ชาวบ้านชุมชนย่านถนนช้างม่อย จ.เชียงใหม่ โวยลั่นเดือดร้อนหนัก ผับบาร์ผุดกลางเขตชุมชนอนุรักษ์เมืองเก่า ตามแผนผลักดันเชียงใหม่สู่เมืองมรดกโลก เปิดบริการยันสว่างทุกคืน ส่งเสียงดังรำคาญทำให้ทั้งคนทั้งพระแทบไม่ได้นอนหลับพักผ่อน จอดรถกีดขวางถนนยาวเป็นกิโล แถมปล่อยลูกค้าเมาหนักทั้งฉี่ และอ้วกไม่เป็นที่เป็นทางสร้างความสกปรกไปทั่ว จี้หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบแก้ไขเร่งด่วน หลังร้องเรียนนานเกือบ 2 เดือน แทบไร้ความคืบหน้า หวั่นย่านเก่าแก่ของเมืองกลายสภาพเป็นแหล่งโลกีย์

เมื่อวันที่ 6 ก.ย.65 นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานงานชุมชนย่านถนนช้างม่อย ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในชุมชนย่านถนนช้างม่อย ซึ่งเป็นย่านเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งอยู่ในพื้นที่เขตเมืองเก่าตามแผนผลักดันเมืองเชียงใหม่ สู่การเป็นเมืองมรดกโลกและเป็นเขตชุมชนอนุรักษ์เมืองเก่าตามผังเมือง กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากผับบาร์อย่างน้อย 3 แห่ง ที่เปิดให้บริการจนถึง 03.00-04.00 น.ทุกคืน ซึ่งก่อเสียงดังรบกวนการพักผ่อนนอนหลับยามวิกาล ทั้งจากการใช้เครื่องเสียงและการส่งเสียงดังของลูกค้าที่ต่างอยู่ในอาการมึนเมาในช่วงออกจากร้านเมื่อปิดให้บริการในช่วงเช้ามืด ตลอดจนปัญหาต่างๆ เช่น รถของลูกค้าที่มาใช้บริการจำนวนมากจอดกีดขวางถนนและหน้าบ้านเต็มไปหมด, สร้างความสกปรกให้กับชุมชนจากการปัสสาวะและอ้วกไม่เป็นที่เป็นทาง หรือการทะเลาะวิวาทกันของลูกค้าที่มาเที่ยวผับบาร์ดังกล่าว เป็นต้น
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนเป็นกังวลใจและรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัยในชุมชนเป็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่พักอาศัยอยู่ในบ้านของตัวเอง แต่ช่วงกลางคืนกลับไม่ได้นอนหลับเต็มที่ ซึ่งหลายบ้านมีทั้งผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งเด็กนักเรียนที่ต้องตื่นเช้าไปโรงเรียนด้วย อีกทั้งพระสงฆ์ในวัดย่านชุมชนยังพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบแก้ไขปัญหา เนื่องจากเบื้องต้นเชื่อว่าผับบาร์ดังกล่าว นี้น่าจะกระทำการใดๆ ที่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายหลายประการ ทั้งการเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และการส่งเสียงดังก่อความเดือดร้อนรำคาญ โดยจากข้อมูลที่ทางชุมชนตรวจสอบทราบว่าผับบาร์ทั้ง 3 แห่งนี้ มีการจดทะเบียนเปิดบริการเป็นร้านอาหาร พร้อมกับมีเงื่อนไขให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 24.00 น. และต้องไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ แต่ตามความเป็นจริงที่ปรากฏค่อนข้างชัดเจนผับบาร์ทั้ง 3 แห่ง นี้มีลักษณะการให้บริการเป็นสถานบันเทิงมากกว่าร้านอาหาร และไม่น่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้ประสานงานชุมชนย่านถนนช้างม่อย บอกว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ เกี่ยวกับความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นและขอให้ตรวจสอบ พร้อมแก้ไขปัญหา ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันปรากฏว่าปัญหาที่เกิดขึ้นยังไม่ได้รับการแก้ไขหรือบรรเทาเบาบางลงแต่อย่างใด อีกทั้งยังพบว่ากลับมีสถานประกอบการอีกหลายแห่ง เริ่มเปิดให้บริการในลักษณะที่อาจจะก่อความเดือดร้อนรำคาญเพิ่มขึ้นอีกในย่านชุมชนถนนช้างม่อย โดยหลายแห่งไม่มีการควบคุมการใช้เสียงและส่งกลิ่นรบกวน จึงทำให้ชาวชุมชนยิ่งเกิดความเป็นห่วงกังวลมากขึ้น ว่าหากปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็วตั้งแต่ต้นแล้ว ในที่สุดย่านชุมชนเก่าแก่ของเมืองเชียงใหม่ ที่เป็นส่วนหนึ่งในแผนผลักดันสู่การเป็นเมืองมรดกโลก จะกลายสภาพเป็นย่านโลกีย์เสียก่อน
โดยผู้ประสานงานชุมชนย่านถนนช้างม่อย เปิดเผยว่า ในวันนี้ 7 ก.ย. 65 ทางชุมชนย่านถนนช้างม่อย กำหนดจัดเวทีสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นที่วัดหนองคำ ถนนช้างม่อย เวลา 13.30 น. พร้อมเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ,ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ ,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ,นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ,นายอำเภอเมืองเชียงใหม่,สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และสรรพสามิตพื้นที่เชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนและชี้แจงวิธีการแก้ไขปัญหา ซึ่งคาดหวังว่าจะขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว พร้อมมีการกำหนดกรอบหรือมาตรการควบคุมป้องกันปัญหาในระยะยาวด้วย

