เชิญชวนชาวเชียงใหม่ ร่วมเป็นเจ้าบ้าน รับผู้เข้าร่วมประชุมเอเปค

จังหวัดเชียงใหม่ ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับการประชุมเอเปคกว่า 1,000 คน จาก 21 เขตเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ 16-31 สิงหาคม 2565 สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน

วันที่ 19 ก.ค. 65 นายพิพัฒน์พงษ์ พุทธวงศ์ ผู้อำนวยการ กลุ่มงานอำนวยการ สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยในการแถลงข่าวสื่อมวลชนประจำสัปดาห์จังหวัดเชียงใหม่ ว่าตามที่ในปี พ.ศ. 2565 ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และการประชุมที่เกี่ยวข้อง

โดยไทยมีพันธกิจกรณีต้องจัดการประชุมทั้งในระดับคณะทำงาน (working group) ระดับคณะกรรมการ (Committee) ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (Senior Official Meeting) ระดับรัฐมนตรี (Ministerial meeting) ไปจนถึงระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (Summit) รวมกว่า 100 การประชุม ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ในส่วนภูมิภาค ซึ่งตลอดปีนี้จะมีคณะผู้แทนจากเขตเศรษฐกิจเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจเดินทางมาร่วมประชุมในประเทศไทย

โดยในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับเกียรติให้เป็นสถานที่สำหรับการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ครั้งที่ 3 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (3rd APEC Senior Officials and Related Meeting หรือ SOM 3) ระหว่างวันที่ 16-31 สิงหาคม 2565 ณ โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ โรงแรมมีเลีย และโรงแรมเลอ เมอริเดียน ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ยังเป็นสถานที่จัดประชุมในกรอบเอเปคอีกหลายการประชุม ได้แก่ การประชุมคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านความทุจริต และความโปร่งใสในกรอบเอเปค ครั้งที่ 35 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ประจำปี พ.ศ. 2565 โดยสำนักงาน ป.ป.ช., การประชุม Senior Disaster Management Officials Forum โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย และการประชุม APEC Meeting of Ministers Responsible for Forestry (MMRF) โดยกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

จึงขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ ร่วมใจกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมเอเปคกว่า 1,000 คน จาก 21 เขตเศรษฐกิจ ด้วยอัธยาศัยไมตรีจิตที่อบอุ่นงดงาม และตกแต่งบ้านเมืองให้สวยงาม เพื่อสร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน สมกับคำว่า “เชียงใหม่ นครแห่งชีวิตและมั่งคั่ง : เมืองที่ให้ความสุขและชีวิตที่มีคุณค่าแก่ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน ในฐานะเมืองที่น่าอยู่และน่าท่องเที่ยวในระดับโลก พร้อมกับเป็นประตูสู่การค้าการลงทุนสู่สากล”

ร่วมแสดงความคิดเห็น