ค้าขายออนไลน์มาแรงขึ้นในปีหน้า

ความเข้มข้นในการแข่งขันระหว่างบริษัทค้าขายออนไลน์ยักษ์ใหญ่ เช่น Shopee, Lazada และ บริษัทใหม่ Temu การเพิ่มขึ้นของค่าคอมมิชชันอย่างต่อเนื่อง และการแข่งขันกันทางโฆษณาวิดีโอ ถูกคาดการณ์ว่าจะดุเดือดขึ้นในปี 2568

ตามเทรนด์ของบริษัทผู้บุกเบิกการค้าออนไลน์ การตลาดแบบฝากโปรโมท และ การซื้อขายของมือสองที่จะขายให้บุคคลผู้ที่จะนำไปซ่อมบำรุง, ใช้ และ รีไซเคิล เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก

ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานสมาคมการค้าขายออนไลน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “มีการคาดการณ์ว่าสินค้าจากประเทศจีนจะล้นทะลักเข้ามาในประเทศไทยในปีหน้า เพราะ Shopee และ Lazada นำเสนอตัวเลือกการขายแบบใหม่ Shopee Choice และ Lazada Choice”

รูปแบบการค้าแบบใหม่นี้คือการฝากขายสินค้าที่ถูกจัดหามาโดยตรงจากผู้ขายเพื่อที่จะต่อรองหาราคาที่ดีที่สุด หลังจากนั้น Lazada และ Shopee จะตั้งราคาเอง และ ทำการตลาดเอง

พอล ศรีวรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของบริษัท aCommerce บริษัทการค้าออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  กล่าวว่าการค้าแบบฝากขายสะท้อนกลยุทธ์ของทั้ง Lazada และ Shopee ที่จะใช้สู้กับ Temu ในตลาดของไทย

คุณ พอล เสริมอีกว่า มันเป็นสิ่งที่ยากที่จะทำลายระบบของ Temu ที่เก่งในเรื่องของการควบรวมการตลาด กับ การโปรโมท, ห่วงโซ่อุปทาน กับ โลจิสติกส์ Lazada และ Shopee อาจจะต้องพยายามอย่างมากในการวิ่งตามการบริหารที่มีคุณภาพขนาดนั้นให้ทัน

การค้าแบบฝากขายจำเป็นต้องมีการควบคุมคลังสินค้าที่รัดกุม, การบริหารข้อมูลแบบเรียลไทม์ และ การประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพกับผู้จัดหาสินค้า ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ Temu เดินนำหน้าไปก่อนแล้ว

คุณพอลกล่าวว่าถ้าหาก Shopee และ Lazada ต้องการความสำเร็จแบบ Temu จะต้องลงทุนในสิ่งที่จำเป็นอย่างเช่น โครงสร้างพื้นฐาน และการเพิ่มคุณภาพของการดำเนินงาน

มูลค่าของตลาดการค้าออนไลน์ของไทยถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตไปถึง 1.1 ล้านล้านบาทในปี 2567 เพิ่มขึ้น 14% จากปีต่อปี และถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตต่อไปถึง 1.6 ล้านล้านบาท ในปี 2570 กล่าวโดยคุณ ธนาวัฒน์

ระดับการเติบโต 14% นั้นถือว่าเป็นการเติบโตที่ต่ำเมื่อเทียบกับสถิติในปี 2564 (18% ปีต่อปี) และปี 2565 (19% ปีต่อปี) สาเหตุที่ทำให้การเติบโตของตลาดลดลงเพราะว่าบริษัทค้าขายออนไลน์ต่างๆตัดสินใจที่จะดำเนินการขึ้นค่าคอมมิชชัน

คุณ ธนาวัฒน์ กล่าวว่า การค้าขายแบบโปรโมทผ่านช่องทางของแต่ละคนนั้นกระตุ้นการตัดสินใจของผู้ซื้อ

ตามผลสำรวจที่ทำร่วมกันของบริษัท Cube Asia และ impact.com ในเดือน สิงหาคมปี 2567 ที่ทำการสำรวจผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 83% ของผู้เข้าร่วมแบบสอบถามเลือกที่จะซื้อสินค้าที่โปรโมทโดย อินฟลูเอนเซอร์เกี่ยวกับความงาม และ แฟชั่นเป็นส่วนใหญ่  

การขายผ่านไลฟ์สดกำลังได้รับความนิยม

การสำรวจยังพบการค้าขายผ่านไลฟ์สดนั้นเป็นที่นิยมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประมาณ 90% ของคนไทยผู้เข้าร่วมทำแบบสอบถาม กล่าวว่า 1ปี ที่ผ่านมาพวกเขาดูไลฟ์สดขายของอย่างน้อย 1 ครั้ง ดูผ่าน TikTok 86%, Shopee 57%, Facebook 52%, Lazada 47% และ Instagram 18%

“เราเห็นได้ชัดเลยระยะเวลาในการไลฟ์สดผ่านแพลตฟอร์มเหล่านั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้คนดูเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก” ธนาวัฒน์ กล่าว

คุณ พอล เสริมอีกว่า โซเชียล และการโฆษณาผ่านวิดีโอกำลังแปลงโฉมการค้าออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วย แพลตฟอร์มอย่าง TikTok Shop, การไลฟ์ผ่าน Lazada และ Shopee

 ซึ่ง YouTube และ Meta กำลังเข้าสู่พื้นที่ของการค้าแบบนี้เช่นกัน ผ่านการร่วมมือกันกับ Shopee

การโฆษณาผ่านวิดีโอกำลังเร่งความแรงของตลาดออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่าสินค้ารวมสุทธิของภาคส่วนนี้ในปี 2567 เพิ่มขึ้น 20% เทียบกับปี 2565 ที่ต่ำกว่า 5% ตามการรายงานของ Google, Temasek และ Bain & Company

คุณ พอล ยังมองเห็นว่าผู้ค้าปลีกแบบทุกช่องทางขยายพื้นที่การค้าเข้าไปใน ตลาดออนไลน์, การค้าปลีกผ่านสื่อ และ ตลาดมือสอง    

“ผู้ค้าปลีกทุกช่องทางเพิ่มความหลากหลายทางการค้าโดยการใช้ช่องทางการขายของตัวเอง, การค้าปลีกผ่านสื่อ และ การโฆษณาผ่านทุกช่องทาง และ รูปแบบการขายแบบตลาดมือสอง เพื่อที่จะสู้กับบริษัทการค้าออนไลน์ยักษ์ใหญ่ต่างๆ”

การค้าแบบไร้พรมแดนขยายนั้นขยายตัวมากขึ้นในผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะความต้องการของสินค้าต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

คุณ พอล ยังมองเห็นว่า การวิเคราะห์การค้าออนไลน์เป็นช่องทางที่ดีในการหาข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคอีกด้วย

ที่มา: Bangkok Post

https://www.bangkokpost.com/business/general/2909612/e-commerce-sector-set-to-heat-up-next-year

ร่วมแสดงความคิดเห็น