ปางช้างแม่สา จัดงาน “วันช้างไทย” 13 มี.ค. 66 เลี้ยงสะโตกช้างเด็ก วอนขอให้หันมาร่วมกันอนุรักษ์ช้าง ที่ยังคงลำบากในหลายพื้นที่
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2566 เวลา 11.00 น. ที่บริเวณเดอะช้าง 2 (เนอสเชอรี่) ปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่มีช้างเลี้ยงอยู่จำนวน 68 เชือก ได้จัดงานวันช้างไทย โดยจัดเลี้ยงสะโตกผลไม้นานาชนิดให้แก่ช้างน้อย จำนวน 5 เชือก ที่เกิดในเดือนมีนาคม ได้แก่พลายปางขวัญ เกิด 14/3/2549, พังมีนา เกิด 1/3/2551, พังรุ่งฟ้า เกิด 13/3/2560 พังเอื้องคำ เกิด 23/3/2560 และพลายขุนศึก เกิด 26/3/2560 และช้างทุกเชือกนี้เป็นช้างที่เกิดใน “โครงการสืบสานสายพันธ์ช้างไทย” ของปางช้างแม่สาซึ่งช้างที่เกิดในโครงการนี้ มีมากกว่า 33 เชือก

นางอัญชลี กัลมาพิจิตร ผู้บริหารปางช้างแม่สา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทางปางช้างแม่สา ได้จัดทำสะโตกเลี้ยงช้าง ซึ่งเป็นอาหารเสริมของช้าง จำพวกผลไม้ซึ่งช้างที่เราจะเลี้ยงในปีนี้ ก็เป็นช้างเล็กที่มีวันเกิดในเดือนมีนาคม ซึ่งมีประมาณ 5 เชือก และส่วนช้างเชือกอื่นนั้น เราก็จะแบ่งจัดสรรปันส่วนให้เป็นพวกข้าวโพด หญ้า ที่จะนำไปเลี้ยงช้าง ซึ่งเป็นปกติของทุกๆ วัน ซึ่งเราต้องเตรียมอาหารไปเลี้ยงช้างวันนึงประมาณ 9 – 10 ตัน สำหรับช้างจำนวน 68 เชือก ที่อยู่ในปางช้างแม่สา ซึ่งในปีนี้เราก็ไม่มีอะไรพิเศษ เนื่องจากว่าค่าใช้จ่ายของปางเรา ก็ยังคงติดลบอยู่ ก็อาจจะเป็นเรื่องของสถานการณ์ PM 2.5 และเรื่องของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังไม่มากพอที่จะมาซัพพอร์ตกิจการของปางช้าง และจะสังเกตได้ว่าในช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์นี้มีคนมาใช้บริการน้อยมากๆ จากปกติ ซึ่งน่าจะอยู่ที่ประมาณ 300 – 400 คน แต่เสาร์ - อาทิตย์นี้มีประมาณ 100 คนต้นๆ ซึ่งแสดงถึงสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
ในส่วนเรื่องสถานการณ์ช้างเลี้ยงในตอนนี้ ก็ยังเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเรื่องของไฟป่า เรื่องของฝุ่นละออง หมอกควันต่างๆนานา ควาญก็ต้องดูแลเอาใจใส่ สถานที่ที่เลี้ยงช้าง ซึ่งช้างไทยก็ยังคงอยู่ในช่วงที่เรียกว่ายังลำบากอยู่ สำหรับคนเลี้ยงช้างก็ยังคงลำบากอยู่เช่นกันสถานการณ์ก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่ว่าทัวร์จีนจะมีเข้ามาเป็นจำนวนมาก ก็ยังคงไม่มากเท่าที่ควร สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องของ PM 2.5 อย่างที่กล่าวไปแล้ว

ซึ่งในวันช้างไทย เราก็จะฉลองเพื่อให้ได้เห็นถึงความสำคัญของ “วันช้างไทย” และตระหนักถึงความสำคัญของช้าง เพื่อที่เราจะได้ช่วยกันอนุรักษ์ช้าง โดยเฉพาะที่ปางช้างแม่สา เราก็มีช้างที่ชราภาพ มีช้างที่ไม่ได้ทำงานแล้วอยู่หลายเชือก ที่เราดูแลอยู่ และความตั้งใจของเรานั้น เพื่อต้องการที่จะปรับปางช้างแม่สา ให้เป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างแม่สา เพราะฉะนั้นในเรื่องของการแสดงช้างหรือการใส่แหย่งช้าง ให้นักท่องเที่ยวขี่บนหลังช้าง เราไม่ทำแล้ว อันนี้ก็เป็นการยืนยันว่าโดยสภาพของช้างเลี้ยงของปางเราไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำมาใส่แหย่ง แล้วก็ช้างเล็กหรือว่าช้างของปางช้างแม่สา ก็ชินกับสภาพที่ไม่ได้ทำงานมาหลายปีเนื่องจากสถานการณ์โควิด และปางช้างแม่สาก็ไม่ได้มีการฝึกช้าง แล้วช้างบางส่วนก็ปลอดโซ่ไปแล้ว และอยู่อย่างเป็นอิสระ เพราะฉะนั้นจะให้เข้ามาสู่ระบบของการแสดง หรือว่าการใส่แหย่งนี่ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว ก็ขอให้ทุกท่านช่วยหันมาดูแลช้างไทย ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของชาติ แล้วก็ยังมีความลำบากอยู่ในหลายพื้นที่ ช้างก็ยังมีความลำบากอยู่ ก็ขอฝากไว้ในโอกาส “วันช้างไทย” 13 มีนาคม ปี 2566 นี้ด้วย ขอบคุณค่ะ นางอัญชลีกล่าว

ทางด้านนางรัตนา ศรีหมอก ผู้จัดการปางช้างแม่สา เปิดเผยว่า “วันช้างไทย” วันนี้ทางปางช้างแม่สา จัดกิจกรรมเล็กๆ โดยนำช้างของปางช้างแม่สา มากินเค้กผลไม้ซึ่งเป็นวันเกิด “พังรุ่งฟ้า” จะมีอายุครบ 5 ขวบในวันนี้ โดยในปีนี้เราไม่ได้จัดกิจกรรมใหญ่โตมากมาย แต่เรามีความตั้งใจที่จัดทำสะโตกผลไม้ เพื่อฉลองวันเกิด ของพังรุ่งฟ้า ที่เกิดตรงกับ วันช้างไทยในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ขอเชิญชวนคนรักช้าง สามารถช่วยสนับสนุนอาหารช้าง หรือสามารถเดินทางมาร่วมมอบอาหารช้าง ได้ด้วยตนเอง หรือ ผู้ที่รักช้างที่มีจิตเมตตาต่อช้าง สัตว์สัญลักษณ์ของชาติไทย สามารถโอนเงินร่วมสบทบทุนในการจัดกิจกรรมได้ที่ บัญชีของ ”มูลนิธิอนุรักษ์ช้างไทย” ชื่อ มูลนิธิอนุรักษ์ช้างไทย Elephant Conservation Foundation ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาข่วงสิงห์ หมายเลขบัญชี 531 0 66551 7 หากต้องการใบเสร็จรับเงินของมูลนิธิฯ สามารถแจ้ง เบอร์โทร 081-882- 3738, 089-838-4242, 053-206-247, 053-206-248 info@maesa elephantcamp.com





ร่วมแสดงความคิดเห็น