คึกคักงานวันของดี อ.สบเมย และประเพณีวัฒนธรรมรวมชนเผ่าชาวสบเมย * สีสันการแต่งกายด้วยชุดชนเผ่า ผ้าทอกะเหรี่ยงสวยสดงดงาม รวมถึงของดีพริกกะเหรี่ยง อีกหนึ่งพืชผลทางการเกษตร ที่สร้างรายได้ให้กับราษฏรชนเผ่า อ.สบเมย เป็นแหล่งผลิตพริกกะเหรี่ยงที่ใหญ่ที่สุด ของ จ.แม่ฮ่องสอน*
เมื่อคืนที่ผ่านมา 23 มกราคม 2565 นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ รองผู้ว่าราชการ จ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธานในพิธี งานวันของดี อ.สบเมย และประเพณีวัฒนธรรมรวมชนเผ่าชาวสบเมย โดยมีนายจรูญ จิณะกันต์ ปลัดอาวุโส อ.สบเมย พร้อมหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ และท้องถิ่นรวมถึงเจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน ทั้ง 6 ตำบล เข้าร่วม ณ บริเวณหน้าที่ว่าการ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน
โดยกิจกรรมได้มีการจัดให้มีการแข่งขัน กิจกรรมที่สร้างสีสันภายในงานการแข่งขันการประกอบเมนูอาหารจานเด็ดรสเผ็ดจากพริกกะเหรี่ยง อาทิ ลาบหมู แกงข้าวเบอะ และน้ำพริกเลิศรสต่างๆ ของกลุ่มชาวบ้านจาก 6 ตำบล นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแข่งตำข้าว ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมคู่กับพี่น้องชนเผ่าชาวสบเมยมายาวนาน และกิจกรรมในช่วงค่ำคืนมีการประกวดริ้วขบวนพริกกะเหรี่ยงของหน่วยงาน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ซึ่งทุกคนได้ร่วมกันรณรงค์สวมใส่เสื้อผ้าของแต่ละชนเผ่ามาร่วมงานในครั้งนี้
นายจรูญ จิณะกันต์ ปลัดอาวุโส อ.สบเมย เปิดเผยว่า การจัดงานวันของดี อ.สบเมยและประเพณีวัฒนธรรมรวมชนเผ่าชาวสบเมย เป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วทุกที่และนักท่องเที่ยว ได้รู้จักสินค้าผลิตภัณฑ์ ประเพณีวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวของ ของ อ.สบเมย มากยิ่งขึ้น ภายในงานจะมีการจัดนิทรรศการร้านค้าของดีของเด่นของแต่ละตำบล การออกร้านของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ในพื้นที่ การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การประกวดไก่พันธุ์พื้นเมือง ไก่แม่ฮ่องสอน การแข่งขันชกมวยไทย การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง การประกวดธิดาพริกกะเหรี่ยง การแสดงจากนักเรียนในพื้นที่ และการแสดงจากศิลปินชื่อดังมากมาย
สำหรับ อ.สบเมย ได้จัดงานวันของดี อ.สบเมย และประเพณีวัฒนธรรม รวมชนเผ่าชาวสบเมย 2566 ขึ้นระหว่างวันที่ 21-25 มกราคม 2566 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ของดีขึ้นชื่อของ อ.สบเมย อาทิ พริกกะเหรี่ยง ที่ขึ้นชื่อถึงความแซ๊ปจิ๊ดจ๊าดด้วยเหตุที่พริกกะเหรี่ยง เป็นพริกที่มีความเผ็ดและมีกลิ่นหอม เป็นที่ต้องการของตลาดมาก อีกทั้ง อ.สบเมย มีแหล่งปลูกที่ใหญ่ที่สุดของ จ.แม่ฮ่องสอน และ เป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อเป็นที่ต้องการของตลาด สร้างรายได้ให้แก่ราษฎรสบเมยเป็นอย่างมาก ตลอดจนการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นของพี่น้องชนเผ่าในพื้นที่ ที่อนุรักษ์นิยมใส่เสื้อผ้าทอของชนเผ่า เพื่อให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น