มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดการว่านโยบายภาษีของทรัมป์จะส่งผลกระทบอย่างหนักให้กับการส่งออก และ เศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวของไทย
โดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 9 พฤศจิกายน และได้ออกนโยบายารขึ้นภาษีศุลกากร ทำให้รัฐบาลในหลายๆประเทศพยายามหาทางออกสำหรับปัญหานี้
โดยทรัมป์ตั้งใจจะขึ้นภาษีศุลกากร 10-20% ต่อสำหรับประเทศที่มีการค้าเกินดุลกับสหรัฐ แต่สำหรับประเทศจีน จะได้พบกับกำแพงภาษี 60%
สำหรับประเทศไทยที่มีการค้ากับสหรัฐที่เกินดุลอยู่โดยมีขนาดตลาดใหญ่เป็นอันดับที่ 9 จำเป็นต้องหาทางออกสำหรับปัญหานี้เพราะการขึ้นภาษีครั้งนี้ส่งผลระทบโดยตรงต่อประเทศไทย โดยสินค้าที่จะได้รับผลกระทบแน่นอนคือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องจักร, ส่วนประกอบเครื่องจักร, อาหารแปรรูป, เหล็ก และ ยาง
นอกจากนี้การขึ้นภาษียังส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานที่เชื่อมโยงกับประเทศจีน ทำให้ประเทศไทยต้องปรับตัวด้วยการขยายตลาดไปที่ตลาดอื่นๆเพื่อกระจายความเสี่ยง
นอกจากนี้สินค้าจากจีนที่ราคาถูกไร้คุณภาพอาจจะล้นทะลักมาเพราะประเทศจีนต้องการหาตลาดใหม่ๆเพื่อทำกำไร
อย่างไรก็ตามประเทศไทยยังมีโอกาสทองในเรื่องนี้อยู่ โดยส่งออกสินค้าจากไปไทยไปแทนที่สินค้าของจีนครองตลาดอเมริกาอยู่ เช่น เครื่องจักร, เครื่องใช้ไฟฟ้า และ สินค้าที่ทำมาจากยาง
รองศาสตราจารย์ ดร. ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ลำบาของไทยเนื่องจากสงครามการค้าที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
รองศาสตราจารย์ เสนอให้รัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการนำโครงการ “ช้อปดีมีกิน” กลับมาเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในเทศกาลปีใหม่
ที่มา
ร่วมแสดงความคิดเห็น