บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยหรือมากกว่าบุหรี่มวน ยังเป็นข้อถกเถียงที่ยังไม่มีข้อสรุป และไม่มีใครรู้
บุหรี่ไฟฟ้าวางตลาดมา 20 ปีก็จริง( วางตลาดในอเมริกา พ.ศ.2550)แต่มาระบาดจริงๆราว 10 ปีมานี้เอง หลังจากที่มีการใช้นิโคตินสังเคราะห์ ใช้อุปกรณ์สูบชนิดที่ใช้แล้วทิ้ง มีการแต่งกลิ่นรส และพุ่งเป้าการตลาดไปที่คนอายุน้อย
กรณีบุหรี่มวน กว่าจะมีการประกาศว่า สูบบุหรี่ทำให้เป็นมะเร็งปอดและโรคเรื้อรังอื่นๆ การระบาดก็ผ่านไป 50-60 ปี
ความไม่เข้าท่า เกิดจากมีกลุ่มที่อ้างว่าเป็น“ผู้เชี่ยวชาญ” 12 คน ประชุมกันที่โรงแรมในลอนดอนเมื่อปี พ.ศ.2556 เปรียบเทียบอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้ากับบุหรี่มวน ถึงการทำให้เกิดโรคต่างๆ ความสูญเสียทางเศษฐกิจ การทำให้คนสูบคนได้รับควันบุหรี่มือสองเสียชีวิต
กลุ่มนี้ให้คะแนนอันตรายของบุหรี่มวน 100 ขณะที่ให้คะแนนอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าเพียง 5 เพราะยังไม่มีรายงานผู้ป่วย ยังไม่มีคนตายจากบุหรี่ไฟฟ้า อันตราย 5 คะแนนจากบุหรี่ไฟฟ้า 4 คะแนนมาจากการเสพติดนิโคติน
รายงานตีพิมพ์ในปีพ.ศ.2557 ว่า บุหรี่ไฟฟ้า อันตราย น้อยกว่า บุหรี่มวน 95 % ถูกนำไปขยายผลไปทั่วโลก แรกๆคนไทยจำนวนมากก็เชื่อตามเขาด้วย
ต่อมาพบว่า 2 ใน 12 “ผู้เชี่ยวชาญ” มีความสัมพันธ์กับธุรกิจบุหรี่ และธุรกิจขายผลิตภัณฑ์เลิกบุหรี่
ตอนนี้ ไม่มีใครกล้าพูดอีกแล้วว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน 95% หลังจากมีข่าวคนป่วยและตายจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง ไม่นับปัญหาสุขภาพจิตในเด็กนักเรียนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า
อ่านพบผลสำรวจความเห็นของคนสูบบุหรี่ในอังกฤษ 26.7% เชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน ทั้งๆที่อังกฤษเป็นประเทศที่“เชียร์” บุหรี่ไฟฟ้ามากที่สุดในโลก
คนสูบบุหรี่อเมริกามีเพียง 10 %ที่เชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน น่าจะมาจากที่อเมริกา มีคนเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการรณรงค์ถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าต่อวัยรุ่น
ส่วนคนไทยที่สูบบุหรี่ 14.7% ที่เชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน ส่วนใหญ่เชื่อว่าอันตรายไม่แตกต่างกัน และส่วนหนึ่งเชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายมากกว่าบุหรี่มวน
นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่คนสูบบุหรี่มวน ส่วนใหญ่ไม่หันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า
ขนาดคนสูบบุหรี่เองที่มีประสบการณ์ตรง ยังมีส่วนน้อยที่เชื่อว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวน
ไม่เชื่อหน้าม้า รีวิวเวอร์ บุหรี่ไฟฟ้า
ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ
อ้างอิง
https://www.thelancet.com/pdfs/journals/lancet/PIIS0140-6736(15)00042-2.pdf
ร่วมแสดงความคิดเห็น