ชาวแคนาดามากกว่า 250,000 คน ได้ลงนามในคำร้องต่อรัฐสภา เร่งเร้าให้ถอนสัญชาติ และพาสปอร์ตของอีลอน มักส์
การร่วมงานกับโดนัลด์ ทรัมป์ ของอีลอนมัสก์ ซึ่งวางแผนที่จะเก็บภาษีศุลกากร 25% ของทุกสินค้าที่ถูกส่งออกมาจากแคนาดาในเดือนหน้า และ เป็นผู้เสนอให้ผนวกประเทศแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 “ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับประโยชน์ของประเทศชาติของแคนาดา” ผู้ร้องอ้าง
มหาเศรษฐีผู้ทำบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยี ถือสัญชาติของ แอฟริกาใต้, แคนาดา, และสหรัฐ ได้กลายเป็นพันธมิตรของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่สามารถมองเห็นได้ตามสื่อมากที่สุด ตั้งแต่ที่ทรัมป์ได้เข้ารับการเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขา
“เขาได้ใช้ความร่ำรวย และอำนาจของเขาเพื่อชักจูงการเลือกตั้งของเรา” คำอ้างของคำร้อง “ตอนนี้เขาได้กลายมาเป็นสมาชิกของกระทรวงการต่างประเทศที่พยายามจะลบอำนาจอธิปไตยออกจากแคนาดา”
ในการตอบโต้เกี่ยวกับการลงนามถอดถอนดังกล่าว อีลอน เขียนในแอปพลิเคชัน X ว่า “แคนาดาไม่ใช่ประเทศจริงๆ”
คำร้อง ที่ขอร้องให้นายกรัฐมนตรีของ แคนาดา จัสติน ทรูโด “ถอนสถานะ การถือสองสัญชาติ และ ถอนพาสปอร์ตของอีลอนออก โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที”
ใน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวกับ CNN ว่า รัฐบาลไม่สามารถถอดถอนสถานะพลเมืองของอีลอน ที่ได้มาอย่างถูกกฎหมายได้ ผู้เขียนคำร้องกล่าวว่าควรจะมองว่าเป็น “การเรียกร้องให้รับผิดชอบ”
อีลอน มัสก์ ผู้ที่เกิดที่ พริทอเรีย แอฟริกาใต้ ได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่าเขาได้รับพาสปอร์ตแคนาดาในช่วงวัยรุ่นผ่านทางแม่ของเขา เมย์ มัสก์ ผู้ซึ่งเกิดที่แคนาดา โดยอีลอนได้รับสถานะพลเมืองอเมริกาหลังจากสิบปีที่เขามาอยู่ที่สหรัฐผ่านวีซ่านักเรียน
การยื่นคำร้องต่อรัฐสภาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดให้มีการสนับสนุนเบื้องต้นจากประชาชนแคนาดา 5 คน, การมอบอำนาจของสมาชิกรัฐสภา และ การตรวจสอบเบื้องต้นก่อนที่จะเริ่มรวบรวมลายเซ็น ตามรายงานของสภาสามัญแห่งแคนาดา
คำร้องที่ต้องการให้ถอนสถานะพลเมืองของอีลอน นั้นยังคงเปิดให้ลงนามไปจนถึง วันที่ 20 มิถุนายน 2568 หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายคำร้องจะต้องรับรองว่าลายเซ็นอย่างน้อย 500 รายชื่อเป็นลายเซ็นที่ถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากนั้น คำร้องจะต้องรอจนกว่าจะเปิดสมัยประชุมรัฐสภาใหม่ก่อนจึงจะสามารถนำเสนอต่อสภาสามัญเพื่ออภิปรายได้
