ผวจ.เชียงราย เปิดภารกิจดับไฟป่าด้วยอากาศยาน CASA และมอบเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้แจ้งเบาะแสมือเผาป่า
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 2 เม.ย. 66 นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ร่วมแถลงข่าวเปิดปฏิบัติการดับไฟป่าด้วยอากาศยาน CASA และมอบเงินช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากภารกิจดับไฟป่าและผู้แจ้งเบาะแสมือเผาป่า จากกองทุนสนับสนุนและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงราย ประจำปี 2566 โดยมีนายวราดิศร อ่อนนุช รอง ผวจ.เชียงราย นายสมเกียรติ ปูกา ผอ.ทสจ.เชียงราย นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผอ.สบอ.15 นายรังสรรค์ บุศย์เมือง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ และตัวแทนหน่วยงาน นายอำเภอ เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว
ก่อนเริ่มการแถลงข่าว ผวจ.เชียงราย ได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการดับไฟป่าและผู้แจ้งเบาะแสผู้บุกรุกป่า โดยมอบผ่านนายอำเภอหรือตัวแทน โดยครั้งนี้มีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือในพื้นที่ อ.พาน อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เวียงชัย อ.เวียงเชียงรุ้ง และ อ.แม่สรวย เป็นเงิน 74,000 บาท

นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ จ.เชียงราย ต้องรับมือกับภารกิจควบคุมไฟป่าและหมอกควันครบรอบเดือนครึ่ง แต่ก็ยังพบว่ามีปัญหาหมอกควันในพื้นที่อยู่เยอะ วันนี้ได้รับความร่วมมือจากกรมฝนหลวงที่จะมาดำเนินการทำฝนหลวงในพื้นที่ของ จ.เชียงราย และวันนี้ยังได้มอบเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการดับไฟป่าและผู้ชี้เบาะแส ในส่วนของภารกิจไฟป่าหมอกควันก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง โดยพบในโซนกลางของจังหวัด ได้แก่ อ.แม่จัน และในพื้นที่โซนใต้ได้แก่ อ.แม่สรวย และ อ.เวียงป่าเป้า โดยเมื่อวานตนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปพบปะและทำความเข้าใจ ขอความร่วมมือจากชาวบ้านพื้นที่ ต.วาวี อ.แม่สรวย เพื่อลดการเผาป่า และวันนี้ทีมงานของ สบอ.15 ก็จะลงพื้นที่ไปช่วยภารกิจที่ ต.ป่าแดด และ ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย โดยวันพรุ่งนี้จะไปช่วยภารกิจที่ ต.ป่าหุ่ง อ.พาน แต่ศูนย์ประสานงานหลักหรือ ศบก.ไฟป่า (ส่วนหน้า) ยังอยู่ที่ อ.แม่จัน ซึ่งยังพบว่ามีไฟป่าในพื้นที่รอยต่อของ อ.เมืองฯ และ อ.แม่จัน แต่จากสถิติก็ถือว่าลดลงเยอะ จากภาพรวมของทั้งจังหวัดพบจุดความร้อนประมาณ 100 กว่าจุด จากที่วันก่อนหน้ามีประมาณ 200 กว่าจุด เราพยายามจะควบคุมให้ได้ แต่เราก็ต้องมีตัวช่วยหลายอย่างเพื่อจะคลี่คลายสถานการณ์ให้เร็วที่สุด เพราะไม่แน่ใจว่าพายุฝนที่จะมาในช่วงวันที่ 6-7 เม.ย. จะเข้ามาในพื้นที่ จ.เชียงราย หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าเราก็ต้องดำเนินการก่อน เผื่อกรณีที่อากาศแปรปรวนจนไม่มีฝนตก เราจะไม่เอาคำพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยามาเป็นตัวชี้วัด จะต้องรีบดำเนินการคืนอากาศบริสุทธิ์ให้ชาวเชียงรายโดยเร็วที่สุด
นายรังสรรค์ บุศย์เมือง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวว่า เนื่องจากปัจจัยด้านสภาพอากาศที่ทำให้การก่อตัวและพัฒนาตัวของเมฆไม่เอื้ออำนวย ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรจึงปรับวิธีการปฏิบัติการภายใต้สถานการณ์วิกฤติหมอกควัน โดยใช้เทคนิคการโปรยน้ำแข็งแห้งหรือน้ำ เพื่อลดอุณหภูมิและทำให้สมดุลชั้นบรรยากาศผกผันที่กักฝุ่นละอองเปลี่ยนไปสู่สภาวะปกติ ซึ่งจะทำให้ฝุ่นละอองสามารถลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศได้ เป็นการบรรเทาปัญหาในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ หากสภาพอากาศเอื้อต่อการทำฝน เช่นมีแนวโน้มของความชื้นเข้ามายังพื้นที่ จะทำการบินปฏิบัติการทำฝน เพื่อให้เกิดเมฆและฝนในพื้นที่ต่อไป

