กิจกรรมการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับมณฑลหนิงเซี่ย

ศูนย์ CIC ม.เชียงใหม่ ร่วมกับ CCPIT หนิงเซี่ย ประเทศจีน จัดกิจกรรม “เจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ โอกาสสินค้าไทยสู่ตลาดเขตปกครองตนเองชนชาติหุยหนิงเซี่ย”สร้างความร่วมมือทางการค้า การลงทุน บนเส้นทาง R3A และรถไฟลาว-จีน

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2565 เวลา 14:00-17:00 ศูนย์ China Intelligence Center (CIC) วิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ หน่วยงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (CCPIT) เขตปกครองตนเองชนชาติหุยหนิงเซี่ยจัดกิจกรรม “เจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ โอกาสสินค้าไทยสู่ตลาดเขตปกครองตนเองชนชาติหุยหนิงเซี่ย” เพื่อเป็นเวทีสร้างความร่วมมือทางการค้า การลงทุน บนเส้นทาง R3A และรถไฟลาว-จีน โดยได้รับเกียรติจาก นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน ร่วมกับ มร.เฉา เจี้ยนลี่ รองประธานคณะกรรมการส่งเสริมการค้าหนิงเซี่ย (CCPIT) โดยมี คุณเฉา หลีผิง ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานและความร่วมมือ คณะกรรมการส่งเสริมการค้าหนิงเซี่ย อ.ดร.ดนัยธัญ พงษ์พัชราธรเทพ หัวหน้าศูนย์ China Intelligence Center วิทยาลัยศิลปะ สื่อและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ องค์กรภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วมในกิจกรรม ดังกล่าวรวมกว่า 70 บริษัท/องค์กร จากไทยและมณฑลหนิงเซี่ย ครอบคลุมกลุ่มกิจการที่เกี่ยวข้องกับ Cross Border E-commerce (CBEC), Logistics Provider, ผู้ประกอบการส่งออกนำเข้า เครื่องมือแพทย์ รวมถึงอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และอาหาร ของทั้งฝ่ายหนิงเซี่ย และไทย ผู้มีเกียรติ และผู้ประกอบการที่ร่วมกิจกรรมผ่านระบบออนไลน์ระบบ Zoom

อ.ดร.ดนัยธัญ พงษ์พัชราธรเทพ หัวหน้าศูนย์ CIC ในฐานะผู้จัดกิจกรรมฯ กล่าวว่าเขตปกครองตนเองชนชาติหุยหนิงเซี่ย นับเป็นหนึ่งในมณฑลเชิงยุทธศาสตร์ของจีนในสองประการคือประการที่หนึ่งการเป็นมณฑลหลักในการเชื่อมประเทศจีนกับประเทศมุสลิมในภูมิภาคอื่นๆไม่ว่าจะเป็นภูมิเอเซียกลาง เอเชียใต้ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงประเทศไทย การสร้างความร่วมมือกับมณฑลหนิงเซี่ยจึงเป็นโอกาสสำหรับสินค้ากลุ่มฮาลาลของไทยในการเข้าสู่ตลาดฮาลาลในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมราว 21 ล้านคน ในขณะเดียวกันก็เป็นมณฑลที่มีสินค้าเกษตรคุณภาพไม่ว่าจะเป็น ไวน์องุ่น และ Goji Berry เป็นสินค้าส่งออกสำคัญ

ประการที่สองเป็นหนึ่งในมณฑลต้นทางสำหรับการส่งออกตามเส้นทางรถไฟจีน-ยุโรป และการค้าผ่านแพลตฟอร์มพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามแดน ซึ่งทำให้มณฑลหนิงเซี่ยเป็นมณฑลที่มีอัตราการเติบโตของ GDP และอัตราการเติบโตของการส่งออกในครึ่งปีแรกของปี พ.ศ. 2565 (ค.ศ. 2022) เป็นอันดับหนึ่งของประเทศจีน

สำหรับผลลัพธ์สำคัญในการจัดกิจกรรม Online Business Matching ในระหว่างมณฑลหนิงเซี่ยกับผู้ประกอบการไทยคือการเสนอให้เกิดการลงนาม MOU ระหว่าง 1) CCPIT หนิงเซี่ย กับ Northern Food Valley และ2) เขตเศรษฐกิจพิเศษ CBEC อิ๋งชวน หนิงเซี่ยกับศูนย์ CIC มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อมุ่งสู่การสร้างแพลตฟอร์มกลางเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และเพิ่มช่องทางการใช้ประโยชน์เส้นทางโลจิสติกส์ใหม่ๆเช่นรถไฟลาว-จีน และเส้นทางขนส่งทางถนน R3A ที่ทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับหนิงเซี่ย (มณฑลทางตะวันตก) สะดวกและมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างทั้งสองฝ่ายได้อย่างเป็นรูปธรรม

ร่วมแสดงความคิดเห็น