ชาร์ลี แองกัส สมาชิกรัฐสภา จากพรรคประชาธิปไตยใหม่ฝ่ายซ้าย ถูกระบุเป็นผู้สนับสนุนคำร้อง รวมถึงผู้เขียนคำร้อง ควอเลีย รีด โดย CNN ได้ติดต่อไปที่ทั้งสองคน เพื่อขอความคิดเห็น
รีด นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์จากบริติชโคลัมเบีย เขียนในเว็บไซต์ทางโซเชี่ยลมีเดีย Bluesky ว่า “ไม่ได้คาดหวังว่าคำร้องนี้จะขยายตัวไปไกลและรวดเร็วขนาดนี้” รีด ยังเน้นย้ำอีกว่าจำนวนผู้ที่สนับสนุนคำร้องนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั้นไม่ได้เป็นเรื่องของการโจมตีส่วนบุคคล
“เพื่อให้ชัดเจน การร่างคำร้องนี้ที่ผมเริ่มต้นขึ้น ที่ขยายตัวและโตขึ้นนั้น ไม่ได้เป็นการโจมตีตัวบุคคลโดยส่วนตัว มันเป็นเรื่องของการรับประกันว่า ผู้คนที่มีอิทธิพลต่อนโยบายระดับโลก และ อุตสาหกรรม นั้นรู้ตัวว่าผู้คนไม่โอเคกับ การขาดความรับผิดชอบทางจริยธรรมของพวกเขา” รีด กล่าว
ทรัมป์ได้กล่าวเกี่ยวกับความต้องการของเขาที่จะให้แคนาดากลายเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐบ่อยครั้ง และ มากเกินไป ซึ่งหมายความว่าเขากำลังล้อเลียน ทรูโด ในหน้าที่การเป็นผู้ปกครองของ แคนาดา ในช่วงต้นเดือน กุมภาพันธ์ ทรูโดเตือน ผู้บริหารภาคเอกชนว่า ที่ทรัมป์ขู่ว่าจะควบรวมแคนาดา “เป็นเรื่องจริง” ตามคำกล่าวของผู้นำธุรกิจ 2 คนที่ได้ฟังคำกล่าวของนายกรัฐมนตรี
มีกรณีตัวอย่างการเพิกถอนสัญชาติในแคนาดาเพียงไม่กี่กรณี ชาวญี่ปุ่นลูกครึ่งแคนาดาหลายพันคน ที่ถือสัญชาติแคนาดา ถูก “ถอดถอนสัญชาติโดยทันที” ระหว่าง สงครามโลกครั้งที่ 2 และ ถูกส่งตัวกลับญี่ปุ่น ตามที่ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยโตรอนโต ออเดรย์ แม็คคลิน กล่าวในบทความปี 2564 สำหรับ Manitoba Law Review
อย่างไรก็ตาม “ปกติแคนาดาไม่ถอนสัญชาติ คนที่ได้รับมันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย นั่นหมายความว่า ไม่มีทางที่อีลอนจะถูกถอนสัญชาติแคนาดา นอกเสียจากเขาได้รับสัญชาติมากจากการโกง หรือ การบิดเบือนความจริง” แม็คคลินบอกกับซีเอ็นเอ็นว่า
กฎหมายปี 2557 พระราชบัญญัติเสริมสร้างความเป็นพลเมืองแคนาดา ก่อนหน้านี้ เป็นกฎหมายที่ครอบคลุมเรื่องของข้อกำหนดที่จะถอดถอนสิทธิการเป็นพลเมืองได้ ถ้าหาก ชาวแคนาดาที่มีสัญชาติสองสัญชาติถูกตัดสินว่ามีความผิดฐาน “ละเมิดความมั่นคงของชาติ”
ทรูโดสัญญาว่าจะยกเลิกกฎหมายนี้เมื่อเขาลงสมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายในปี 2560 บทบัญญัติเกี่ยวกับการยกเลิกสัญชาติได้ถูกยกเลิกไป และกฎหมายใหม่จะทำให้ชาวแคนาดาที่ถูกเพิกถอนสัญชาติด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ สามารถได้รับสัญชาติอีกครั้ง
ที่มา: https://edition.cnn.com/2025/02/25/americas/canada-petition-musk-citizenship-intl-latam/index.html
ร่วมแสดงความคิดเห็น