แถลงปฏิบัติการทางการแพทย์ หลังฝุ่น PM2.5 ทวีความรุนแรงกระทบต่อสุขภาพ

จังหวัดเชียงใหม่ แถลงปฏิบัติการทางการแพทย์และสาธารณสุข หลังสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ทวีความรุนแรงต่อเนื่องจนกระทบต่อสุขภาพ และมีผู้ป่วยทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น พบ ยังคงยังต้องการกำลังพลในการต่อสู้กับฝุ่นและไฟป่าอีกมาก


วันนี้ (8 เม.ย. 67) ที่ ห้องประชุม อาคารบุญสมมาร์ติน โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ (เชี่ยวชาญพิเศษ) นายแพทย์บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดี คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , รองศาสตราจารย์นายแพทย์นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ , นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ , นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และนายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเรื่องการปฏิบัติการทางการแพทย์และบริการสาธารณสุข เพื่อรักษาผู้ป่วยทางเดินหายใจและกลุ่มเปราะบางในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งมาตรการดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ที่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

โดย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM2.5 มาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากในพื้นที่เกษตร ด้วยการดึงเชื้อเพลิงออกจากพื้นที่ และใช้การไถกลบแทนการเผา จากนั้นยกระดับมาแก้ไขปัญหาในพื้นที่ป่า โดยเน้นการป้องกันการเผาป่า ทั้งหาอาชีพทดแทน และการตั้งรางวัลนำจับผู้เผาป่า ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็ยังมีปริมาณการเผาอยู่มาก บางวันมีการเผากว่า 500 จุด แต่ก็เข้าดำเนินการดับไฟอย่างเร็วที่สุด อย่างไรก็ตามยังมีปัญหาการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะช่วงต้นเดือนที่ผ่านมามีการเผากว่า 7,000 จุด สังเกตได้จากการที่อำเภอที่อยู่เขตชายแดนมีค่าฝุ่น PM2.5 สูงมาก ซึ่งก็ได้ระดมสรรพกำลังเข้าทำการแก้ไข รวมถึงใช้เครื่องบินฝนหลวงบรรเทาสถานการณ์ โดยจะเห็นว่าค่าฝุ่นในช่วงเช้าสูง ช่วงบ่ายจะลง เพราะมีปฏิบัติการเหล่านี้ ซึ่งยังคงต้องดำเนินการต่อไป ขณะที่ในด้านสุขภาพ ได้ดำเนินการด้านสุขภาพร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งการทำห้องลดฝุ่น การจัดหาหน้ากากอนามัย การรักษาพยาบาลที่ประชาชนทุกคนสามารถเดินเข้ามารับบริการได้ตามสิทธิที่รัฐให้การดูแลอยู่แล้ว ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่

ด้าน ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดี คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า PM2.5 มีผลต่อสุขภาพของประชาชนอย่างมาก และอาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปจนถึงระดับพันธุกรรม เพราะฝุ่น PM2.5 ทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบ และเกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้มีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว และพบว่า การเพิ่มขึ้นของฝุ่น PM2.5 มีส่วนให้อัตราการตายเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากในปีนี้ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ หัวใจ ปอด ของโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าจากปีที่ผ่านมา ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับจังหวัดอย่างต่อเนื่องในการดูแลชาวเชียงใหม่ โดยอยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและแก้ปัญหา PM2.5 ได้

ขณะที่ รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลฯ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลสุขภาพจากปัญหาฝุ่น PM2.5 มาตลอด ทั้งในส่วนของการรักษา และการให้ความรู้เพื่อป้องกัน โดยได้สร้างระบบการส่งต่อ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการดูแลผู้ป่วยให้ดีที่สุด รวมถึงคิดค้นและพัฒนาสิ่งต่างๆ เพื่อลดปัญหาด้านสุขภาพ เช่น การทำเครื่องฟอกฝุ่น DIY การติดตั้งระบบฟอกอากาศในหอผู้ป่วย รวมถึงการให้ความรู้กับชุมชนและประชาชนให้มากที่สุดทุกช่องทาง

นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข เชียงใหม่ ย้ำว่า PM 2.5 เป็นปัจจัยเสี่ยงที่คุกคามสุขภาพ ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้วางแนวทางดำเนินงานเพื่อไม่ให้กระตุ้นการกำเริบของโรคต่างๆ และมีการเตรียมความพร้อมรองรับทั้งโรคที่เกิดขึ้นทันที อาทิ กลุ่มโรคทางเดินหายใจ ตา ผิวหนัง และหัวใจ ไปจนถึงโรคที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว เช่น โรคหลอดเลือดสมอง และมะเร็งต่างๆ พร้อมให้ความมั่นใจว่าสาธารณสุขจังหวัดมีความพร้อมในการดูแลสุขภาพประชาชน ผ่านมาตรการสื่อสารความเสี่ยง การเตรียมเวชภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงและเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วย รวมถึงเตรียมหน้ากากอนามัยให้เพียงพอ

นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า อบจ. มีการดำเนินการในหลายด้าน และเน้นที่การลดความแออัดในการไปโรงพยาบาล ให้แพทย์ไปอยู่ตาม รพ.สต. เพื่อบริการผู้ป่วยนอก และได้จัดตั้ง Contact Unit for All Primary Care 10 แห่ง เพื่อแบ่งเบาภาระแพทย์ เพิ่มการเข้าถึง ขณะเดียวกันได้แจกหน้ากากอนามัยชนิด N95 สำหรับป้องกันฝุ่นให้กับประชาชนไปแล้วกว่า 3 ล้านชิ้น

ด้าน นายดุสิต พงศาพิพัฒน์ หัวหน้าสำนักงาน ปภ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่มีการจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กรมฝนหลวง กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ เพื่อร่วมกันสู้กับสถานการณ์ไฟป่า โดยเจ้าหน้าที่มุ่งมั่นทำงานอย่างหนักทุกวัน และพร้อมสู้ไม่มีถอยเพื่อปกป้องพื้นที่ป่า แต่ยังต้องการกำลังเพิ่มเพื่อมาช่วยกัน เพราะไฟและฝุ่นมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้จุดความร้อนในประเทศจะลดลงต่อเนื่อง แต่ยังต้องการกำลังอีกมากเพื่อไปสกัดไฟตามแนวชายแดนต่างๆ

ร่วมแสดงความคิดเห็น