นอภ.เวียงป่าเป้าเผย เจ้าของโรงงานชาแสดงความรับผิดชอบด้วยการจะเข้าไปดูแลผู้บาดเจ็บทั้งหมด ส่วนผู้เสียชีวิตกำลังติดต่อญาติที่อยู่ในเมีีนมา ส่วนสาเหตุที่ชัดเจนที่ทำให้โรงงานถล่มยังต้องรอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบก่อน เบื้องต้นพบว่าได้ขออนุญาติก่อสร้างเพิ่มเติมหรือการรีโนเวทอาคาร
กรณีเมื่อเวลาประมาณ 16.10 น. วันที่ 8 ก.ค. 68 อาคารโรงงานชาตรามือ ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวกำลังก่อสร้าง ขนาดพื้นที่ประมาณ 3,500 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านเกาะ ม.8 ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ได้เกิดเหตุถล่มลงมา เหตุการณ์ดังกล่าวได้ทำให้โครงเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างทับร่างของคนงาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน คือ นายจายหม่อง ถือบัตรบุคคลสัญชาติเมียนมา มีผู้บาดเจ็บสาหัส (ระดับสีแดง) 2 รายคือ นายวิทยา ไตรวงค์ย้อย และนายสิทธิชัย วรรณพฤกษ์ บาดเจ็บระดับกลาง (ระดับสีเหลือง) 4 ราย ประกอบด้วย นายจายอ้ายทุน, นายจายหล้าพู, นางนานเอยิง และนายวิทวัส สีอือ โดยผู้บาดเจ็บถูกส่งไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า

นายพงศ์ศักดิ์ เพชรคงแก้ว นายอำเภอเวียงป่าเป้า เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุพบว่ามีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเสียชีวิต 1 ราย มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งอาสากู้ภัยได้เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่ง รพ.เวียงป่าเป้า โดยผู้บาดเจ็บสาหัสสีแดงได้ส่งต่อไปที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ อาคารที่เกิดเหตุเป็นการปรับปรุงรีโนเวทอาคารเดิม โดยได้มีการขออนุญาตและมีวิศวกรควบคุมงาน แต่ว่าหลังเกิดเหตุ ก็ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบกันว่าเกิดจากสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ เบื้องต้นน่าจะเป็นที่โครงสร้างแต่ก็ต้องรอการพิสูจน์ก่อน ทั้งนี้ทางเจ้าของโรงงานได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการประสานขอเข้าไปดูแลผู้บาดเจ็บแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตกำลังให้ประสานญาตของผู้ตายที่อยู่เมียนมามาดูแล
ด้านนายไกรวิชญ์ ต้องใจ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเวียงป่าเป้าธรรมสถาน เผยว่า ทางหน่วยกู้ภัยได้รับการโทรประสานจากคนงานภายในโรงงานชาดังกล่าว ว่ามีเหตุโครงหลังคาโรงงานถล่มทับคนงาน มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บติดอยู่ในอาคาร ต้องการความช่วยเหลือ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังพร้อมอุปกรณ์ไปร่วมตรวจสอบ พบว่าเป็นโครงหลังคาเหล็กของอาคารหลังหนึ่งได้ถล่มลงมาด้านล่าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย บาดเจ็บปานกลาง 4 ราย จึงนำส่งศพและผู้บาดเจ็บไปที่ รพ.เวียงป่าเป้า ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะมาการเคลื่อนย้ายศพไปชันสูตรที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และนอกจากนี้ก็มีการส่งผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย พร้อมทั้งผู้ป่วยในรถดับปานกลางอีก 2 รายไปรักษาตัวต่อที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ เช่นกัน

เจ้าหน้าที่กู้ภัย เผยต่ออีกว่า จากการสอบถามคนงานทราบว่า วันนี้มีคนงานมาทำงานประมาณ 50-60 คน ซึ่งโชคดีที่ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาตอนเย็น คนงานบางส่วนเก็บอุปกรณ์ออกไปจากอาคารกันบ้างแล้ว หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในช่วงเวลากลางวัน คาดว่าอาจจะมีคนบาดเจ็บมากกว่านี้
ในเวลาต่อมา ทางเพจของสำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์ ได้โพสต์ความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แสดงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของแรงงานในภาคก่อสร้าง หลังเกิดอุบัติเหตุอาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในจ.เชียงราย ถล่ม โดยขณะนี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้สั่งการให้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เข้าตรวจสอบแล้ว พร้อมดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด ป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานในโครงการก่อสร้างทั่วประเทศ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น เพื่อให้โครงการก่อสร้างทุกแห่งในประเทศมีมาตรฐานความปลอดภัยที่รัดกุม และลดความเสี่ยงในการประสบอันตรายจากการทำงานให้แก่แรงงานไทย

ด้านนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้รับรายงานว่า ในช่วงเย็นวันนี้ (8 กรกฎาคม 2568) ได้เกิดอุบัติเหตุตึกที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างของบริษัท ชาไทย อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 ต.เวียงกาหลง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งประกอบกิจการประเภท ผลิตและจำหน่ายชา ได้ถล่มลงมา โดยเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ ของบริษัทชาไทยฯ รายงานว่า มีลูกจ้างของบริษัท วิน บีม 169 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับเหมา ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย และเสียชีวิต จำนวน 1 ราย โดยผู้เสียชีวิต เป็นเพศชาย ยังไม่ทราบชื่อ-สกุล และเบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบอุบัติเหตุ อย่างไรก็ดี ได้ส่งตัวผู้ได้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลเวียงป่าเป้าแล้ว ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสาเหตุของโครงการก่อสร้างดังกล่าว ว่าดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ ในส่วนการชดเชยนั้น กระทรวงแรงงานโดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) จะดำเนินการชดเชยเยียวยาลูกจ้างที่ได้ประสบอันตรายขณะปฏิบัติงาน จากเหตุอาคารถล่มต่อไป
ทั้งนี้มีรายงานว่า ในวันที่ 9 ก.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่เจดีย์ จะประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งอาจจะต้องมีการประสานสำนักงานโยธาธิการจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อให้ส่งผู้ชำนาญการเข้ามาตรวจสอบด้วย เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนของการเกิดเหตุการณ์โรงงานถล่มอีกครั้ง






ร่วมแสดงความคิดเห็น