ทรัมป์ เจรจาปูตินหยุดสงคราม

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า การเจรจาหยุดสงครามจะเริ่มต้นขึ้นโดยทันที หลังจากการโทรคุยกันระหว่างทรัมป์ และ วลาดิเมีย ปูติน เป็นช่วงเวลา “ยาวและมีประสิทธิผล” ในเช้าวันพุธที่ผ่านมา

การโทรครั้งนี้เป็นการพูดคุยกันเป็นครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีทั้งสองประเทศ ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนก่อน โดยทรัมป์กล่าวกับที่ปรึกษาของเขาอย่างชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะหยุดสงครามโดยทันที

โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทรัมป์ กล่าวว่า พวกเขาหวังว่าการแลกเปลี่ยนนักโทษในวันอังคารจะสามารถนำไปสู่ความพยายามในการยุติสงครามครั้งหใหม่ ซึ่งสงครามดังกล่าวกำลังจะเข้าสู่ปีที่ 4

ณ ตอนนี้ หลังจากที่ผู้นำทั้งสองกลับมาเจรจากันหลังจากช่วงเวลาความเงียบงันที่ยาวนานระหว่าง ทำเนียบขาว และ รัฐบาลของรัสเซีย โครงร่างแผนการยุติข้อพิพาทของทรัมป์ กำลังเข้าสู่ความพยายามที่ชัดเจนขึ้น

บทสนทนาของการเจรจาดังกล่าวถูกโพสต์ไว้ในแอปพลิเคชัน Truth Social ของทรัมป์ โดยกล่าวว่า “เราได้ปรึกษากันเรื่อง ยูเครน, ตะวันออกกลาง, พลังงาน, AI, อำนาจของเงินดอลลาร์ และ หลายๆ หัวข้อแตกต่างกันไป”

“เราตกลงกันว่าจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการไปเยี่ยมเยือนประเทศของกันและกัน เรายังตกลงกันว่าจะให้ทีมของเราทั้งสองคนเริ่มต้นการเจรจากันโดยทันที และผมจะเริ่มต้นการโทรหา ประธานาธิบดีของยูเครน เซเลนสกี้ เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการสนทนา เป็นสิ่งที่ผมกำลังจะทำในตอนนี้”

รัฐบาลของสหรัฐ และ รัสเซีย ต่างเขียนคำอธิบายเกี่ยวกับการโทรในครั้งนี้ไปในทางเดียวกันว่า ประธานาธิบดีทั้งสองคนแสดงท่าทีปรองดองกัน

“ประธานาธิบดี ปูติน ถึงขนาดใช้คำภาษิตที่ผมใช้ในการหาเสียง ‘สามัญสำนึก’ เราต่างเชื่อมั่นในคำคำนี้อย่างแรงกล้า” ทรัมป์ เขียนใน Truth Social มีใจความว่า ประธานาธิบดี ปูตินเลือกใช้คำอย่างระมัดระวัง เพื่อเอาใจผู้นำของสหรัฐ

สื่อของ เครมลิน กล่าวว่า ทรัมป์ และ ปูติน พูดคุยกันราวๆ 90 นาที

ทรัมป์นั้นส่งสัญญาณมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ว่าเขาอยากที่จะพูดคุยกับปูตินเนื่องจากเขากำลังดำเนินการที่จะหยุดสงครามยูเครน

เจ้าหน้าที่ของอเมริกาเดินทางไปที่ยุโรปในสัปดาห์นี้ พวกเขาเริ่มมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องของการหยุดสงครามยูเครน โดยในการประชุมที่บรัสเซลส์ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม กล่าวว่าการที่ เคียฟ เข้าร่วมกับ NATO นั้นเป็นความคิดที่ไม่อิงอยู่บนความจริง และ สหรัฐจะไม่ให้ความสำคัญกับยุโรป และ ความปลอดภัยของยูเครนเป็นอันดับแรก เนื่องจากทรัมป์เพิ่มความสนใจไปในเรื่องความปลอดภัยของชายแดนสหรัฐและการยับยั้งสงครามกับจีน

ใน ขณะนี้ ทรัมป์กล่าวในเรื่องของการทำข้อตกลงกับ ประธานาธิบดีของยูเครน เซเลนสกี้ ที่จะสามารถให้สหรัฐเข้าถึงแร่ธาตุหายากที่สำคัญของโลกในยูเครนได้ แลกเปลี่ยนกับการที่สหรัฐให้ความช่วยเหลือยูเครนมาอย่างต่อเนื่อง

ทรัมป์ ได้พูดคุยกับเซเลนสกี้ในช่วงตอนกลางวัน ไม่นานหลังจากที่พูดคุยกับ ปูตินเสร็จ

ประธานาธิบกีคนก่อนหน้านี้ โจ ไบเดน ไม่ได้พูดคุยกับ ปูตินมาเป็นเวลากว่า 3 ปี โดยเชื่อว่า การพูดคุยกับผู้นำซึ่งเขาถือว่าเป็นอาชญากรสงคราม คงจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์มากนัก

ประธานาธิบดีสหรัฐคนล่าสุดที่ไปเยือน รัสเซีย คือ บารัค โอบามา ในปี 2556 โดยเข้าร่วมการประชุม G20 ปูติน เยี่ยมเยือนสหรัฐล่าสุดเมื่อปี 2558 เพื่อเข้าร่วมการประชุมเจรจาของสหประชาชาติ

สตีฟ วิทคอฟฟ์ ผู้ที่จะเป็นผู้นำในการเจรจาของทรัมป์ในเรื่องของความขัดแย้ง ชี้ให้เห็นในเรื่องของการปล่อยตัวชาวอเมริกัน มาร์ค โฟเกล ที่ถูกจำคุกอย่างผิดกฎหมาย ในวันพุธที่ผ่านมา ว่าเป็น “การบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ต่างๆ” ในเรื่องของอนาคตของสงครามของรัสเซียในยูเครน

“ผมคิดว่านี่เป็นสัญญาณเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ด้วยดีของ ทรัมป์ และ ปูติน ในอนาคต และ สิ่งที่จะเกิดขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อทั้งโลกใบนี้ ในเรื่องของความขัดแย้งและอื่นๆ ผมคิดว่าพวกเขามีมิตรภาพที่ดี และ ผมคิดว่ามันจะดำเนินต่อไป และ เป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลกใบนี้” เขากล่าว

วิทคอฟ ได้พบกับปูตินเป็นการส่วนตัวที่มอสโกในวันอังคารที่ผ่านมา  

ที่มา: https://edition.cnn.com/2025/02/12/politics/putin-trump-phone-call/index.html

ร่วมแสดงความคิดเห็น