แข่งขันเซปักตะกร้อ”แม่สะเรียงคัพ ครั้งที่ 1 “ต้านภัยยาเสพติด”

แข่งขันเซปักตะกร้อ แม่สะเรียงคัพ ครั้งที่ 1 “ต้านภัยยาเสพติด” อบต.บ้านกาศ ยกระดับมาตรฐานการเล่นกีฬา รู้จักกฎ กติกา การเล่นกีฬาเซปักตะกร้อ ไม่พึ่งพาสิ่งเสพติด ส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน ประชาชนในชุมชนรู้รักสามัคคี รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ให้มีภูมิคุ้มกันยาเสพติดสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอแม่สะเรียง เป็นประธาน การแข่งขันเซปักตะกร้อ แม่สะเรียงคัพ ครั้งที่ 1 “ต้านภัยยาเสพติด” โดยมี นายสมคอย คำน้อย ประธานชมรมตระกร้อแม่สะเรียง นำผู้เข้าร่วมแข่งขันจากสโมสรลีกตะกร้อระดับประเทศ และทีมตะกร้อแม่สะเรียง รวมจำนวน 32 ทีม เข้าร่วมแข่งขัน ระหว่างวันที่ 29-30 กรกฎาคม ประจำปี 2565 ณ สนามกีฬา อบต.บ้านกาศ ต.บ้านกาศ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีวัตถุประสงค์การแข่งขันเซปักตะกร้อ “แม่สะเรียงคัพ ครั้งที่ 1” เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ห่างไกลยาเสพติด และเพื่อยกระดับมาตรฐานการเล่นกีฬาในท้องถิ่นให้พัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ รู้จักกฎ กติกา รวมถึงทักษะในการเล่นกีฬาเซปักตะกร้อระดับประเทศ ทั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กเยาวชน ประชาชนในชุมชนรู้รักสามัคคี รู้แพ้ รู้ชนะ รู้จักให้อภัย และการมีส่วนร่วมระหว่างชุมชน หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในท้องถิ่น ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข

กิจกรรมการแข่งขันครั้งนี้ ได้จัดการแข่งขันขึ้นทั้งหมด 2 รุ่น คือ 1.รุ่นประชาชนทั่วไป ไม่จำกัดอายุ มีทีมเข้าร่วมแข่งขัน จำนวน 22 ทีม 2.รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปีนักกีฬาต้องไม่เกิดก่อนปี พ.ศ.2549 ที่มาเข้าร่วมแข่งขัน มีจำนวน 10ทีม รวมทั้งสิ้น จำนวน 32 ทีม ดำเนินการจัดการแข่งขันตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2565 ถึง 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 และได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการ ผู้ตัดสินจากมหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตเชียงใหม่ พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานสากล และผู้เข้าร่วมแข่งขันจากสโมสรลีกตะกร้อระดับประเทศ และได้กำลังสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจในท้องถิ่น ที่ร่วมสนับสนุนในการแข่งขันเซปักตะกร้อ “แม่สะเรียงคัพ ครั้งที่ 1” ประจำปี 2565

ทั้งนี้นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอแม่สะเรียง กล่าวว่า การกีฬาถือเป็นกิจกรรมสำคัญกิจกรรมหนึ่งในการพัฒนาคน เพราะการเล่นกีฬาทุกประเภท จะต้องมีกฎ กติกาที่เป็นสากล ผู้เล่นเองต้องมีการเตรียมพร้อมตัวเองก่อนเล่นมิฉะนั้น จะเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ ที่สำคัญ นักกีฬาที่ดีจะต้องเล่นกีฬาด้วยหัวใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เอาชนะใจตนเอง เอาชนะใจคู่แข่งขันและเอาชนะใจคนดู จึงเรียกว่านักกีฬาที่แท้จริง

ร่วมแสดงความคิดเห็น