(มีคลิป) ลุยตรวจศูนย์เรียนรู้กลางป่า หลังถูกร้องเรียนเปิดเป็นคลินิกเถื่อน

YouTube video

ลุยตรวจศูนย์เรียนรู้กลางป่า หลังถูกร้องเรียนเปิดเป็นคลินิกเถื่อน พบเคยเปิดรักษามะเร็งมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อสองปีก่อน

ช่วงสายวันนี้ นายภควัต ขันธหิรัญ นอภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.แม่ริม เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ ทต.ขี้เหล็ก เข้าตรวจสอบพื้นที่กลางป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม บ้านป่าแง หมู่ 7 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่ริม หลังได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.แม่ริม รวมทั้งร้องเรียนตรงไปถึงกระทรวงสาธารณสุข ว่าพื้นที่แห่งนี้เปิดให้บริการรักษาโรค ในลักษณะเป็นสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังมีปัญหาทิ้งน้ำเสียและขยะติดเชื้อสร้างปัญหาให้กับชาวบ้าน

การตรวจสอบพบสถานที่ดังกล่าวขึ้นป้ายไว้ว่า “ศูนย์การเรียนรู้การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ชนเผ่า สมุนไพรนวลจันทร์” ระบุมีหนังสือจดแจ้งเป็นเครือข่ายวัฒนธรรม ปราชญ์ชาวบ้าน เลขที่ 103/2564 ในพื้นที่มีอาคารชั้นเดียวหนึ่งหลัง ภายในเปิดโล่ง มีเตียงสำหรับการรักษาประมาณ 20 เตียง มีผู้ที่เข้าไปรักษาทั้งที่นอนอยู่บนเตียง และนั่งเก้าอี้รอการรักษาเกือบ 20 คน ในอาคารมีป้ายระบุว่าศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ เปิดทำการมาตั้งแค่ปี 2556 ให้บริการรักษาอาการเจ็บป่วยด้วยวิธีการแพทย์พื้นบ้าน เพื่อบรรเทาทุกข์และลดค่าใช่จ่ายของผู้ป่วยในการรักษาจากแพทย์แขนงต่างๆ แล้วไม่ดีขึ้น และต้องเสียค่าใช่จ่ายไปเป็นจำนวนมาก

และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าสที่สาธารณสุข พบว่ามีการให้บริการตรวจวินิจฉัยอาการและรักษา รวมทั้งมีอุปกรณ์เครื่องใช้ในการรักษาจำนวนหนึ่ง รวมทั้งยังมีการการจัดทำเวชระเบียนผู้ป่วยไว้ด้วย นอกจากเปิดให้การรักษาผู้ป่วย ยังมีการเปิดเป็นศูนย์ดับไฟป่าพญาอินทรีย์แม่ริม มีรถติดสติกเกอร์และไฟไซเรนจอดอยู่อีก 2 คัน

นายประเดิม ส่างเสิน อายุ 53 ปี ผู้อำนวยการศูนย์ฯ ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ได้เปิดเป็นสถานพยาบาล แต่เป็นศูนย์เรียนรู้ ผู้ที่มารักษาจะได้องค์ความรู้กลับไปรักษาตัวเองที่บ้าน โดยผู้ป่วยที่มารักษาก็ต้องมารับบัตรคิวและทำประวัติ ตรวจสอบอาการเพื่อรักษา โดยยอมรับว่ามีการเก็บเงินค่ารักษา แต่ถ้าไม่มีเงินมาก็มาคุยกันได้ อาจมาร่วมเป็นจิตอาสาช่วยเหลือกันได้ ส่วนวิธีการรักษาก็คือ การนวด กดเส้น นอนยา แช่ยา ฝังยา เผายา เหยียบเหล็กแดง ย่ำขาง ด้วยสมุนไพร ยืนยันไม่ได้เป็นสถานพยาบาลที่ต้องขออนุญาต ส่วนที่ถูกร้องเรียน น่าจะเป็นเรื่องของการทำงานของตนเอง ที่เป็นหมอพื้นบ้านที่ต้องมีการรักษาป่าไปด้วย เพราะหากไม่มีป่าก็ไม่มีสมุนไพร เชื่อว่าจะมีคนเสียผลประโยชน์ในเรื่องป่า โดยในปี 2564 เคยถูกร้องเรียนมาครั้งหนึ่ง จนมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและสั่งระงับไปช่วงหนึ่ง

ด้าน นอภ.แม่ริม เปิดเผยว่า มีการร้องเรียนเข้ามาหลายประเด็น เรื่องแรกเป็นกรณีการเข้าไปบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เรื่องนี้ตรวจสอบแล้วพบว่าพื้นที่ป่าผืนนี้ เป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ต่อมา กรมส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์ ได้รับอนุญาตให้เข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่ประมาณ 8,200 ไร่ โดยอยู่ระหว่างการจัดสรรพื้นที่ให้สมาชิกสหกรณ์ราว 700 ราย ได้เข้ามาทำกิน ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อการเกษตร ประเด็นนี้จึงไม่มีปัญหาเพราะอยู่ระหว่างการแบ่งเขตจัดสรรพื้นที่ ของกรมส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์

อีกประเด็น คือการเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีการอ้างว่าเป็นการให้บริการรักษาแบบแพทย์พื้นเมือง ไม่ได้เป็นแพทย์แผนไทยหรือแผนปัจจุบันที่ต้องขออนุญาต เรื่องนี้ได้มอบหมายให้สาธารณสุขอำเภอตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูว่าเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล , พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ หรือ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนเรื่องการปล่อยน้ำเสียและขยะติดเชื้อ พบว่ามีการทำสัญญากับบริษัทเอกชน ในการกำจัดขยะติดเชื้อจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและปกครอง อ.แม่ริม ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ศูนย์แห่งนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว โดยพบว่ามีการเปิดให้บริการรักษาโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ พบเวชภัณฑ์หลายรายการทั้งเข็มฉีดยาและเครื่องบดสมุนไพร ซึ่งหลังตรวจสอบเจ้าหน้าที่ระบุว่า มีลักษณะการให้บริการเข้าข่ายเป็นสถานพยาบาลและไม่มีใบอนุญาต ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล โดยมีการทำบันทึกรายงานข้อเท็จจริงไปยังสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นศูนย์แห่งนี้ ได้หยุดให้บริการไประยะหนึ่ง ก่อนจะกลับมาเปิดใหม่และถูกร้องเรียนอีก

ร่วมแสดงความคิดเห็น