กรมชลฯ เดินหน้าอ่างเก็บน้ำแม่วาง เร่งผลศึกษา EIA หวังยกระดับคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรใน 3 อำเภอ จ.เชียงใหม่
เมื่อวันที่ 12 ต.ค.2565 ที่ห้องประชุมอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ นายพีระศักดิ์ ธีรบดี นายอำเภอแม่วาง เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความเห็นชาวแม่วาง สันป่าตอง ดอยหล่อ เร่งศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมอ่างฯ แม่วาง กรมชลประทานตั้งเป้าแก้ปัญหาแล้งซ้ำซาก ให้ราษฎรสองฝั่งลำน้ำแม่วาง สร้างความมั่นคงด้านน้ำ เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้ราษฎร 82 หมู่บ้าน

นายสุรชาติ มาลาศรี ผู้อำนวยการ สำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน มอบของที่ระลึกให้นายอำเภอแม่วาง จากนั้น นายสุรชาติ เปิดเผยว่า ราษฎรที่อาศัยในเขตอำเภอแม่วาง อำเภอสันป่าตอง และ อำเภอดอยหล่อ รวม 11 ตำบล 82 หมู่บ้าน ประสบปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมมายาวนาน ตั้งแต่ปี 2528 ทั้งนี้ราษฎรทั้ง 3 อำเภอ อาศัยน้ำจากลำน้ำแม่วางและลำห้วยสาขาเป็นหลัก เพื่อใช้ทำการเกษตรและอุปโภค-บริโภค ในช่วงฤดูแล้งน้ำในลำน้ำดังกล่าว มีปริมาณน้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้น้ำ ด้านพื้นที่การเกษตรก็ขาดแคลนน้ำ ผลผลิตได้รับความเสียหาย และช่วงฤดูฝนน้ำในลำน้ำแม่วางไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่เกษตรสองฝั่งลำน้ำ กรมชลประทานจึงได้ใช้รูปแบบโครงการก่อสร้างขนาดเล็ก ที่เหมาะสมกับสภาพทางธรณีวิทยาเพื่อแก้ไขปัญหา โดยการสร้างฝายทดน้ำตลอดลำน้ำแม่วาง จำนวน 11 แห่ง สามารถเพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ได้ 45,500 ไร่
อย่างไรก็ดี เกษตรกรและราษฎรยังคงเดือดร้อนขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคน้ำ เพื่อการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งอยู่ จึงได้ทำหนังสือขอให้กรมชลประทานสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำแม่วาง ในปี 2547 และจากการจัดทำรายงานเพื่อวางโครงการ (Pre-feasibility Study) พบว่าพื้นที่หัวงานและอ่างเก็บน้ำมีพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตพื้นที่ชั้นคุณภาพลุ่มน้ำชั้น 1 อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขานและป่าแม่วาง นอกจากนี้ พื้นที่หัวงานและอ่างเก็บน้ำบางส่วน อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่วาง และอุทยานแห่งชาติออบขาน (เตรียมการ) ซึ่งต้องนำเสนอรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนอนุญาตตามขั้นตอนต่อไป

“กรมชลประทานเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ด้านการจัดหาแหล่งน้ำให้แก่พื้นที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ชลประทาน จึงได้เริ่มดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานการศึกษาความเหมาะสม และรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ‘โครงการอ่างเก็บน้ำแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่’ เมื่อกลางปี 2563 โดยที่ตั้งหัวงานอยู่บริเวณหมู่ 1 บ้านใหม่ปางเติม ตำบลบ้านกาด อำเภอแม่วาง กักเก็บน้ำต้นทุนเพิ่มได้ 25.42 ล้าน ลบ.ม เสริมสร้างความมั่นคงน้ำอุปโภค-บริโภค ส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรได้รวม 48,780 ไร่ ใน 3 อำเภอดังกล่าวข้างต้น แบ่งเป็นพื้นที่ชลประทานฤดูฝน 38,209 หมื่นไร่ ชลประทานฤดูแล้ง 20,489 ไร่ ช่วยบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำแม่วางช่วงหน้าฝน เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ในพื้นที่ อำเภอแม่วาง และยังช่วยรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่พื้นที่ป่าไม้บริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะพื้นที่ท้ายน้ำของลุ่มน้ำแม่วาง
ซึ่งภายหลังจากรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในการปัจฉิมนิเทศโครงการในวันนี้ (12 ต.ค.) กรมชลประทานจะนำความคิดเห็นของราษฎร มาปรับปรุงเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ นำเสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของทางคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) เป็นลำดับถัดไป”
นายสุรชาติ กล่าว “อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมามีการลงพื้นที่เพื่อประชุมรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มราษฎร กลุ่มเกษตรกร กลุ่มประกอบการล่องแพไม้ไผ่ ที่ได้รับผลกระทบอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินโครงการสนองต่อการพัฒนาและจัดหาแหล่งน้ำต้นทุน ในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในระยะยาว ทั้งเพื่อการชลประทาน อุปโภค-บริโภค พัฒนาการเกษตร การท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและความต้องการในอนาคตได้อย่างยั่งยืนที่สุด” ผู้อำนวยการสำนัก ฯ กล่าวตอนท้าย
จากนั้นนำคณะสื่อมวลชนพร้อมประธานเหมืองฝายในพื้นที่ ลงตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่วางดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านเห็นด้วยให้สร้างเพื่อประโยชน์ด้านการเก็บกักน้ำ และเพื่อป้องกันน้ำท่วม และเพื่อการท่องเที่ยวต่อไป







ร่วมแสดงความคิดเห็น