เชียงใหม่วางแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเตรียมรับท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น

รถ 3 ล้อเครื่องนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมวัดต่างๆในตัวเมืองเชียงใหม่รวมทั้งร้านให้บริการเช่าชุดไทยและก็ช่างภาพเป็น หนึ่ง ในธุรกิจบริการที่เริ่มมีลูกค้าเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งถือเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่กลุ่มมัคคุเทศก์ที่เคยได้รับผลกระทบหนักในช่วงโควิด 19 ยาวนานถึง 3 ปีตอนนี้เริ่มมีงานกลับมามากขึ้น

เนื่องจากปัจจุบันพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปจากการเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่แล้วก็ใช้มัคคุเทศก์เพียง 1 คน ตอนนี้เขาหันมาเที่ยวเฉพาะครอบครัวหรือว่ากลุ่มเพื่อนกลุ่มเล็กลง ถือว่าเป็นโอกาสในการกระจายงานให้กับมัคคุเทศก์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์เชียงใหม่ระบุว่าปัจจุบันมัคคุเทศก์ที่เคยว่างงานกลับมาทำงานแล้วประมาณ 60%

ซึ่งมัคคุเทศก์ภาษาจีนในเชียงใหม่มีความพร้อมทั้งเรื่องคุณสมบัติและปริมาณรองรับนักท่องเที่ยวได้อย่างเพียงพอ ส่วนนะกรุงเทพฯภาษาเกาหลีก็ยังเป็นเงื่อนไขที่จะมีทัวร์ลีดเดอร์ที่เป็นเจ้าของภาษามาทำงานควบคู่กับมัคคุเทศก์ในพื้นที่ ส่วนที่ยังขาดแคลนก็คือ มัคคุเทศก์ภาษาเวียดนามซึ่งทางสมาคมฯพยายามหาทางออก กำลังจะเชื่อมโยงกับทางภาคอีสานในจังหวัดที่ พูดภาษาเวียดนามได้มาสอนมัคคุเทศก์เชียงใหม่ เพื่อที่จะรองรับกับตลาดเวียดนามที่กำลังจะมาเชียงใหม่

สิ่งที่มัคคุเทศก์ต้องการและมีการร้องเรียนไปยังภาครัฐก็คือเรื่องสวัสดิภาพและสวัสดิการ เพราะว่ามัคคุเทศก์เป็นงานอิสระไม่มีเงินเดือนและค่าตอบแทนเป็นงานไป พอไม่มีเงินเดือนประจำจึงไม่สามารถทำประกันสังคมได้ หากรัฐบาลจะมีนโยบายช่วยเหลือมัคคุเทศก์ก็อยากจะให้มีระบบประกันสำหรับมัคคุเทศก์โดยที่มีเงื่อนไขและสวัสดิการความคุ้มครอง ที่มากกว่าผู้ประกันสังคมตามมาตรา 40 

ในส่วนของหัวหน้า อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้ให้ข้อมูลว่าเราคาดหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นกับมาตรการวีซ่าฟรีของรัฐบาล จึงต้องเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวกันอย่างเต็มกำลัง ในปีนี้ทั้งปีมียอดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติกว่า 800,000 คน ที่มีการเดินทางเข้ามา และก็คาดว่าน่าจะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีทำรายได้เข้าอุทยานได้มากกว่าเดิม

ดอยอินทนนท์เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว และช่วงนี้ฝนตกแต่ก็ถือว่าเป็นปกติ ส่วนสภาพอากาศช่วงนี้อุณหภูมิลดต่ำสุดเหลือแค่ 9.6 องศาถือว่าเป็นเลขตัวเดียวในรอบปีทีเดียว อุณหภูมิที่ลดลงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ถ้าหากใครขึ้นไปดอยอินทนนท์คงจะสัมผัสอากาศหนาวตลอดทั้งปี โดยปกติอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยแค่ 12 ถึง 18°C เท่านั้น

นั้นทำให้ในปีนี้ประเมินว่าไฮซีซั่นน่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่าปีที่ผ่านมา ถ้าดูจากตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่ผ่านมา ช่วงที่นักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คือในช่วง เดือน พฤศจิกา ธันวาคมและมกราคม ตอนนี้นับถึงแค่เดือนกันยายน จำนวนนักท่องเที่ยวแตะที่ 800,000 คนจัดเก็บรายได้ขึ้นไปที่หลัก ร้อยล้านบาท

แนวโน้มทิศทางตัวเลขนักท่องเที่ยวน่าจะเพิ่มขึ้นและอาจจะเก็บรายได้มากกว่าร้อยล้านบาทขึ้นไป ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามแตกต่างไปในแต่ละช่วงเวลา แล้วก็ตามบรรยากาศและสถานที่เหมือนกัน เช่น ช่วงปลายฝนต้นหนาว

นายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากข้อมูลพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นวันละเกือบ 3,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่าคนไทย คนไทยจะมาท่องเที่ยวเยอะในช่วง เดือน พฤศจิกา ถึง เดือน ธันวาคม ซึ่งจะหนาวสุดและเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งเหมือนกับทุกปี

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายและจำนวนมาก เช่น น้ำตกขนาดใหญ่อย่าง น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่ยะ น้ำตกสิริภูมิ และน้ำตกแม่ปาน ทุกแห่งเป็นน้ำตกที่ช่วงปลายฝนต้นหนาวและจำนวนฝนที่ตกมีจำนวนมากจะสวยงามเป็นพิเศษ 

ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติแล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยว ทางวัฒนธรรม ประเพณีหรือวิถีชีวิตของชาวบ้าน เช่น ทุ่งนาป่าปงเปียงที่เป็นนาขั้นบันไดที่ใหญ่และเมื่อข้าวเริ่มออกรวงเป็นสีเหลืองทองจะสวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ของประเทศไทย

ทุกปีการเดินทางขึ้นดอยอินทนนท์ เราก็เจอปัญหาเรื่องของอุบัติเหตุเกิดขึ้นเหมือนกันปี ใครที่ยังไม่เคยขับรถขึ้นดอยอินทนนท์หัวหน้าอุทยานแนะนำว่า ด้วยลักษณะภูมิประเทศของดอยอินทนนท์เป็นดอยที่ที่ค่อยๆไต่ระดับขึ้นระยะทางจาก อำเภอจอมทองขึ้นไปสู่ยอดดอยประมาณ 10 กิโลเมตร การขึ้นดอยอินทนนท์นั้นก็คือต้องไต่ระดับความสูง สิ่งสำคัญคือรถต้องมีความพร้อม คนขับต้องเตรียมพร้อมร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ ที่สำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฎการจราจร

เนื่องจากดอยอินทนนท์มีแหล่งท่องเที่ยวตั้งแต่เชิงดอยไปจนถึงยอดดอย หลายคนอาจจะมุ่งเป้าขึ้นไปที่ยอดดอยขับยาว 10 กิโลเมตรซึ่งก็ค่อนข้างที่จะใช้เวลา แนะนำนักท่องเที่ยวแวะเที่ยวแต่ละจุดค่อยๆ ไต่ระดับเพื่อเป็นการพักรถหรือผ้าใบเบรกไปในตัวด้วย อาจจะไปเที่ยวบริเวณใกล้ๆ กับอำเภอจอมทอง เช่น น้ำตกขุนกลาง น้ำตกวชิรธารน้ำตกแม่ยะ แวะไหว้พระธาตุ ที่ วัดพระธาตุศรีจอมทอง วรวิหาร แล้วค่อยไต่ขึ้นไป ยอดดอย

เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

ร่วมแสดงความคิดเห็น