วอนหยุดปั่นกระแสโควิดพุ่ง วอนเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนที่ดิ่งเหว

วอนหยุดปั่นกระแสโควิดพุ่ง ชาวบ้าน ร้านค้า วอนเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนที่ดิ่งเหว

เครือข่าย อสม.พื้นที่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เปิดเผยว่า จากกรณี ที่มีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะนำมาตรการทางสาธารณสุข ในการร่วมด้วยช่วยกัน ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกระลอกหลังช่วงวันหยุดยาว

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ พบปะ เยี่ยมเยือน ผู้ป่วยในชุมชน ตามเขตรับผิดชอบ พบว่า ปัญหาที่ชาวบ้าน สะท้อนออกมาคือ มาตรการเฝ้าระวังรักษาตัวในบ้านพัก ซึ่งหลายๆ ครอบครัว มีผู้ติดเชื้อกันทั้งบ้าน

“บางชุมชน ในเขตบ้านหลวง ต.แม่แรง ติดกันยกครัว ทั้งคนแก่ เด็ก ต้องหยุดเรียน หยุดงาน ในรายที่รับจ้างทั่วไป รับค่าแรงรายวัน ลำบาก ยังโชคดี ที่มีผู้นำชุมชน มีผู้ใหญ่บ้านเข้มแข็ง ช่วยกันส่งข้าวปลา อาหาร ดูแลกันตามกำลัง แต่สิ่งที่จำเป็นคือ ยารักษา อาหาร แม้จะใช้สิทธิกรณีต่างๆแต่ส่วนใหญ่แล้ว จะได้รับยารักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ลดน้ำมูก แก้ไอ ยาฟ้าทะลายโจร ส่วน ยาฟาวิพิราเวียร์ น้อยมากที่จะได้ปัญหาที่ตามมาคือ มาตรการกักตัว ตามอาการ 5 วันถึง 10 วัน ทำให้ขาดรายได้ บางคนค้าขาย รับจ้างทั่วไป ลำบากกันมาก”

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ ร้านค้า ในพื้นที่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน กล่าวว่า กระแส ปั่นข้อมูลข่าวสาร โควิดพุ่ง ลามกันรายวันนั้น มีแต่จะสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งๆ ที่มาตรการทางด้านสาธารณสุข ควรดำเนินไปพร้อมกับกิจกรรม กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน เศรษฐกิจฐานราก เพราะถ้าติดโควิด-19 ป่วยก็รักษา ตามอาการ ส่วนใหญ่ผู้คน เรียนรู้จากประสบการณ์ช่วงโควิด ระบาดหนักมานาน เกือบจะ 3 ปีแล้ว อยากให้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดิ่งเหว ย่ำแย่กัน ขนาดลำไย ออกมาราคาขายแทบทรุดไม่คุ้มค่าจ้าง ค่าเก็บ ดูแลผลผลิตเลย พืชเศรษฐกิจที่ส่งเสริมกันปลูก เจ็งถ้วนหน้า ตอนนี้ โกโก้ ทุเรียนก็แข่งกันปลูกหลายๆ แหล่งใน
บ้านเรา อีกไม่นานราคาคงร่วงเหมือนลำไย

“ที่น่าห่วงคือ คนที่เสี่ยงติดโควิด-19 หรือป่วยแล้ว ไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการ ที่กำหนด ยังใช้ชีวิตตามปกติ ทานยารักษาอาการไป แตกต่างจากที่ผ่านๆ มา พอบ้านไหน มีผู้ป่วยติดเชื้อ จะมี อสม. มีชุดเจ้าหน้าที่ เข้าไป ปิดซอย ปิดพื้นที่ กักกัน ตรวจโรค แต่ภาพแบบนั้น แทบไม่รู้เลยว่า ใครป่วยใครติดโควิดบ้าง เพราะ ส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่บอก แจ้งใครในชุมชม ตามที่มีประชาคมกันไว้”

อสม.ในพื้นที่ อ.สันกำแพง, และเมืองแม่โจ้ จ. เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการพบปะพูดคุยกับครอบครัวผู้ป่วยโควิด-19 หลายๆ ราย เลือกที่จะรักษาตัวตามอาการ ไม่ค่อยให้ความร่วมมือตามมาตรการทางสาธารณสุข เข้าใจว่า มีความจำเป็นต้องดื้นรน ต้องทำมาหากิน แต่ก็ควรคำนึงถึงสุขภาพ ความปลอดภัยของชีวิตด้วย

“ผู้ป่วยส่วนหนึ่ง รับวัคซีนโควิด 2 เข็ม แต่มีความเสี่ยง ในชีวิตประจำวัน บางรายทำงานในสถานบันเทิง ซึ่งช่วงเปิดเทอมก็รู้ๆกันว่า เป็นช่วงที่นักศึกษา เที่ยวตามย่านบันเทิงกันเพียบ นอกจากนี้ ผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลาน เรียนตามสถานศึกษา ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ในการตรวจเอทีเค.ตามมาตรการ เฝ้าระวังของสถานศึกษา หลังช่วงวันหยุดยาว เท่าที่ทราบ ค่าใช้จ่าย บางเคส 58 บาท ถึง 70 บาท แล้วแต่สถานศึกษา ถ้าเขตรอบนอก ส่วนหนึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก อสม. ที่ประสานขอชุดตรวจจากผู้นำชุมชน จากท้องถิ่น ส่วนใหญ่ถ้าเป็นแรงงานข้ามชาติ ซื้อชุดตรวจตามกาดนัดทั้งนั้น 40-50 บาท เป็นภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก”

ร่วมแสดงความคิดเห็น