เทศบาล ต.หนองควาย นำร่อง “โครงการมหาลัยสู่ชุมชน U2T for BCG” ขับเคลื่อนโครงการเปิดตลาดกาดภูมิปัญญาและนวัตกรรมสู่ชุมชน
เทศบาลตำบลหนองควาย นำร่อง“โครงการมหาลัยสู่ชุมชน U2T for BCG ขับเคลื่อนโครงการเปิดตลาดกาดภูมิปัญญาและนวัตกรรมในชุมชน ชูสุดยอดสินค้านวัตกรรมจากชุมชน@กาดเตาอิฐ ดีเดย์ วันที่ 24-25 กันยายน 2565 เวลา 8.00 -14.00 น. ณ กาดเตาอิฐ แยกพืชสวนโลก
นายวิเชียร เชิดชูตระกูลทอง ที่ปรึกษาฝ่ ายชุมชน โครงการ U2T เทศบาลตำบลหนองควาย เปิดเผยว่า หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา ได้ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ U2T ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และเทศบาลตำบลหนองควาย ร่วมกับโครงการภราดรกรีน โดยได้นำร่องฟัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ตำบลหนองควายตามมติรัฐมนตรีเรื่อง “โครงการมหาลัยสู่ชุมชน U2TforBCG“โดยการขับเคลื่อนโครงการเปิดตลาดกาดภูมิปัญญา
และนวัตกรรมในชุมชน ชื่อ “กาด เตาอิฐ “ ( KAD TAO EID) ในวันที่ 24-25กันยายน2565บนพื้นที่โครงการภราดรกรีนบริเวณแยกทางเข้าพืชสวนโลก เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ เกตรกร วิสาหกิจชุมชน รวมถึงผู้เริ่มต้นทำธุรกิจ กาดเตาอิฐ จึงเป็นเสมือนเวทีในการสร้างโอกาสทางการตลาด นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ชุมชนอื่นรวมถึงชาวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่ ได้นำสินค้ามาจัดแสดงและจำหน่าย
นอกจากตลาดภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมชุมชนจะมีความสำคัญเพื่อให้ชุมชนได้มีตลาด หรือเป็นแหล่งพบปะผู้บริโภค ยังทำให้ผู้ประกอบการได้รับข่าวสารความต้องการของตลาดลุ่มผู้บริโภคและได้ขายผลิตภัณฑ์หรือบริการของชุมชนทำให้ชุมชนได้พึ่งพาตนเองและกระตุ้นให้คนในท้องถิ่นสร้างรายได้ด้วยตนเองอย่างยั่งยืนอีกด้วยนอกจากนี้ในอนาคตยังสามารถต่อยอดสู่การทำตลาดผ่านระบบออนไลน์เพื่อสร้างโอกาสทางการขายให้มากยิ่งขึ้น การมีศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการรายใหม่หรือผู้ประกอบการรายเดิมที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของตนเองให้ตรงกับความต้องการของตลาดมีการพัฒนาที่มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้นและจัดตั้งเป็นศูนย์ Warehouse เพื่อช่วยเก็บและกระจายสินค้าของชุมชน
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า กาดเตาอิฐเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการสร้างการพัฒนาโครงการตลาดภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมชุมชน ให้แก่คนในชุมชนตำบลหนองควายให้สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากของตำบลเพื่อช่วยเหลือชุมชนให้มีการเติบโตและมีรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างยั่งยืนนอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ได้มาร่วมกิจกรรมและนำสินค้ามาแสดง
และจัดจำหน่ายซึ่งสินค้าที่จะนำมาร่วมออกงานจะเป็นการนำความหลากหลายของอาหารจากประเทศต่างๆมาให้ชิมและจำหน่าย รวมถึงสินค้าสุขภาพ เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน สินค้าไลฟ์สไตล์ ขณะนี้มีผู้จองพื้นที่มาแล้วกว่า 80 บูท
“งานที่จัดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นการนำร่องและจะดำเนินการจัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันเสาร์อาทิตย์หลังจากนี้ถ้าได้รับการตอบรับที่ดีก็จะผลักดันให้เป็นตลาดชุมชนถาวรที่ผู้สนใจสามารถนำสินค้ามจำหน่ายได้เพื่อให้เกิดการพัฒนาการเสริมสร้างอาชีพใหม่ภายในชุมชนและสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนได้ต่อไป”นายวิเชียร กล่าว






ร่วมแสดงความคิดเห็น