ด้านนายสมเกียรติ ปูกา ผอ.ทสจ.เชียงราย เผยว่า ในช่วงที่ป่านมาได้เกิดจุดความร้อนขึ้นตามพื้นที่ต่างๆของจังหวัดเชียงรายขึ้นเป็นจำนวนมาก ผวจ.เชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการเกตุการตามแผนเผชิญเหตุ ได้สั่งบูรณาการกำลังทุกพื้นที่เข้าร่วมภารกิจควบคุมไฟป่า และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจดังกล่าวจำนวนหลายราย ซึ่งทาง จ.เชียงราย มีกองทุนที่จะมาช่วยเหลือเรียกว่า “กองทุนสนับสนุนและแก้ปัญหาไฟป่าและหมอกควันจังหวัดเชียงราย” โดยมีเงื่อนไขในการรับเงินช่วยเหลือ 3 ข้อ ได้แก่ แจ้งเบาะแสได้รายละ 5,000 บาท ได้รับบาดเจ็บรายละ 5,000 บาท และเสียชีวิตได้ 50,000 บาท ซึ่งทางผู้ว่าได้มีการประชุมผู้เกี่ยวข้องและมีมติที่จะมอบเงินช่วยเหลือให้กับผู้บาดเจ็บจำนวน 15 ราย ได้แก่ อ.แม่จัน 10 ราย อ.พาน 2 ราย อ.แม่ฟ้าหลวง 1 ราย อ.เวียงเชียงรุ้ง 1 ราย และ อ.แม่สรวย 1 ราย และผู้แจ้งเบาะแสจำนวน 1 ราย รวมเป็นเงิน 74,000 บาท
นายวราดิศร อ่อนนุช รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ในภาระหน้าที่ของกองบัญชาการส่วนหน้า ที่ได้รับมอบหมายจาก ผวจ.เชียงราย ซึ่งเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ทางศูนย์ได้ไปดำเนินการดับไฟในพื้นที่ ต.แม่ยาว อ.เม่อวเชียงราย เพื่อให้ทัศนวิสัยเอื้ออำนวยในการลงจอดของเครื่องบินพาณิชย์ จนสถานการณ์คลี่คลายลงไปแล้ว ตอนนี้จึงได้ย้ายการทำงานไปที่ดอยจระเข้ ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อ อ.แม่จัน และ อ.เมืองฯ มีพื้นที่เป็นแนวยาว มีผลกระทบสูง แต่ความยากลำบากในการทำงานคือ เจ้าหน้าที่และอาสาทำการดับไฟในช่วงกลางวัน แต่พบมีการจุดไฟเพิ่มในช่วงกลางคืน จึงต้องปรับยุทธวิธีโดยสนธิกำลังจากหลายภาคส่วนเพื่อปรับเปลี่ยนเวลาลาดตระเวณจากช่วงกลางวันเป็นช่วงกลางคืน ทำให้จุดฮอตสปอตลดลงอย่างเห็นได้ชัด คาดว่าในวันนี้สถานการณ์ในพื้นที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จะคลี่คลายดีขึ้น และวันพรุ่งนี้มีแผนจะเคลื่อนย้ายศูนย์ไปที่ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย เพื่อไปสมทบกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อไปควบคุมไฟป่าในพื้นที่ อ.แม่สรวย อ.พาน และ อ.เวียงป่าเป้า
นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผอ.สบอ.15 กล่าวว่า ในส่วนของ สบอ.15 ได้ร่วมกับทาง ผวจ.เชียงราย ทสจ.เชียงราย กำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.แม่สรวย เพื่อไปทำกิจกรรมเคาะประตูบ้านเพื่อไปทำความเข้าใจและขอความร่วมมือจากชาวบ้าน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี เห็นได้จาก ต.วาวี ที่เมื่อวานมีจุดความร้อน 10 จุด แต่วันนี้ไม่มีจุดความร้อนเลย วันพรุ่งนี้ก็จะไปดำเนินการในพื้นที่ ต.ป่าหุ่ง อ.พาน ในส่วนของการดับไฟเราได้รับการสนับสนุนทีมเสือไฟจาก จ.นครราชสีมา จำนวน 15 นาย และ จ.ขอนแก่น 15 นาย และมีเจ้าหน้าที่จากอุทยานข้างเคียงเข้ามาร่วมสมทบด้วย คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่ภาวะปกติได้




ร่วมแสดงความคิดเห็น