คืบหน้าล่าสุด มรดกโลกเชียงใหม่ ลุ้นปี 69 ยูเนสโก้ลงพื้นที่สำรวจ ก่อนรับรองปี 70

วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สภาเมืองเจียงใหม่ร่วมกับหลายภาคส่วน จัดการประชุมสภาเมืองเจียงใหม่ ครั้งที่ 3/2568 เพื่อรับทราบความคืบหน้าล่าสุดของกระบวนการผลักดันเชียงใหม่สู่มรดกโลก ดำเนินรายการโดย นายศุภฤกษ์ ภาวิไล คณะทำงานและเลขานุการ คณะทำงานเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อน นำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลก ภายหลังจากที่คณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม มีมติเห็นชอบ เอกสารนำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของแหล่งอนุสรณ์สถานและภูมิทัศน์วัฒนธรรมเชียงใหม่ นครหลวงล้านนา เป็นแหล่งมรดกโลก

โดยการประชุมครั้งนี้ เริ่มต้นด้วยวิดีทัศน์บันทึกการบรรยายความเป็นมาของมรดกโลก โดย นายบรเวท รุ่งรุจี ประธานคณะทำงานและเลขานุการ คณะทำงานเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อน นำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลก ตามมาด้วย การเสวนาเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วยการเพิ่มจำนวนแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมรดกโลกในประเทศไทย โดยนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งนายกจักรพลเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม มีมติเห็นชอบ เอกสารนำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของเชียงใหม่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้กำชับให้เดินหน้าการขับเคลื่อนเชียงใหม่สู่มรดกโลก โดยเชียงใหม่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 8 ล้านคน แม้นักท่องเที่ยวจีนที่เคยมาประจำจะลดลง แต่มีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย และเกาหลีใต้เข้ามาทดแทนเพิ่มขึ้น โดยการที่เชียงใหม่ยกระดับเป็นมรดกโลก จะช่วยสร้างให้เชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง
.
ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีแหล่งติดบัญชีรายชื่อเบื้องต้นของมรดกโลก ใน 5 จังหวัด รวมถึงเชียงใหม่ ซึ่งหากเชียงใหม่ได้เป็นมรดกโลก จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของวัฒนธรรมล้านนาที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 730 ปี ประกอบกับนโยบาย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อให้เกิดการร่วมมือให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ขณะที่ภาคท้องถิ่น หากมีการส่งเอกสารนำเสนอแล้วในปลายปีนี้ จะมีเจ้าหน้าที่จากยูเนสโก้ เข้ามาสำรวจแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม ภายในไตรมาส 2 ของปี พ.ศ. 2569 สำหรับการเตรียมพร้อม ทางกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้เตรียมนโยบายรองรับ รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรี ได้สนับสนุนงบประมาณ 700 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวและรายได้ในพื้นที่ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นของมรดกโลก เพื่อสร้างความมั่นใจต่อการเตรียมความพร้อมทางการท่อลเที่ยวต่อเจ้าหน้าที่ที่สำรวจพื้นที่แหล่งมรดกวัฒนธรรมในเชียงใหม่

การเสวนาหัวข้อต่อไปเรื่อง การสนับสนุนการจัดทำเอกสารฉบับสมบูรณ์และการเตรียมความพร้อมในแหล่งซึ่งจะนำเสนอเป็นมรดกโลก โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง นายสมชาติ วัฒนากล้า รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้เสนอให้เชียงใหม่ติดบัญชีรายชื่อมรดกโลกกว่า 10 ปีแล้ว หากไม่ส่งเอกสารนำเสนอในปีนี้ จะต้องเสียระยะเวลาเริ่มต้นใหม่อีก 5 ปี โดยครั้งนี้ทาง อบจ.ได้ว่าจ้างสมาคม ICOMOS ไทยเพื่อขับเคลื่อนเชียงใหม่เป็นมรดกโลก จำนวนเงิน 7.5 ล้านบาท หลังจากเคยขับเคลื่อนแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมศรีเทพ และภูพระบาท เป็นมรดกโลกมาแล้ว และได้มีการประสานงานกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำสั่งเร่งด่วนเพื่อให้การดำเนินการเกิดขึ้นจริง ส่งผลให้เอกสารนำเสนอเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย โดยวันที่ 26 สิงหาคมจะมีการนำเสนอคณะกรรมการมรดกโลกแห่งชาติ หากผ่านแล้ว จะต้องนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป ก่อนส่งเอกสารนำเสนอให้องค์การยูเนสโก้ในที่สุด โดยแต่ละประเทศจะนำเสนอแหล่งมรดกโลกต่อองค์การยูเนสโก้ได้ปีละแหล่ง
.
หลังจากนี้ จะต้องมีการเตรียมพร้อมระบบพื้นฐานและสาธารณูปโภคในแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่นำเสนอ 8 เดือน ก่อนเจ้าหน้าที่จาก ICOMOS เข้ามาสำรวจและตรวจสอบความพร้อมในช่วงปี พ.ศ. 2569 โดยเฉพาะความพร้อมในการรับรองนักท่องเที่ยวที่จะมีมากขึ้นหากได้รับรองเป็นมรดกโลกแล้ว ดังนั้น ชาวเชียงใหม่จะต้องร่วมมือกันเตรียมความพร้อมในการผลักดันให้มรดกโลกเชียงใหม่ประสบความสำเร็จในยุคของเรา ซึ่งความพร้อมในการเดินทางไปยังแหล่งมรดกโลก ทาง อบจ. ได้จัดเตรียมโครงการรถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้า โดยได้ขอสัมปทานจากกรมขนส่งทางบกแล้ว 2 เส้นทาง และจะมีการขอเพิ่ม อีก 1 เส้นทาง ซึ่งรถโดยสารประจำทางพลังงานไฟฟ้าของ อบจ. จะมีเส้นทางที่วิ่งผ่านแหล่งมรดกโลกตั้งแต่อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย คูเมืองเชียงใหม่ เพื่อรองรับการเดินทาง พร้อมจุดจอดรถ ระบบอำนวยความสะดวกต่างๆ และเชื่อมโยงกับรถสี่ล้อแดง โดยคาดว่าหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ศึกษาเสร็จปลายเดือนกันยายนนี้ จะเข้าสู่ขั้นตอน TOR เพื่อให้บริการสายละ 10 คัน รอบวิ่งไม่เกิน 10 นาที ภายในกลางปี พ.ศ. 2569 ซึ่งเชื่อมโยงกับโครงข่ายรถรางไฟฟ้า 2 สายของโครงการลานนาทีค ไนท์บาซ่า และคูเมืองเชียงใหม่ ที่จะเปิดให้บิรการปลายปีนี้ และโครงการรถสี่ล้อแดงพลังงานไฟฟ้า ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ด้วย

