที่ใช้ในวันก่อเหตุ

ทั้งนี้ก่อนการจับกุม ด้วยเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 เวลาประมาณ 20.43 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงแรมโอลด์ทาวน์ เพลส ถ.มูลเมือง ซอย 9 ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ ตำรวจไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพลักษณะตำหนิรูปพรรณคนร้ายและยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุและใช้ในการหลบหนีไว้ได้ และจากการสอบถามผู้เสียหายทราบว่าทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป เป็นคาดเอวกระเป๋าแบบผ้าสีดำ ข้างในมีทรัพย์สิน รวม 5 รายการ เป็นหนังสือเดินทาง 1 เล่ม บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด 1 ใบ บัตรเครดิตวีซ่าการ์ด 1 ใบ เงินสดประมาณ 6,000 – 7,000 บาท และใบขับขี่สากล 1 ใบ โดยมี Miss.Soraya Camen Jocher อายุ 21 ปี สัญชาติเยอรมัน เป็นผู้เสียหาย


และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ และตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ พบภาพคนร้าย จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน โดยคนร้ายที่เป็นชาย รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 170 ซม. อายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อแจ๊คเก็ต แขนยาวสีน้ำเงินเทา สวมเสื้อยืดด้านในสีดำ สวมกางเกงขาสั้นที่ฟ้า รองเท้าแตะแบบคีบ สวมหมวกแก็ปสีดำแดง คนส่วนร้ายที่เป็นหญิง รูปร่างอ้วนท้วม สวมเสื้อยึดแขนสั้น สีเทา สวมกางเกงยีนส์ฟอก ขาสั้น สวมรองเท้าแตะแบบสวม สีเขียว คาดผมด้วยผ้าคาดผมสีดำ ชมพู ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแกรนด์ฟีลาโน สีดำ (ทรัพย์รายการที่ 1) เป็นยานพาหนะ คนร้ายที่เป็นชายเป็นผู้ขับขี่ ส่วนคนร้ายที่เป็นหญิงนั่งซ้อนท้าย ขับขี่มาตามถนนมูลเมือง ซอย 7 เลี้ยวไปซอย 9 จากนั้นได้ลงมือก่อเหตุ และพากันหลบหนีออกทางถนนมูลเมือง ซอย 7 และตัดตรงข้ามคูเมืองเลี้ยวขวาไปตามถนนชัยภูมิ และเลี้ยวซ้ายเข้าถนนชัยภูมิซอย 2 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตรวจบริเวณย่านดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง


จนกระทั่ง ได้พบนายภาคิไนยฯ ซึ่งมีลักษณะตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ เดินออกมาจากบ้าน จึงได้เข้าไปแสดงตัว และสอบถามถึงเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้น นายภาคิไนยฯ ให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำภาพคนร้ายที่ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดให้นายภาคิไนยฯ ดู ทันทีที่ นายภาคิไนยฯ เห็นภาพดังกล่าว ได้แสดงอาการตกใจ หน้าซีด และให้การยอมรับว่าตนเองคือชายที่ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาแสดง และเป็นภาพทั้งก่อนและหลังก่อเกตุ โดยตนเองได้ร่วมกับ นส.แพร ซึ่งเป็นหญิงที่ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิด ที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ และทราบชื่อและนามสกุลจริงภายหลัง คือ นส.พิชชาพร (สงวนนามสกุล)

และเมื่อสอบถามถึง นส.พิชชาพร เบื้องต้น นายภาคิไนยฯ ให้การว่าได้พาไปส่งที่พักบริเวณร้านขายดอกไม้ตลาดคำเที่ยงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในห้องนอนของนายภาคิไนยฯ และ นส.พิชชาพรฯ โดยนายภาคิไนยฯ ยินยอม และสมัครพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจค้น โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงลงมือตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ นส.พิชชาพรฯ นอนอยู่ในห้องนอน ในบ้านสถานที่จับกุม สอบถาม นส.พิชชาพรฯ ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกับ นายภาคิไนยฯ ก่อเหตุในครั้งนี้จริง นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ค้นพบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ของกลางอยู่ภายในห้องนอนในบ้านที่ตรวจยึด และพบกระเป๋าคาดเอว แบบผ้า สีดำ ทรัพย์สินที่ได้จากการก่อเหตุ วางอยู่ ใต้ราวแขวนผ้า ภายในห้องนอน สถานที่ตรวจยึด นอกจากนั้น ยังพบรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ ของผู้เสียหาย



นายภาคิไนยฯ และ นส.พิชชาพรฯ ได้ให้การยอมรับว่าได้นำไปทิ้งที่ลงแม่น้ำปิง บริเวณตรงข้ามบ้านเอื้ออาทรป่าตัน คงเหลือแต่กระเป๋าคาดเอวสีดำ ทรัพย์สินของผู้เสียหาย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและยึดได้ ส่วนเงินสด ประเมาณ 7,000 บาท ทั้งสองคน ได้นำไปซื้อยาบ้ามาเสพ และเงินที่เหลือได้ใช้จ่ายหมดแล้ว นอกจากนั้นยังตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 197 เม็ด ซุกซ่อนภายในห้องนอน จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวทั้งสอง ไปทำการชี้ยืนยันสถานที่เกิดเหตุ และบริเวณที่นำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปทิ้ง นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ค้นพบยาบ้า อีกจำนวน 197 เม็ด ซุกซ่อนภายในห้องนอน จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และได้นำตัว พร้อมทรัพย์สินที่ตรวจยึดส่งมอบให้พนักงานสอบสวนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น