ขณะที่ชาวบ้านในชุมชนย่านถนนช้างม่อยรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากการเปิดให้บริการของผับบาร์ทั้ง 3 แห่งนี้ เพราะเปิดให้บริการตั้งแต่กลางคืนจนเกือบถึงช่วงเช้ามืดทุกวัน ซึ่งทางผับบาร์ดังกล่าวมีการโฆษณาและระบุเวลาเปิดปิดไว้อย่างชัดเจนในเพจเฟซบุ๊คของร้าน โดยที่แต่ละคืนจะมีลูกค้าเข้าใช้บริการจำนวนมาก นำรถมาจอดไว้ตามหน้าบ้านและริมถนนช้างม่อยยาวเป็นกิโลเมตร พร้อมมีชายฉกรรจ์ที่การ์ดรักษาความปลอดภัยของร้าน คอยเป่านกหวีดอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่นำรถมาจอดและส่งเสียงดังรบกวนควบคู่ไปกับเสียงดนตรีของร้านตลอดคืน รวมทั้งบางครั้งก็มีเหตุทะเลาะวิวาทกัน ทำให้พอถึงเวลากลางคืนชาวบ้านในชุมชนต่างหวาดกลัว และไม่กล้าออกจากบ้านหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
นอกจากนี้ชาวบ้านในชุมชนย่านถนนช้างม่อย บอกด้วยว่า ผับบาร์ดังกล่าวนี้เปิดให้บริการเหมือนไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยกตัวอย่างได้ชัดอีกอย่างหนึ่ง คือ ในคืนวันที่ 28 ก.ค. 65 พบว่าผับบาร์ดังกล่าวยังคงเปิดให้บริการเกินเวลา 24.00 น. ตามปกติ โดยมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่บันทึกภาพลูกค้าที่ใช้บริการเสร็จแล้วออกจากร้านและเดินมาเอารถที่จอดไว้ริมถนนเวลาประมาณ 01.00 น. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานเกี่ยวข้องน่าจะสามารถตรวจสอบได้ เพราะในย่านถนนช้างม่อย มีกล้องวงจรปิดของหน่วยงานรัฐติดตั้งอยู่หลายจุด















ร่วมแสดงความคิดเห็น