ด้านนายศุภฤกษ์ ภาวิไล คณะทำงานและเลขานุการ คณะทำงานเร่งรัดดำเนินการขับเคลื่อน นำเสนอแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมเมืองเชียงใหม่เป็นมรดกโลก ได้กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกระบวนการนำเสนอเอกสารฉบับสมบูรณ์และแนวทางการเตรียมความพร้อมของเชียงใหม่ ว่า กระบวนการอนุมัติให้แหล่งมรดกวัฒนธรรมเชียงใหม่ก้าวสู่มรดกโลก คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ โดยแหล่งวัฒนธรรมเชียงใหม่ที่จะนำเสนอเป็นมรดกโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่ตัวเมือง ทำให้การนำเสนอครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะมีแค่ภาครัฐผลักดันเท่านั้น แต่ยังมีภาคประชาสังคมกลุ่มต่างๆเข้าร่วมด้วย ยิ่งเชียงใหม่เป็นมรดกโลกเร็วเท่าไหร่ จะยิ่งได้รับการอนุรักษ์เร็วมากขึ้น พร้อมๆกับโอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
.
ตามมาด้วย การเสวนาเรื่อง การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ การมีส่วนร่วม เตรียมความพร้อมการตรวจสอบพื้นที่ 8 แหล่ง เมืองเชียงใหม่ โดยผู้แทนจากองค์การยูเนสโก้ในช่วงกลางปี พ.ศ. 2569 โดยนายแพทย์ธีรพัฒน์ ตันพิริยะกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่ง เชียงใหม่ปัจจุบันไม่ได้จะเป็นแค่มรดกโลก แต่ยังเป็นเมืองสร้างสรรค์ขององค์การยูเนสโก้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 แล้ว ซึ่งการสร้างแบรนดิ้งทั้งมรดกโลกและเมืองสร้างสรรค์ ถือเป็นโจทย์ใหญ่ของ อบจ. ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่ยังมีปัญหาด้านการสื่อสารและการสร้างความรับรู้ในภาคประชาชน ดังนั้น การสร้างความรับรู้ความเข้าใจ ได้มีการสร้างเว็ปไซต์ สื่ออนไลน์ แผ่นพับ เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูลแก่ประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งมีการผ่านงบประมาณการทำศูนย์รวมการท่องเที่ยวของจังหวัด เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวต่างๆ ของเชียงใหม่ รวมถึงดารสร้างอัตลักษณ์ใหม่ ในการเตรียมพร้อมวาระครบรอบสถาปนาเมืองเชียงใหม่ 730 ปี โดยได้มีการร่วมมือกับนักออกแบบคนรุ่นใหม่ระดับโลก ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนและหน่วยงานภาคส่วนต่างๆได้นำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ โดยเฉพาะมรดกโลก ทาง อบจ. จะเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าร่วมเพื่อให้ประชาสังคมเชียงใหม่มีส่วนร่วมและสร้างความรับรู้ในหมู่ชาวเชียงใหม่มากขึ้น ซึ่งหากเชียงใหม่ได้เป็นมรดกโลก จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของชาวเชียงใหม่ด้วยกัน


ปิดท้ายด้วย การเสวนาเรื่อง โอกาสทางเศรษฐกิจต่อภาคการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่เมื่อเป็นแหล่งมรดกโลกที่มีชีวิตแห่งแรกของประเทศไทย โดย นางวาสนา ทองสุข ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนางวาสนากล่าวว่า หากเชียงใหม่เป็นมรดกโลก จะกลายเป็นแหล่งมรดกโลกที่มีชีวิตแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งจะสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ชาวเชียงใหม่ โดยภาคการท่องเที่ยวจะได้รับอานิสงค์อย่างแน่นอน จากนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามามากขึ้น ด้านเศรษฐกิจ จะมีการก่อสร้าง บูรณะปฏิสังขรณ์ แหล่งมรดกโลก เกิดการค้าขาย และการลงทุนจากหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศที่จะเข้ามาเมื่อเป็นมรดกโลก และเป็นพื้นที่ต้นแบบ Soft power วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีล้านนา ซึ่งจะต่อยอดไปถึงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่นแฟชั่น อาหาร ดนตรี ศิลปะ การแสดง ไปถึงระดับสากล ด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน เชียงใหม่จะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่ต้องการจากทั่วโลก

ร่วมแสดงความคิดเห็น