แจกกล้าไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว

สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) ระบุว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำในแนวนโยบาย
ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชน มีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวสู่เป้าหมาย 55% ของพื้นที่ประเทศ และเพิ่มภาคการดูดซับคาร์บอน รองรับตลาดการค้าคาร์บอน
เครดิตที่จะเติบโตในอนาคตอันใกล้ กรมป่าไม้ ได้เปิดให้รับกล้าไม้ เพื่อนำไปปลูกได้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพียงยื่นเอกสาร บัตรประชาชน สำเนาการถือ
ครองที่ดิน (พื้นที่ที่ต้องการปลูก) ถ้าเป็นโครงการต้องแนบรายละเอียดโครงการ เอกสารที่ดิน และแผนที่สังเขป
หากมีโครงการปลูกต้นไม้ที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าและมีพื้นที่เป้าหมายชัดเจน สามารถขอรับกล้าไม้ได้มากกว่ารายละ 1,000 ต้น/ปี
โดยให้ยื่นหนังสือแสดงโครงการ พร้อมหลักฐานประกอบแนบคำขอ ศาสนสถาน หน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชนทั่วไป ขอได้หน่วยงานละไม่เกิน
10,000 ต้น/ปี หากมีโครงการปลูกต้นไม้ที่ไม่มีวัตถุประสงค์ เพื่อการค้าและมีพื้นที่เป้าหมายชัดเจน สามารถขอรับกล้าไม้ได้มากกว่ารายละ 10,000 ต้น/ปี โดย
ให้ยื่นหนังสือแสดงโครงการพร้อมหลักฐานประกอบแนบคำขอ โดยผู้ขอรับกล้าไม้ ต้องยื่นคำขอ และมาขอรับกล้าไม้ด้วยตนเอง ได้ที่ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ สถานี
เพาะชำกล้าไม้
ที่ผ่านๆมาสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาการปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ ร่วมกับภาคีเครือข่ายใน
พื้นที่และหลายภาคส่วน ในวาระมหามงคลอย่างต่อเนื่อง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการเพิ่มพื้นที่
ผืนป่าให้แก่ชุมชน รวมถึงส่งเสริม รณรงค์และปลูกจิตสำนึกให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฟื้นฟูพื้นที่ป่า
เสื่อมสภาพ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศในพื้นที่ชุมชนให้กลับมาอุดมสมบูรณ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2561ประชาชนสามารถนำไม้ยืนต้น มาจดหลักประกัน เพื่อประเมินในการขอสินเชื่อได้ เพียงยื่นขอจดทะเบียน ที่กรมพัฒนา
ธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจล่าสุดระบุว่า มีการจดทะเบียนนำต้นไม้มาเป็นหลักประกัน ทั้งสิ้น 146,282 ต้น เป็นจำนวนเงินค้ำประกัน
137,117,712 บาท ไม้ยืนต้นในที่ดิน ยังสามารถนำมาคำนวณคาร์บอนเครดิต เพื่อขายในตลาดการค้าคาร์บอนเครดิตได้ด้วย โดยปัจจุบัน ราคาคาร์บอนเครดิต
ได้ขยับตัวขึ้นสูงไปถึง 120 บาท/ตันคาร์บอนไดออกไซด์ และคาดว่าจะขยับตัวสูงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ
ปัจจุบัน มีไม้ยืนต้นที่สามารถเป็นหลักประกันได้ 58 ชนิด ได้แก่ ตะเคียนทอง ตะเคียนหิน ตะเคียนชันตาแมว ไม้สกุลยาง (ไม่รวมยางพารา)
สะเดา สะเดาเทียม ตะกู ยมหิน ยมหอม นางพญาเสือโคร่ง นนทรี สัตบรรณ ตีนเป็ดทะเล พฤกษ์ ปีบ ตะแบกนา เสลา อินทนิลน้ำ ตะแบกเลือด นากบุด ไม้สัก พะยูง
ชิงชัน กระซิก กระพี้เขาควาย สาธร แดง ประดู่ป่า ประดู่บ้าน มะค่าโมง มะค่าแต้ เคี่ยม เคี่ยมคะนอง เต็ง รัง พะยอม ไม้สกุลจำปี (จำปีสิรินธร จำปีป่า จำปีถิ่นไทย
จำปีดง จำปีแขก จำปีเพชร ) แคนา กัลปพฤกษ์ ราชพฤกษ์ สุพรรณิการ์ เหลืองปรีดียาธร มะหาด มะขามป้อม หว้า จามจุรี พลับพลา กันเกรา กะทังใบใหญ่ หลุมพอ
กฤษณา ไม้หอม เทพทาโร ฝาง ไผ่ทุกชนิด ไม้สกุลมะม่วง ไม้สกุลทุเรียน และมะขาม ซึ่งประชาชนที่มีที่ดิน และต้องการปลูกต้นไม้ สามารถขอรับกล้าไม้ได้ฟรี ที่
ศูนย์เพาะชำกล้าไม้ สถานีเพาะชำกล้าไม้ กรมป่าไม้ ทุกแห่ง
ด้านสถานีเพาะชำกล้าไม้จังหวัดลำพูน ประชาสัมพันธ์ ว่า การขอรับกล้าไม้นั้น ให้เตรียมเอกสารและหลักฐานบัตรประชาชน สำเนาเอกสารทาง
ที่ดิน เช่น โฉนด,นส.3,สปก,สทก หรืออื่นๆให้พร้อม หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ 06-3917-2938 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น (เว้น
วันหยุดราชการ)

ร่วมแสดงความคิดเห็น