วันที่ 19 ก.ค. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า วันนี้นายวิน ทอ รองผู้ว่าการธนาคารกลางเมียนมา ได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังธนาคารทุกแห่ง ที่รับซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศ ให้ระงับการชำระดอกเบี้ยและเงินต้นที่กู้มาจากต่างประเทศ และให้ลูกค้าธุรกิจที่กู้ยืมเงินปรับแผนการชำระเงิน หลังปริมาณเงินทุนสำรองลดต่ำลงเรื่อยๆ โดยบริษัทเอกชนของเมียนมาในขณะนี้ มีหนี้สินจากต่างประเทศเป็นจำนวนเงิน 1.2 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม หลังกองทัพเมียนมาทำรัฐประหารเมื่อ 1 ปีที่แล้ว ได้คุมเข้มการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากค่าเงินจ๊าตเมียนมาอ่อนค่าลงถึง 1 ใน 3 ตั้งแต่ปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการระงับการเบิกถอนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เก็บไว้ในสหรัฐฯ และการระงับมาตรการช่วยเหลือจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนกับเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ สำหรับผู้ที่รับรายได้จากต่างประเทศ เพื่อป้องกันความผันผวนของสกุลเงินท้องถิ่น รวมทั้งออกคำสั่งห้ามนำเข้ารถยนต์ สินค้าฟุ่มเฟือย จำกัดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและน้ำมันปรุงอาหาร แต่ยังคงอนุญาตให้มีการใช้เงินหยวนและเงินบาท บริเวณชายแดนที่ติดกับไทยและจีน
ที่มา : Bloomberg , ฐานเศรษฐกิจ
ร่วมแสดงความคิดเห็น