ในขณะที่ภาคส่วนของการผลิตและยานยนต์กำลังวิกฤต ภาคส่วนของโรงแรม, ร้านอาหาร, และ บริษัทไอที กำลังมีอัตราการจ้างงานที่สูงขึ้น
แผนการเลิกจ้างงานที่มากมายของบริษัท นิสสัน มากกว่า 1,000 คน ในประเทศไทย กำลังรบกวนตลาดแรงงานของประเทศ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานการเพิ่มขึ้นของการเลิกจ้างงาน 414,000 ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 401,000 จากปีที่แล้ว การปิดตัวของโรงงาน ซึ่งปิดตัวลงไปแล้ว 667 ที่ และ มีคนสูญเสียงาน 17,674 คน ในครึ่งปีแรก อาจจะทำให้สถานการณ์แย่ลง โดยรัฐบาลมีแผนที่จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, ลดยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ และ สนับสนุนระบบขนส่งมวลชนจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และ หยุดการเติบโตในภาคการผลิตรถยนต์ได้
ปัญหาการเลิกจ้างงานส่วนใหญ่มาจากความเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ทำให้บริษัทต้องดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอด เนื่องจากการเข้ามาของทุนจีนในประเทศไทยที่บริษัทในประเทศไทยไม่สามารถแข่งขันได้ เนื่องจากบริษัทจากจีนมีการนำเข้าสินค้าในราคาถูก การล้นทะลักเข้ามาของสินค้าราคาถูก ทำให้ ดัชนีผลภาคการผลิตของผู้ผลิตในท้องถิ่นลดต่ำลง
ในเดือนตุลาคม ดัชนีผลภาคการผลิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ร่วงลงไป 0.9% ปีต่อปี ไปที่ 93.4 แต้ม ด้วยอัตราการใช้กำลังผลิตของประเทศที่ไปถึงแค่ 57.7%
ด้วยการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น และ หนี้ครัวเรือนในประเทศไทยที่มากขึ้นทำให้ บริษัทหลายบริษัทต้องปรับโครงสร้างพนักงานใหม่
ใน 10 เดือน ของปีนี้ การผลิตรถยนต์ทั้งหมดของประเทศไทยลดลง 19.2% ปีต่อปี อยู่ที่ 1.24 ล้านคัน ตามมาด้วยยอดขายที่ซบเซาในตลาดภายในประเทศเนื่องจากธนาคารให้กู้น้อยลง เพราะ หนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และ ทักษะดิจิทัลที่น้อย ส่งผลกับแรงงานในประเทศ การส่งเสริมให้แรงงานปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานจากแบบเก่ามาเป็นแบบใหม่ เป็นสิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องทำ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์, รถพ่วง, และกึ่งรถพ่วง ซึ่งมีแรงงาน 460,000 คน
แรงงานเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากการมาของรถไฟฟ้า ซึ่งการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายในนั้นลดลง 28.3% ใน 9 เดือนแรกของปี ทำให้การเลิกจ้างงานนั้นเริ่มต้นขึ้น
การเตรียมพร้อมแรงงานสำหรับทักษะอุตสาหกรรมใหม่เป็นสิ่งที่จำเป็น อย่างเช่นในส่วนของ ศูนย์ข้อมูล, การผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์, การผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ และ การผลิตพลังงานหมุนเวียน
ความต้องการงานบริการพุ่งสูงขึ้น
ในทางกลับกัน การจ้างงานในธุรกิจโรงแรมและ ร้านอาหาร เพิ่มขึ้น 6.1%ในไตรมาสที่ 3 เป็นผลมาจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ศึกษิต สุวรรณดิษฐกุล ประธานสมาคมโรงแรมไทยสาขาภาคใต้ กล่าวว่าการจ้างงานในอุตสาหกรรมโรงแรมในภูเก็ตจาก เดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนมีนาคม ปีหน้าได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอัตราการจองโรงแรม และ การจองล่วงหน้า ได้เพิ่มขึ้น 80%
“โรงแรมในภูเก็ตกลับมาเดินหน้าเต็มกำลัง ดึงดูดพนักงานจากต่างจังหวัด ในส่วนของการจ้างงานที่นี่ 90% ของพนักงานมาจากจังหวัดอื่น” คุณ ศึกษิต กล่าว
“เราต้องพึ่งพาพวกเขาเนื่องจากภูเก็ตขาดแคลนประชากรวัยทำงาน”
เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวที่แข็งแรงทำให้ค่าตอบแทนของพนักงานนั้นสูงกว่าอุตสาหกรรมอื่นในโรงแรม 5 ดาว เงินเดือนของพนักงานเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่เกิดโรคระบาด Covid-19 โดยพวกเขาใช้ปีนั้นในการจัดการเรื่องการบริหารพนักงาน ทำให้พนักงานได้รับค่าตอบแทนที่มากขึ้นได้
การขยายของตลาดไอที
ในขณะที่ตลาดไอทีของโลก อย่างเช่นตลาด คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล และ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เติบโตมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ตลาดอื่นๆในภาคไอทีกลับมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น อย่างเช่น งานความปลอดภัยทางไซเบอร์, การจัดการข้อมูลบนคลาวด์, และ เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์
ในปี 2568 แนวโน้มบริษัท ไอที ท้องถิ่น จะดีขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตมีแนวโน้มจะจ้างงานมากขึ้น ไปพร้อมกับโอกาสการเติบโตของ AI-based PCs อย่างไรก็ตาม ถ้าตลาด ไอทีนั้นไม่เติบโตอย่างที่คาดไว้ บริษัทอาจจะเลิกจ้างงานพนักงานในครึ่งหลังของปี
ที่มา: https://www.bangkokpost.com/business/general/2912500/trends-drive-job-openings
ร่วมแสดงความคิดเห็น