เมื่อคืนวันที่ 31 ต.ค. 2565 บรรยากาศงาน ”วันปล่อยผี“ หรือ เทศกาลวันฮาโลวีนที่เมืองเชียงใหม่สุดคึกคัก หลังจากที่ไม่ได้จัดงานมานานเกือบ 3 ปีเต็ม จากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น และในปีนี้หลังมาตรการผ่อนคลายจากสถานการณ์โควิดที่กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้วก็เริ่มมีการจัดกิจกรรมและเทศกาลานประเพณีต่างๆ กันมากขึ้นเกือบจะ 100 เปอร์เซ็นต์กันแล้ว
รวมทั้งงานฮาโลวีนของปีนี้ด้วย ซึ่งเมืองเชียงใหม่เองมีการจัดกกรรมขึ้นหลายแห่งส่วนใหญ่เป็นของห้างร้าน ของเอกชน เช่นเดียวกันกับงานฮาโลวีนที่ย่านถนนนิมมานเหมินทร์ ใจกลางแหล่งท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ในตอนนี้ ที่เดอะ วัน นิมมาน ได้มีการจัดงานเทศกาลฮาโลวีนประจำปี 2565 ขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ต้องงดไป 2 ปีด้วยกัน บรรยากาศภายในงานมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทย ชาวต่างชาติ รวมทั้งชาวเชียงใหม่พาครอบครัวบุตรหลานแต่งผีสารพัดผีออกมาร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคักตั้งแต่หัวค่ำ ปีนี้มีการจัดงานภายใต้ธีมงาน “วันพระโขนง” โดยมีการจัดกิจกรรมเล่นสนุกแจกของรางวัย ออกร้านจำหน่ายอาหารและเครื่อดื่ม ส่วนเวทีกลางมีการจัดการประกวดแฟนซีฮาโลวีน เปิดโอกาสให้ทุกเพศทุกวัยร่วมกันแต่งผีมาร่วมประกวดเพื่อชนะใจคนดูและกรรมการ
โดยมีทั้งเด็กๆ ชาวไทย และต่างชาติ มาร่วมกิจกรรมแบบจัดเต็มแต่เป็นสารพัดผี ทั้งผีไทย ผีอินเดีย ผีญี่ปุ่น ผีเกาหลีผีฝรั่ง รวมไปถึงผีห้องแอร์ก้อมากันเมที่ แม้แต่น้องหมายังมีในธีมชุดฮาโลวีนกับเค้าด้วย และที่ถือว่าสะดุดตา และสร้างความแตกตื่นให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมงาน แม้แต่จะขอถ่ายภาพด้วยยังกล้าๆกลัวๆ คือสองพี่น้องที่มีในทีมผีจากภาพยนต์ดังเรื่องบุพผาราตรี ที่แต่ออกมาได้สยดสยองน่ากลัวมากที่สุด
โดยคุณแม่ปิยฉัตร อุตมะพูนเกียรติ เปิดเผยว่าตนเองมีอาชีพเป็นเซลล์อุปกรณ์การแพทย์ แต่มีความชื่นชอบเรื่องของศิลปะการแต่งหน้าแบบเอฟเฟคจึงได้ศึกษา และทดลองจนชื่นชอบ และลูกๆก็ชื่นชอบสไตน์การแต่งพร๊อปแบบผีๆ ด้วยและช่วงนี้ยังปิดภาคเรียนอยู่เลยพา น้องถุงเพชร อายุ 6 ขวบ และน้อง รถพอร์ช อายุ 10 ขวบ มาเที่ยวหาญาติที่เชียงใหม่พอทราบข่าวว่ามีกิจกรรมฮาโลวีนที่ เดอะ วัน นิมมาน เลยชวนลูกมาร่วมงาน ชุดและของแต่งหน้าบางส่วนก็มีอยู่เดิมแล้วเพียงแต่ต้องแต่งเพิ่มอีกคนละประมาร 1 ชั่วโมงเศษ ก็ออกมาอย่างที่เป็นเป็นผีจากภาพยนต์เรื่องบุพผาราตรี พอเห็นคนชื่นชอบก็ชื่นใจกัทั้งครอบครัว แต่ก็แอบเหนบางคนกลัวจริงๆ เพราะแต่ออกมาเหมือนมากแม้แต่ถ่ายรูปยังไม่ค่อยกล้าจะยืนใกล้เลย คืนนี้ก็ไม่น่าจะพลาดรางวัลใดรางวัลหนึ่งอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามบรรยกาศในงานแม้จะมีผู้คนคึกคัก แต่ก็ไม่ถึงกับแอดอัดจนเบียบเสียดยัดเยียด ยังมีพื้นที่ส่วนต่างๆ ให้ทำกิจกรรม ทั้งโซนเวทีการประกวด โซนอาหารร้านค้า และโซนนั่งเล่น ส่วนใหญ่พาบุตรหลานมาร่วมกิจกรรมเป็นสีสันวันฮาโลวีน และอาหารได้ทานเป็นมื้อค่ำก่อนกลับบ้าน ซึ่งงานก็เสร็จเพียง 21 .00น. เท่านั้น
ร่วมแสดงความคิดเห็น