คืบหน้าพบศพชาวจีน ผบช.ภ.5 ชี้เป็นจีนเทาที่เข้ามา เจรจาธุรกิจเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์แล้วโดนหักหลังจับเรียกค่าไถ่

คืบหน้าพบศพชายชาวจีนที่ถูกพบใน ต.แม่แรม อ.แม่ริม ผบช.ภ.5 ชี้เป็นจีนเทาที่เข้ามา เจรจาธุรกิจสีดำเกี่ยวกับคอลเซ็นเตอร์แล้วโดนหักหลังจับเรียกค่าไถ่ แต่ไม่ได้เงินตามหวังเอาค้อนทุบหัวก่อนนำศพมาทิ้งกลางป่า

ความคืบหน้ากรณีพบศพชาวจีนถูกทิ้งไว้ในป่าข้างทาง ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ทาง พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับเปิดเผยว่า คดีนี้เกี่ยวเนื่องจากวันที่ 8 ก.ค.68 ที่ผ่านมา ทางผู้กำกับสภ.เชียงแสน ได้รายงานมาว่ามีพี่สาวของผู้เสียชีวิตคือนายหยางถูกลักพาตัวและเรียกค่าไถ่จากพี่สาว จึงได้มีการสั่งการให้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย สืบติดตามขยายผลไล่ไทม์ไลน์ตั้งแต่วันที่ 8 ไล่เช็คมาทีละวัน ตั้งแต่วันที่ 8,9 และ 10 ไล่มาจนกระทั่งพบว่ามีการเข้ามาจริง โดยทราบว่ามีการนัดแนะจากกลุ่มจีนเทานี้ ในวันที่ 8 ตอนเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ที่ร้านอาหารบริเวณนิมมานเหมินท์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

โดยในการนัดแนะนี้มีอยู่จำนวน 4 คน คือ นายหยาง ผู้เสียชีวิต นายจาง , นายกัง และ นายหวัง ต่อมามีการเข้าไปนอนพักที่บ้านพักในเขตอำเภอหางดง ในคืนวันที่ 8 ก.ค.68 ที่ มีนายจาง เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งจากคำให้การของนายกัง ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้เสียชีวิตให้การว่า นายจางกับนายหวัง ทำการฆ่านายหยางตอนเช้าวันที่ 9 เนื่องจากพูดคุยเรียกค่าไถ่แล้วไม่ประสบความสำเร็จ จึงลงมือฆ่า นายหยาง แล้วตอนเช้าของวันที่ 9 ก.ค.68 มีการรอจนกระทั่งมีการทำลายหลักฐานที่บ้านทำความสะอาดห้องน้ำผนังและที่นอนที่ใช้ก่อเหตุ ซักและเอาไปตาก รอจนกระทั่งตอนเย็นได้รับคำแนะนำจากเมียของ นายจาง ซึ่งเคยขึ้นมาท่องเที่ยวใน ต.แม่แรม อ.แม่ริม ชี้เป้าในการที่จะทิ้งศพ จากนั้นจึงได้มีการพากันมาทิ้งศพคือ นายจาง อีกคนคือ นายหวัง ซึ่งตอนนี้ นายหวัง ได้หลบหนีไปแล้ว

ขณะที่ นายกัง อ้างว่า ถูกมัดและเอาไว้ที่กระโปรงรถ ส่วนศพ มีการมัดมือเอาผ้าคลุมก่อนจะทิ้งของกลางต่างๆ ระหว่างทางได้มีการโยนทิ้งก็คือค้อนที่ใช้ทุกหัวคนตาย โทรศัพท์มือถือของคนตาย แต่ตอนนี้ยังไม่พบของกลางเหล่านี้ นอกจากนี้ นายกัง ก็อ้างว่าให้พี่ชายโอนเงินแล้ว โดยตำรวจกำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่หลังจากที่เอาศพมาทิ้งแล้ว นายจาง กับ นายหวัง ก็กลับไปเล่น จนกระทั่งเช้าของวันที่ 10 ก.ค.68 นายหวังก็ทำการหลบหนี โดยเชื่อว่าตอนนึ้น่าจะหนีออกนอกประเทศไปแล้วตามช่องทางธรรมชาติ และทราบว่าเมียของ นายจาง ก็ได้จองเที่ยวบินบินหนีกลับไปที่ประเทศจีนแล้วเช่นกัน

ส่วน นายจาง กับ นายกัง ก็กำลังพยายามหนีไปด้วยกันเพื่อที่จะเข้ากรุงเทพฯ โดยทำการขับรถไปคันเดียวกันแต่ นายกัง ไม่มีพาสปอร์ตเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อ้างว่าจะกลับบ้านทางเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีพิรุธจึงได้มีการควบคุมตัวที่สุด จนนำมาสู่การมาค้นหาศพผู้เสียชีวิต

จากการสอบสวนปากคำได้ข้อมูลย้อนกลับว่าผู้ตายนายหยางกับนายกังเป็นเพื่อนกันที่เป็นคนจีนที่ทำธุรกิจสีเทาทั้งอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็กในประเทศเมียนมา รวมถึงฝั่งประเทศลาวก็คือคิงโรมัน รวมถึงฝั่งเมียวดีและประเทศกัมพูชาด้วย อย่างไรก็ตามคำให้การของนายจางกับนางกัง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การใดๆ ทั้งสิ้น จะทำการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น